จากสถานการณ์การสูบบุหรี่ไฟฟ้าของประชากรไทย โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนที่มีแนวโน้มสูงขึ้น จนเป็นที่น่าวิตกกังวล จึงจำเป็นต้องประสานความร่วมมือ และยกระดับการดำเนินงานจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและภาคีเครือข่าย ในการเร่งสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับโทษ พิษภัย และผลกระทบที่เกิดจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเด็กและเยาวชน ดังนั้นการจัดตั้งชมรม “Gen Z” จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยให้เด็กและเยาวชนเกิดภูมิคุ้มกัน มีความรู้เกี่ยวกับโทษ พิษภัย และผลกระทบที่เกิดจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า รวมถึงมีความรู้เท่าทันกลยุทธ์อุตสาหกรรมยาสูบ การเฝ้าระวัง การไม่สูบ ไม่ขายบุหรี่ไฟฟ้าในชุมชน
ด้วยเหตุนี้ เพื่อให้เกิดการป้องกันนักสูบหน้าใหม่ครอบคลุมทั่วประเทศ ขานรับนโยบายคนไทยห่างไกลโรคและภัยสุขภาพ กองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข จึงกำหนดจุดเน้นในประเด็นการขับเคลื่อนการสร้างแกนนำเด็กและเยาวชน Gen Z เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเด็กและเยาวชนของประเทศไทย โดยมุ่งเน้นและขับเคลื่อนให้เด็กและเยาวชนมีภูมิคุ้มกันในการเลือกที่จะปฏิเสธ ไม่สูบบุหรี่ไฟฟ้า จนถึงการบอกต่อไปยังเพื่อน ครอบครัว และชุมชน ในการรณรงค์และส่งเสริมให้เกิดการไม่สูบบุหรี่ไฟฟ้าและไม่ขายบุหรี่ไฟฟ้าในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยมีโรงเรียนเป็นจุดจัดการด้านการส่งเสริมความรู้และความร่วมมือกับชุมชน ซึ่งเป็นกระบวนการหนึ่งของการพัฒนาที่ยั่งยืน มีเป้าหมายเพื่อการมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Good Health And Well-Being) สอดคล้องกับการดำเนินงานให้บรรลุตามแผนยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี ด้านสาธารณสุขการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ประเด็นการพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต และประเด็นการเสริมสร้างให้คนไทยมีสุขภาวะที่ดี
นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับนโยบายกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2568 ประเด็นที่ 3 คนไทยห่างไกลโรค และภัยสุขภาพการปรับปรุงกฎหมายและมาตรการให้เอื้อต่อการควบคุม ดูแล ส่งเสริม สุขภาพ เรื่องการป้องกันไม่ให้มีนักสูบบุหรี่ไฟฟ้าหน้าใหม่อีกด้วย ซึ่งกองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาศักยภาพแกนนำเด็กและเยาวชน Gen Z ไม่สูบบุหรี่ไฟฟ้า รุ่นที่ 4 ระหว่างวันที่ 25 – 26 เมษายน 2568 ณ โรงแรมเพชรรัชต์ การ์เด้นท์ อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด
นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน “มหกรรม รวมพลังเยาวชน Gen Z ไม่สูบบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า” ณ โรงแรมเพชรรัชต์ การ์เด้นท์ อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วย นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค นายชัชวาล เบญจสิริวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นายแพทย์สุทัศน์ โชตนะพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ศ.นายแพทย์ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ นายพรพิทักษ์ แม้นศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานประชาสัมพันธ์ที่ 1 และนายแพทย์ชยนันท์ สิทธิบุศย์ ผู้อำนวยการกองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ รวมถึงข้าราชการ เจ้าหน้าที่จาก กรมควบคุมโรค กรมประชาสัมพันธ์ และแกนนำเยาวชน Gen Z จาก 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทางออนไลน์จากทั่วประเทศ
นายแพทย์สุทัศน์ โชตนะพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากกรมควบคุมโรค ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กรมประชาสัมพันธ์ มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องขับเคลื่อนการดำเนินงานภายใต้แผนปฏิบัติการควบคุมการแพร่ระบาดบุหรี่ไฟฟ้ายุทธศาสตร์ที่ 2 ด้านการป้องกันการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้า มาตรการที่ 2 การรณรงค์ป้องปรามภายในโรงเรียนและสถานศึกษา ตามนโยบายรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า ที่กำลังแพร่ระบาดและเป็นภัยคุกคามกับเด็กและเยาวชน โดยจัด“มหกรรม รวมพลังเยาวชน Gen Z ไม่สูบบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้าขึ้น ทั้ง 4 ภาค ทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อสร้างแกนนำเด็กและเยาวชน Gen Z ไม่สูบบุหรี่ และบุหรี่ไฟฟ้า ในสถานศึกษาทุกระดับ ผ่านการจัดตั้งชมรม “Gen Z Gen Strong เลือกไม่สูบ” ซึ่งภายในกิจกรรมดังกล่าว จะเน้นที่การสร้างเยาวชนแกนนำให้ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับโทษพิษภัย และผลกระทบที่เกิดจากการสูบบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดนักสูบหน้าใหม่ และเกิดการปรับพฤติกรรมที่พึงประสงค์ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการสูบบุหรี่ รวมถึงบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อให้มีสุขภาวะที่ดีเติบโตสมวัย และสามารถนำองค์ความรู้ ทักษะ เทคนิควิธีการที่ได้จากกิจกรรมไปสื่อสารขยายผล นำไปสู่การเฝ้าระวัง และการแจ้งเบาะแสโดยกลุ่มเด็กและเยาวชน และเกิดจุดจัดการในสถานศึกษา เพื่อสร้างสถานศึกษาปลอดบุหรี่อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นการลักลอบผลิต นำเข้า การขายบุหรี่ไฟฟ้าในช่องทางต่างๆ สามารถแจ้งเบาะแสเพื่อดำเนินคดี ผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
นางสาวจิราพร กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การกำกับดูแลของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน นักเรียน และนักศึกษา ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพและถือเป็นวาระเร่งด่วน ซึ่งได้มอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมฯ แก้ไขการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าโดยเฉพาะในเด็กและเยาวชน ซึ่งได้มีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 20 หน่วยงานประชุมร่วมกันและได้มีการดำเนินการตามส่วนสำคัญด้วยกันคือในส่วนแรกการป้องกันการนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าจากต่างประเทศ ซึ่งได้มีการร่วมมือกับหน่วยงานในการป้องกันชายแดน ป้องกันการนำเข้าที่ด่านศุลกากรซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดีจากประเทศผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ประเด็นที่ 2 คือการเร่งการปราบปรามการค้าในประเทศทั้งร้านค้าที่มีที่ตั้งและร้านค้าออนไลน์ ซึ่งหน่วยงานทั้งหมดที่มีการบังคับใช้กฎหมาย ได้บูรณาการร่วมกันเป็นอย่างดีทำให้ผลการปราบปราม 30 วันหลังการสั่งการของนายกรัฐมนตรี มีผลการปราบปรามสูงกว่าผลการปราบปรามในปี 2567 ที่ผ่านมาตลอดทั้งปี
นางสาวจิราพร กล่าวด้วยว่า จากการจัดกิจกรรมดังกล่าวมุ่งหวังว่าแกนนำเยาวชน Gen Z ทั่วประเทศ จะเป็นกำลังสำคัญ เป็นแกนนำกลับไปส่งต่อความรู้ที่ดีให้กับเพื่อนในโรงเรียน ให้รู้เท่าทันพิษภัยและอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้า เพราะประเทศไทยในวันข้างหน้า ต้องหวังพึ่งเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มีสุขภาวะที่ดีมาพัฒนาและเดินหน้าประเทศไทยของเราต่อไป และรัฐบาลจะยืนหยัดต่อสู้ไปกับแกนนำเยาวชน Gen Z ทุกคน ในการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าให้หมดไปจากประเทศไทย เนื่องจากนิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสารเสพติดที่อันตรายถึงชีวิต
สำหรับกลุ่มเป้าหมายในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ประกอบด้วย นักเรียนเยาวชนแกนนำทั้งในระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอาชีวศึกษา คณะครูอาจารย์ ผู้บริหารสถานศึกษา จากสถานศึกษา แกนนำทุกจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งตัวแทนเยาวชนไม่สูบบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า ที่ผ่านการอบรมไปแล้วจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ภายในงานประกอบด้วยการ KICK OFF รวมพลังเยาวชน Gen Z ไม่สูบบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า การเสวนากับแกนนำเด็กและเยาวชน Gen Z ไม่สูบบุหรี่ไฟฟ้า ทางออนไลน์ ฟังเสียงสะท้อนจากเยาวชนขอบคุณรัฐบาลที่ให้ความสำคัญในการปราบปรามการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้า การแสดงของ Gen Z Star idol ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และการมอบเกียรติบัตรแก่แกนนำเด็กและเยาวชน Gen Z ไม่สูบบุหรี่ไฟฟ้า ทั้ง 20 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ