รัฐบาลร่วมเฉลิมฉลองยิ่งใหญ่ “วันมหาสงกรานต์” และ “วันผู้สูงอายุแห่งชาติ”

วันมหาสงกรานต์ 2568

วันสงกรานต์ ตรงกับวันที่ 13 เมษายนของทุกปี คำว่า “สงกรานต์” มาจากภาษาสันสกฤต แปลว่า การเคลื่อนที่ หรือการเคลื่อนย้าย หมายถึงการเคลื่อนย้ายของพระอาทิตย์จากราศีหนึ่งสู่อีกราศีหนึ่งคือ วันขึ้นปีใหม่ตามความหมายในภาษาสันสกฤต สงกรานต์จึงเกิดขึ้นทุกเดือน ส่วนระยะเวลาที่คนไทยเรียก “สงกรานต์” เป็นช่วงที่พระอาทิตย์เคลื่อนย้ายจากราศีมีนเข้าสู่ราศีเมษ นับว่าเป็นมหาสงกรานต์ เพราะเป็นวันและเวลาตั้งต้นปีใหม่ตามสรุยคติ ช่วงเทศกาลสงกรานต์คือ วันที่ 13 – 14 – 15 เมษายน โดยเรียกวันที่ 13 เมษายน ว่าวันมหาสงกรานต์ วันที่ 14 เมษายน เป็นวันเนา วันที่ 15 เมษายน เป็นวันเถลิงศก

เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2568 ฝ่ายโหรพราหมณ์ กองพระราชพิธี สำนักพระราชวัง ได้ประกาศ“สงกรานต์ 2568” ความว่า ปีมะเส็ง (มนุษย์ผู้ชาย ธาตุไฟ) สัปตศก จุลศักราช 1387 ทางจันทรคติ เป็น อธิกวาร ทางสุริยคติ เป็น ปกติสุรทิน วันที่ 14 เมษายน เป็นวันมหาสงกรานต์ ทางจันทรคติ ตรงกับวันอาทิตย์ แรม 1 ค่ำ เดือน 5 เวลา 04 นาฬิกา 28 นาที 28 วินาที นางสงกรานต์ ทรงนามว่า ทุงสะเทวี ทรงพาหุรัด ทัดดอกทับทิม อาภรณ์แก้วปัทมราค ภักษาหารอุทุมพร (มะเดื่อ) พระหัตถ์ขวาทรงจักร พระหัตถ์ซ้ายทรงสังข์ เสด็จไสยาสน์หลับเนตรมาเหนือหลังครุฑเป็นพาหนะ วันที่ 16 เมษายน เวลา 08 นาฬิกา 27 นาที 36 วินาที เปลี่ยนจุลศักราชใหม่ เป็น 1387 ปีนี้ วันศุกร์ เป็น ธงชัย, วันศุกร์ เป็น อธิบดี, วันพฤหัสบดี เป็น อุบาทว์, วันอาทิตย์ เป็นโลกาวินาศ

คำทำนายสำหรับปี พ.ศ. 2568 : บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของพืชพันธุ์ธัญญาหารและผลผลิตทางการเกษตร ประชาชนจะอยู่ดีกินดี มีความสุขสมบูรณ์

“สงกรานต์” ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมฯ ของยูเนสโก

เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566 ที่ประชุมคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการสงวนรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ สมัยสามัญ ครั้งที่ 18 ได้มีมติให้ขึ้นทะเบียน “สงกรานต์” หรือ “Songkran in Thailand, traditional Thai New Year festival” ในบัญชีรายชื่อตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ แห่งมวลมนุษยชาติ ภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ค.ศ. 2003 ของ UNESCO นับเป็นความภาคภูมิใจของไทยและเป็นการสร้างความตระหนักในคุณค่าและความสำคัญของสงกรานต์ในฐานะมรดกทางวัฒนธรรมและประเพณีที่สำคัญของไทย สะท้อนความหลากหลายทางวัฒนธรรมในภูมิภาคต่าง ๆ ของไทยด้วย ในปัจจุบันไทยได้ขึ้นทะเบียนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ในบัญชี RL แล้ว 6 รายการ ได้แก่ โขน (ขึ้นทะเบียนเมื่อปี 2561) นวดไทย (ขึ้นทะเบียนเมื่อปี 2562) โนรา (ขึ้นทะเบียนในปี 2564) สงกรานต์ (ขึ้นทะเบียนในปี 2566) ในปี 2567 ต้มยำกุ้ง (ขึ้นทะเบียน 4 ธันวาคม 2567) และ เคบายา ของไทย (ได้รับการขึ้นทะเบียน 4 ธันวาคม 2567) ร่วมกับ บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ได้จัดงานประเพณีสงกรานต์ ประจำปี 2568 ภายใต้แนวคิด “สงกรานต์บ้านฉัน สีสันแบบไทย สุขไกลทั่วโลก Once in a Lifetime : Experience Songkran in Thailand” ดึงวิถีประเพณีไทย อัตลักษณ์ที่โดดเด่น เสริมจุดแข็ง สร้างเสน่ห์ ให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องการมาเยือน มาร่วมสัมผัสเทศกาลสงกรานต์ ภายใต้ชื่องาน “เย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์” ที่จัดขึ้นทั่วประเทศอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อร่วมกันสืบสานประเพณีไทย นำเสนอความงดงามของวัฒนธรรมไทยและต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก พร้อมยกระดับประเพณีสงกรานต์สู่ World Event เป็นหมุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

สำหรับงานประเพณีสงกรานต์ ประจำปี 2568 มุ่งเน้นการจัดงานภายใต้กรอบแนวทาง 4 มิติ 17 มาตรการรณรงค์ ได้แก่ มิติด้านวัฒนธรรม มิติด้านเศรษฐกิจ มิติด้านสังคม และมิติด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อร่วมกันสืบสานประเพณีสงกรานต์ โดยเน้นเรื่องคุณค่าสาระที่ถูกต้องของวัฒนธรรม ประเพณีที่ดีงาม คำนึงถึงความเหมาะสมของแต่ละท้องถิ่นที่มีภูมิหลังของวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน เพื่อเป็นทุนทางวัฒนธรรมในการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจของชุมชนและของประเทศ รวมถึงการร่วมด้วยช่วยกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยกำหนดจัดงานในพื้นที่ 17 จังหวัด และพื้นที่ส่วนกลางกรุงเทพมหานคร

“วันผู้สูงอายุแห่งชาติ” เป็นวันที่ถูกผูกรวมไว้กับวันขึ้นปีใหม่ไทย (วันสงกรานต์) ซึ่งหน่วยงานและองค์กรทุกภาคส่วนก็ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมขึ้นทุกปี หลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติ (14 ธันวาคม 2525) ให้วันที่ 13 เมษายนของทุกปีให้เป็น “วันผู้สูงอายุแห่งชาติ” เพื่อแสดงออกถึงการยกย่องและเชิดชูเกียรติผู้สูงอายุซึ่งเป็นผู้ทำคุณประโยชน์แก่ชาติบ้านเมืองมาอย่างยาวนาน รัฐบาลรณรงค์และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทุกภาคส่วน และสังคม แสดงความรัก ความเอื้ออาทร ความผูกพัน และให้ความสำคัญกับผู้สูงอายุ ส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้สูงอายุมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ โดยเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2568 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดงานวันผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปี 2568 ภายใต้แนวคิด “คุณค่าผู้สูงวัย สานสายใยพลังครอบครัว” มีการเผยแพร่สารนายกรัฐมนตรี (นางสาวแพทองธาร ชินวัตร) เนื่องในวันผู้สูงอายุแห่งชาติ พร้อมย้ำว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับผู้สูงอายุและสถาบันครอบครัว ปัจจุบันประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมสูงอายุโดยสมบูรณ์ โดยรัฐบาลได้ดำเนินการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านผู้สูงอายุและสถาบันครอบครัว เพื่อให้มีความเข้มแข็งในทุกๆ มิติ ซึ่งผู้สูงอายุจะเป็นกลุ่มบุคคลผู้เป็นกำลังสำคัญที่จะมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนพัฒนาสังคมและประเทศไทยในอนาคต

สำหรับผู้สูงอายุ หมายถึง บุคคลทั้งเพศชายและเพศหญิงที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งในวันผู้สูงอายุแห่งชาติจะมีการจัดกิจกรรมรดน้ำขอพร มอบของขวัญและขอพรจากผู้สูงอายุตามหมู่บ้านและชุมชนต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยใช้ “ดอกลำดวน” เป็นสัญลักษณ์ของผู้สูงอายุ เนื่องจากต้นลำดวนเป็นพืชยืนต้น เป็นต้นไม้ที่ให้ความร่มเย็น ลำต้นมีอายุยืน มีใบเขียวตลอดปี ให้ร่มเงาดีและมีดอกสีนวล กลิ่นหอม กลีบแข็งไม่ร่วงง่ายเหมือนกับผู้ทรงชัยวุฒิที่คงคุณธรรมความดีงามไว้ให้เป็นแบบอย่างแก่ลูกหลานตลอดไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง