จีน รับรอง Lab ตรวจ BY2 ทุเรียนไทย แล้ว 10 แห่ง “นฤมล” มั่นใจเพียงพอรองรับฤดูกาลทุเรียน

ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตามข้อสั่งการของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2568 ได้สอบถามถึงสถานการณ์ห้องแลปตรวจวิเคราะห์หาสาร “Basic Yellow 2”( BY2 ) และแคดเมียม (Cd) ในทุเรียนสด ก่อนส่งออกไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนว่า กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรฯ ได้ยื่นหนังสือขอห้องแลปเพิ่มจำนวน 5 แห่ง และขอกลับมามีคุณสมบัติอีกครั้ง (Resume) จำนวน 2 แห่ง

ศ.ดร.นฤมล กล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ ได้พยายามติดตามความคืบหน้า โดยกรมวิชาการเกษตรได้มีการเจรจากับสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (GACC) เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2568  และล่าสุดทาง GACC ได้แจ้งผลการพิจารณาห้องแลปทดสอบสาร BY2 ของไทย โดยระบุว่า “คณะผู้เชี่ยวชาญจีนได้ดำเนินการวิเคราะห์ประเมินเอกสารห้องแลปที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว และได้เห็นชอบให้ห้องแลปที่ฝ่ายไทยเสนอ จำนวน 7 แห่ง สามารถดำเนินงานด้านการทดสอบสาร BY2 ในผลไม้ส่งออกจีนของไทยได้ ตั้งแต่วันที่ 14 เมษายน 2568 เป็นต้นไป

ศ.ดร.นฤมล ระบุว่า ผลการพิจารณาตอบกลับจากประเทศจีน ทำให้ปัจจุบันไทยมีห้องแลปทดสอบสาร BY2 จำนวน 10 ห้อง ซึ่งมั่นใจว่าจะเพียงพอรองรับปริมาณทุเรียนที่จะมีผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมากในช่วงปลายเดือนเมษายนและเดือนพฤษภาคมนี้อย่างแน่นอน”

สำหรับรายชื่อแลปไทยที่สามารถทดสอบสาร BY2 จำนวน 10 แห่ง (ข้อมูล ณ วันที่ 14 เมษายน 2568) ได้แก่

1. Central Laboratory (Thailand) Co., Ltd. Chachoengsao branch

2. Central Laboratory (Thailand) Co., Ltd. Chiangmai branch

3. Asia Medical and Agricultural Laboratory and Research Center Co., Ltd.

4. Central Laboratory (Thailand) Co., Ltd. Songkhla Branch

5. Central Laboratory (Thailand) Co., Ltd. Bangkok branch

6. Bureau Veritas AQ Lab (Thailand) Limited

7. Central Laboratory (Thailand) Co., Ltd.(Khon Kaen Branch)

8. Intertek Testing Services (Thailand) Limited

9. Overseas Merchandise Inspection Co., Ltd.

10. ALS Laboratory Group (Thailand) Co., Ltd.

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการหารือกับนายอู๋ จื้ออู่ อัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย และนางสาวจาง  เซียวเซียว อุปทูตด้านเศรษฐกิจและการค้าประจำสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2568 ว่า ได้หยิบยกประเด็นปัญหาอุปสรรคในการส่งออกทุเรียนไทยไปยังประเทศจีน โดยเฉพาะปัญหาการตรวจพบสารตกค้างและการตรวจสอบที่เข้มงวด ซึ่งส่งผลต่อกระบวนการกระจายสินค้าในฤดูกาลผลไม้ปีนี้ ทั้งนี้ ได้ขอให้ทางการจีนพิจารณาผ่อนปรนมาตรการตรวจสอบสารตกค้างในทุเรียนไทย โดยเฉพาะการตรวจสาร BY2 ที่ปัจจุบันสุ่มตรวจ 100% พร้อมทั้งขอให้เพิ่มความรวดเร็วในการตรวจผ่านด่าน เพิ่มเครื่องมือและอุปกรณ์การตรวจ รวมทั้งเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ เพื่อรองรับปริมาณสินค้าที่จะส่งออกไปยังตลาดจีนในช่วงฤดูผลไม้ พร้อมทั้งเสนอให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์การตรวจรถสินค้าที่หน้าด่าน เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยสามารถบริหารจัดการและอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ อัครราชทูตจีนได้รับนำข้อเสนอของไทยไปประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจีน เพื่ออำนวยความสะดวกและผลักดันการส่งออกทุเรียนไทยสู่ตลาดจีนให้เกิดความราบรื่นมากที่สุด พร้อมได้กำชับขอให้ทางไทยเข้มงวดเรื่องการป้องกันและการตรวจสารปนเปื้อน ไม่ให้หลุดรอด ไปตรวจพบในประเทศจีน ซึ่งปัจจุบันยังมีการตรวจพบสารนี้ ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะได้เร่งประสานกรมวิชาการเกษตรเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป

นายพิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2567 ไทยส่งออกทุเรียนไปยังจีนคิดเป็นมูลค่าประมาณ 3,700 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 833,000 ตัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 97.4 ของการส่งออกทุเรียนทั้งหมดของไทย และตนเองได้ติดตามสถานการณ์ที่ด่านนำเข้าสินค้าของจีนอย่างใกล้ชิด โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ​และสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ในจีน ได้รายงานสถานการณ์ว่า ศุลกากรหนานหนิง ได้เปิดช่องทางพิเศษสำหรับการนำเข้าสินค้าเกษตรจากอาเซียน และให้ความสำคัญกับสินค้าผลไม้เป็นอันดับแรก มีการขยายเวลาการทำงาน เพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ มีการใช้ระบบนัดหมายล่วงหน้าในการผ่านด่าน รวมทั้ง การผลักดันให้รถขนส่งสินค้าที่มาจากเวียดนามใช้ช่องทางด่านทวิภาคีจีน-เวียดนาม เพื่อลดความหนาแน่น

ทั้งนี้ ในอนาคต ทางด่านศุลกากรหนานหนิง มีแผนที่จะขยายช่องทางจราจรสำหรับขนส่ง ให้มีทางเข้า 3 ช่อง ออก 3 ช่อง (ปัจจุบันเข้า 2 ช่อง ออก 2 ช่อง) และอยู่ระหว่างการก่อสร้างห้องปฏิบัติการตรวจสาร BY2 บริเวณด่าน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคม 2568

สำหรับศุลกากรคุนหมิง ได้มีการขยายเวลาการทำงานล่วงเวลา และเพิ่มเจ้าหน้าที่ด่าน ตลอดจนได้เพิ่มห้องแล็บตรวจสาร BY2 จากเดิม 3 ห้อง เป็น 5 ห้อง (ปัจจุบันเปิดใช้งานแล้ว 4 ห้อง) ซึ่งจะทำให้สามารถตรวจสินค้าได้วันละ 400 ตัวอย่าง พร้อมทั้งมีแผนที่จะขยายช่องทางเดินรถขาเข้าและขาออก จาก 2 ช่อง เป็น 12 ช่อง คาดว่าจะพร้อมใช้งานในช่วงต้นปี 2569

ในด้านการส่งเสริมการตลาด สำหรับตลาดจีน มีแผนสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพทุเรียนไทย เน้นจุดเด่นด้านรสชาติ ความแตกต่างจากคู่แข่ง การขยายตลาดออนไลน์ เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล และส่งเสริมการขายผ่านงานแสดงสินค้านานาชาติในเมืองใหญ่ พร้อมกระตุ้นการบริโภคผ่านกิจกรรมพิเศษ เช่น เมนูทุเรียนในร้านอาหาร Thai SELECT กิจกรรมทุเรียนทัวร์และการจัดบุฟเฟ่ต์ทุเรียนในห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าในจีน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง