สปสช. เตรียมกระจายวัคซีนไข้หวัดใหญ่แก่ 7 กลุ่มเสี่ยง และผู้ต้องขัง 1 พ.ค. – 31 ส.ค. 68 ทั่วประเทศ กว่า 4.5 ล้านโดส

ไวรัสไข้หวัดใหญ่เป็นสาเหตุที่สำคัญของการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจแบบเฉียบพลัน พบได้บ่อยในประชากรทุกกลุ่มอายุ อาการแสดงมีตั้งแต่อาการไข้น้ำมูกไหลจนถึงภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น ปอดบวม สมองอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ตับอักเสบ ฯลฯ พบอัตราป่วยประมาณร้อยละ 10 – 20 ของประชากร โดยเฉพาะกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรัง และผู้ที่เป็นโรคอ้วน มีความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วย และเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง ซึ่งหากไม่สามารถป้องกันการแพร่ระบาดได้จะทำให้โรงพยาบาลต้องรับภาระในการดูแลผู้ป่วย มีอัตราเสียชีวิตสูงในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และก่อให้เกิดความสูญเสียในด้านเศรษฐกิจด้านการรักษาพยาบาลตามมา

เภสัชกรคณิตศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ประชุมบุคลากรทางการแพทย์หน่วยบริการทุกระดับในระบบบัตรทอง ที่ร่วมให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล เพื่อชี้แจงแนวทางการให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในปี 2568

ภก.คณิตศักดิ์ กล่าวว่า ภายใต้บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) สปสช. ร่วมกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดสิทธิประโยชน์บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล เพื่อดูแลประชาชนกลุ่มเสี่ยงต่อภาวะโรครุนแรงและเสียชีวิต หากได้รับเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี โดยในปีงบประมาณ 2568 สปสช. ยังคงดำเนินการสิทธิประโยชน์นี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้จัดสรรวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สำหรับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่

1. หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ที่แนะนำ 12 – 20 สัปดาห์

2. เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปีทุกคน  

3. ผู้มีโรคเรื้อรัง ดังนี้ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน  

4. บุคคลที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป

5. ผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมียและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (รวมผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ)

6. ผู้ป่วยโรคอ้วน (น้ำหนัก>100 กิโลกรัม หรือ BMI >35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร)

7. ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้

นอกจากนี้ยังรวมถึง เจ้าหน้าที่ในเรือนจำ ได้แก่ ผู้คุมและเจ้าหน้าที่ที่ต้องเข้าไปดูแลผู้ต้องขัง และผู้ต้องขัง ระหว่างต้องโทษในเรือนจำและเยาวชนในสถานพินิจ จำนวน 4,509,280 โดส และจะจัดซื้อเพิ่มอีก 1,500,000 โดส ซึ่งขณะนี้ได้รับวัคซีนมาแล้ว 2,100,000 โดส และจะกระจายให้หน่วยบริการ และเมื่อได้รับวัคซีนรอบที่ 2 ภายในวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 จะกระจายให้หน่วยบริการทันทีและขอให้หน่วยบริการที่ได้รับวัคซีนไปแล้วเร่งฉีดให้กับประชาชนทันที เพราะการได้รับวัคซีนเร็วจะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันเร็วไม่ต้องรอให้ได้วัคซีนครบทุกโดส โดยกำหนดเริ่มรณรงค์ให้บริการพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 1 พฤษภาคม – 31 สิงหาคม 2568

นายแพทย์ยงเจือ เหล่าศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ผลการรณรงค์ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ถึง 31 สิงหาคม 2567 โดยช่วง 3 เดือนแรก (1 พฤษภาคม ถึง 31 กรกฎาคม 2567) เป็นการรณรงค์แบบเข้มข้นในเชิงรุก และ 1 เดือนสุดท้าย (1 – 31 สิงหาคม 2567) เป็นช่วงเก็บตก โดยได้ฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่มีความเสี่ยงต่อการสัมผัสโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ผู้ต้องขังในเรือนจำ ภาพรวม ทุกกลุ่มเป้าหมายจากระบบรายงาน Krungthai Digital Health Platform (สปสช.) และบุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุขที่มีความเสี่ยงต่อการสัมผัสโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล (Healthcare Workers: HCW) จากระบบรายงานการให้บริการวัคซีนป้องกัน โรคไข้หวัดใหญ่ (DDC FLU) ของกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค มีผลการให้บริการวัคซีนทั้งหมด จำนวน 4,967,032 ราย (ร้อยละ 94.01 ของวัคซีนที่ได้รับจัดสรร) ซึ่งในปี 2567 มีการจัดสรรวัคซีนให้กับพื้นที่จำนวน 2 รอบ ทำให้เกิดความยุ่งยากในการจัดการ และบางพื้นที่รอให้ได้รับวัคซีนครบทั้ง 2 รอบก่อนจึงฉีดให้กับประชาชนทำให้เกิดความล่าช้าในการบริหารจัดการวัคซีนในพื้นที่ วัคซีนที่ได้รับจัดสรรในพื้นที่มีจำนวนจำกัด และมีผู้ประสงค์รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่มากกว่าวัคซีนที่ได้รับจัดสรร ทำให้ไม่สามารถให้บริการวัคซีนได้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย ทั้งนี้ ประชาชนเป้าหมายกลุ่มเสี่ยงบางส่วนยังปฏิเสธการเข้ารับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ในขณะที่ประชาชนนอกกลุ่มเสี่ยงมีความประสงค์จะเข้ารับบริการ

นพ.ยงเจือ กล่าวอีกว่า การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในปี 2568 เป็นวัคซีนชนิด 3 สายพันธุ์ จะเริ่มฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ถึง 31 สิงหาคม 2568 ทั้งนี้ วัน เวลา การรณรงค์สามารถกำหนดได้ตามบริบทของพื้นที่ โดยขอให้เร่งรัดการฉีดวัคซีนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และตั้งเป้าหมายให้หน่วยบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ให้แก่กลุ่มเป้าหมาย ให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 80 ของวัคซีนที่ได้รับจัดสรร

วิธีการจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล

ประชาชนกลุ่มเสี่ยง

– การกำหนดเป้าหมายระดับเขต สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยฝ่ายบริหารการจัดสรรและชดเชยค่าบริการจัดสรรเป้าหมาย (โควตา) ตามสัดส่วนประชากรกลุ่มเสี่ยงเท่ากันทุกเขต และ จัดส่ง Template พร้อมข้อมูลผลการดำเนินงานให้บริการวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ปีงบประมาณ 2567 ประกอบการพิจารณาจัดสรรให้กับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเขต (สปสช.เขต) ทุกแห่ง เพื่อประสานการจัดสรรโควตาในระดับจังหวัดและหน่วยบริการ กับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดต่อไป

– การกำหนดเป้าหมายระดับจังหวัด/หน่วยบริการประจำ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเขต (สปสช.เขต) ประสานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) เพื่อจัดสรรเป้าหมายระดับจังหวัด และรายหน่วยบริการประจำ (CUP) โดย สปสช.เขต สามารถปรับเกลี่ยได้ตั้งแต่ระดับจังหวัดจนถึงหน่วยบริการประจำ ภายใต้ยอดจัดสรรรวม (โควตา) ของเขต

– การกำหนดเป้าหมายระดับหน่วยบริการปฐมภูมิ/เครือข่ายหน่วยบริการ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ประสานหน่วยบริการประจำ (CUP) เพื่อจัดสรรเป้าหมายระดับหน่วยบริการ ปฐมภูมิ/เครือข่ายหน่วยบริการ (รพ.สต. หรือ ศูนย์สุขภาพชุมชน) ที่เป็นลูกข่ายในพื้นที่ที่รับผิดชอบ

ผู้ต้องขังระหว่างต้องโทษในเรือนจำ การกำหนดเป้าหมายของผู้ต้องขังในเรือนจำ ยึดเป้าหมายผู้ต้องขัง จากกรมราชทัณฑ์ หรือประชากรลงทะเบียนในเรือนจำ วันที่ 31 มีนาคม 2568

บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข กรมควบคุมโรค ได้สำรวจข้อมูลบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข สำหรับวางแผนการจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ปี 2568 ผ่านระบบรายงานการให้บริการวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ (DDC FLU) ของกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค และจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ร่วมกับการพิจารณาผลการให้บริการวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ในปี 2567 โดยให้เกิดความเหมาะสมแก่กลุ่มเป้าหมายในแต่ละจังหวัดแยกเป็นรายหน่วยบริการ

กลุ่มเสี่ยงในเรือนจำ กรมควบคุมโรค ได้สำรวจข้อมูลเจ้าหน้าที่ในเรือนจำ สำหรับวางแผนการจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ปี 2568 ผ่านระบบรายงานการให้บริการวัคซีนป้องกัน โรคไข้หวัดใหญ่ (DDC FLU) และสนับสนุนวัคซีน ให้แก่ เจ้าหน้าที่ในเรือนจำที่มีความประสงค์จะรับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทุกคน ทั้งนี้ จำนวนการจัดสรรวัคซีนอาจปรับตามจำนวนวัคซีนที่จัดหาได้ ณ ขณะนั้น

การกระจายวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจัดส่งเป้าหมายรายหน่วยบริการให้แก่ องค์การเภสัชกรรม (GPO) เพื่อกระจายวัคซีนสำหรับช่วงรณรงค์ ตามจำนวนวัคซีนที่หน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้รับจัดสรร โดยกำหนดจัดส่งวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้หน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ดังนี้

งวดแรก : ร้อยละ 35 ของวัคซีนที่ได้รับจัดสรรทั้งหมด ภายในเดือนเมษายน 2568

งวดที่ 2 : ร้อยละ 45 ของวัคซีนที่ได้รับจัดสรรทั้งหมด ภายในเดือนพฤษภาคม 2568

งวดที่ 3 : หน่วยบริการจะได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่เหลือ ร้อยละ 20 จากจำนวนวัคซีนที่ได้รับจัดสรร (เป้าหมาย) ภายในเดือนมิถุนายน 2568 โดย สปสช.เขต พิจารณาปรับเกลี่ยภายในเขต โดยใช้ข้อมูลการเข้ารับบริการของประชาชนกลุ่มเสี่ยงและผลงานการให้บริการจริงประกอบการพิจารณา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง