ชื่นใจคนรักทะเล สถานการณ์ปะการังฟอกขาวฟื้นตัวดีขึ้น เตรียมแผนฟื้นฟูต่อ

นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เผยถึงสถานการณ์ปะการังฟอกขาวในปัจจุบันว่า จากการเกิดปะการังฟอกขาวครั้งใหญ่เมื่อปี 2567 ซึ่งมีสาเหตุจากอุณหภูมิน้ำทะเลสูงขึ้น บางส่วนมีตะกอนทับถมในแนวปะการัง จึงส่งผลให้ปะการังเกิดความเครียดสูงทำให้ปะการังขับสาหร่ายซูแซนเทลลีออกจากตัวปะการัง เมื่อสูญเสียสาหร่ายดังกล่าวไป ปะการังเข้าสู่ภาวะอ่อนแอและกลายเป็นสีขาว

ทั้งนี้ สถานการณ์ปะการังฟอกขาว เริ่มเมื่อช่วงกลางเดือนเมษายนปี 2567 มีการฟอกขาวประมาณ 60-80% หลังจากนั้นปะการังที่ฟอกขาวค่อยๆ ฟื้นตัวประมาณ 60% และมีบางส่วนตายไปประมาณ 40% และแนวปะการังในบางพื้นที่ที่ไม่พบปะการังฟอกขาว (บางส่วนอาจมีสีจางหรือฟอกขาวเล็กน้อย) ประมาณ 10%

จากการลงพื้นที่สำรวจล่าสุด พบว่าในฝั่งทะเลอันดามันจากที่เคยมีการฟอกขาวสูงสุดประมาณ 55% การฟอกขาวมีอัตราการฟื้นตัวประมาณ 60-70% พบการตายจากการฟอกขาวประมาณ 30-40% ทางด้านฝั่งอ่าวไทย มีการฟอกขาวสูงสุดในเดือนพฤษภาคม 2567 โดยฟอกขาวประมาณ 90% ปะการังที่ตายและเสียหายมากคือ ปะการังบริเวณน้ำตื้น ส่วนปะการังน้ำลึกได้รับผลกระทบน้อยกว่า มีอัตราการฟื้นตัวประมาณ 40-60% มีการตายจากการฟอกขาวประมาณ 30-50% ปัจจุบันทั้งสองพื้นที่ไม่พบการฟอกขาวของปะการังแล้ว นับเป็นสถานการณ์ที่ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้

ทั้งนี้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ดำเนินการตามแผนปฏิบัติงานฟื้นฟูปะการังในปี 2568 ดำเนินการเพิ่มพื้นที่ฐานลงเกาะตัวอ่อนปะการัง 7 จังหวัด ได้แก่ ตราด ระยอง ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี พังงา ภูเก็ต รวม 12 ไร่ปลูกฟื้นฟูปะการังในพื้นที่7 จังหวัด ได้แก่ ตราด ระยอง ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี พังงา ภูเก็ต รวม 24 ไร่ และดำเนินการอนุบาลเพาะพันธุ์ปะการัง จำนวน 60,000 โคโลนี

การอนุรักษ์และการฟื้นฟูแนวปะการังเป็นมาตรการที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้ทรัพยากรแนวปะการังของประเทศสามารถดำรงสภาพความสมบูรณ์อยู่ได้ ทั้งนี้ต้องมีการบริหารจัดการเน้นการมีส่วนร่วมควบคู่กับการใช้มาตรการทางด้านกฎหมาย เพื่อฟื้นฟูสถานภาพปะการังให้กลับมาคงความอุดมสมบูรณ์ต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง