ครม.ลงพื้นที่อีสานตอนบน  ก่อนประชุม ครม.สัญจร จ.นครพนม ต่อยอดนโยบายรัฐเอื้อประโยชน์ประชาชน

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่มณฑลทหารบกที่ 210 (ค่ายพระยอดเมืองขวาง) อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม เพื่อรับฟังรายงานการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นบ.ยส.24) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมมอบนโยบายป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ ตามมาตรการซีลพื้นที่ชายแดน 2 ชั้น (Seal Stop Safe) ของรัฐบาล โดยกล่าวว่า ที่ผ่านมา นบ.ยส.24 สามารถจับกุมยาบ้ากว่า 100 ล้านเม็ด ไอซ์กว่า 70 ตัน ได้จากบริเวณชายแดนฝั่งจังหวัดนครพนม คิดเป็นสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 60 ของยาเสพติดที่จับได้ทั่วประเทศ สามารถป้องกันยาเสพติดจากบริเวณชายแดนที่จะเข้าประเทศได้มากกว่าครึ่ง เป็นผลงานที่น่าชื่นชม ซึ่งความร่วมมือระหว่างหน่วยงานและความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น (TBC) จึงเป็นเรื่องสำคัญในการปราบปรามและจับกุมผู้ลักลอบค้ายาตามแนวชายแดนร่วมกัน โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกันเพื่อล็อกเป้าปราบปรามและจับกุมอย่างแม่นยำ ทั้งนี้ จ.นครพนม เป็นจังหวัดที่เชื่อมต่อเส้นทางสู่หลายจังหวัด หากสามารถจัดการยาเสพติดได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะสร้างผลดีต่อเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดนครพนมและพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ รอบชายแดนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่จังหวัดนครพนม ว่า ได้ลงพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 (สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร) เพื่อติดตามการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการคมนาคมขนส่ง โดยได้รับทราบข้อมูลโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 223 ตอนอำเภอนาแก – บ้านต้อง อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ของกรมทางหลวง เป็นทางหลวงในแนวตะวันตก – ตะวันออก เชื่อมต่อจังหวัดสกลนคร – จังหวัดนครพนม ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 2 (มุกดาหาร – สะหวันนะเขต) และแห่งที่ 3 (นครพนม – คำม่วน) ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง จึงได้มอบหมายให้กรมทางหลวงเร่งดำเนินการตามขั้นตอน เพื่อให้สามารถลงนามในสัญญาและเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้โดยเร็ว รวมทั้งให้สามารถเปิดให้บริการได้ในปี 2570

ในส่วนของโครงการก่อสร้างรถไฟสายใหม่ บ้านไผ่ – นครพนม ซึ่งจะช่วยพัฒนาศักยภาพการขนส่งทางรางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้มอบให้การรถไฟแห่งประเทศไทยเร่งรัดจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินและส่งมอบพื้นที่โดยเร็ว รวมทั้งกำกับดูแลการก่อสร้างให้เป็นไปตามแผน เพื่อให้สามารถเปิดให้บริการในปี 2570

สำหรับโครงการปรับปรุงเส้นทางหมายเลข 12 (R12) ช่วงเมืองท่าแขก – จุดผ่านแดนนาเพ้า สปป.ลาว (โครงการ R12) ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ สปป.ลาว แล้วนั้น จากการหารือครั้งนี้ได้ขอความร่วมมือให้ สปป.ลาว ใช้ผู้รับเหมาไทย เพื่อให้การดำเนินงานมีความต่อเนื่องและรวดเร็ว ซึ่งโครงการดังกล่าวเมื่อเสร็จสิ้นแล้วจะสามารถสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนของทั้งสองประเทศอย่างมาก

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงานสัมมนาเรื่อง “FTA ขยายธุรกิจ พิชิตส่งออก” จัดโดยกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ภายใต้โครงการส่งเสริม SMEs ให้แข่งขันได้ในตลาดสากล เจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ประกอบการ SMEs ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีผู้ประกอบการ SMEs สนใจเข้าร่วมมากกว่า 150 คน จาก 4 จังหวัดพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ นครพนม สกลนคร มุกดาหาร และหนองคาย เพื่อสร้างความพร้อมในการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าจาก FTA รับมือกับการประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากทั่วโลกของสหรัฐอเมริกา

นายพิชัย กล่าวว่า ไตรมาสแรกของปี 2568 (มกราคม-มีนาคม) การส่งออกขยายตัวร้อยละ 15.2 รวมมูลค่า 81,532.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนการส่งออกไทยโตต่อเนื่อง 6 เดือน เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 12.9 ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่ไม่เคยเกิดขึ้นในรอบ 10 ปี สะท้อนถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยอย่างชัดเจน ทั้งนี้ การทำข้อตกลง FTA กับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (EFTA) ที่มีประเทศมีกำลังซื้อสูงอย่างสวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์สำเร็จได้ภายในเวลาเพียง 3 เดือน เป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด FTA มีความสำคัญมาก ช่วยให้ภาคส่งออกไทยเติบโตต่อเนื่อง เมื่อเราทำ FTA กับ EFTA ได้สำเร็จ จึงเห็นสัญญาณบวกชัดเจน การส่งออกของไทยไปยังตลาดสวิตเซอร์แลนด์ ขยายตัวต่อเนื่อง และขณะนี้ไทยยังเดินหน้าเจรจา FTA กับสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งคาดหวังว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ หากสำเร็จ ไทยจะมีความตกลงทางการค้ากับต่างประเทศกว่า 50 ประเทศทั่วโลก หากเทียบกับเวียดนาม ซึ่งเคยมีการส่งออกตามหลังไทย แต่สามารถแซงไทยได้ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา จากการที่เวียดนามมี FTA กับ 57 ประเทศ แสดงให้เห็นว่า FTA มีบทบาทอย่างมากต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ เราจึงพยายามเร่งเจรจา FTA กับเกาหลีใต้ UAE และอาเซียน-แคนาดา เพื่อขยายโอกาสทางการค้าให้กว้างขึ้น

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเรือนจำจังหวัดมุกดาหาร และได้รับชมการแสดงศิลปะมวยไทยของผู้ต้องขังชาย การแสดงฟ้อนรำของผู้ต้องขังหญิง และเยี่ยมชมบูธนิทรรศการฝีมือผู้ต้องขัง พันตำรวจเอกทวี กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรมมีนโยบายให้เรือนจำเป็นสถานที่ฟื้นฟูและพัฒนาพฤตินิสัยแก่ผู้ต้องขัง รวมถึงเป็นมหาวิทยาลัยแห่งชีวิต เป็นสถานที่สร้างคนให้เป็นคนที่มีคุณภาพเพื่อออกไปสร้างสังคมและประเทศชาติให้มีความมั่นคงต่อไป โดยมีโครงการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย เพื่อลดการกระทำผิดซ้ำ รวมถึงการส่งเสริมความก้าวหน้าทางด้านการศึกษา โดยมีนโยบายการอ่านหนังสือลดวันต้องโทษ เพื่อสิทธิประโยชน์ในการลดโทษจำคุกได้เดือนละ 5 วัน

จากนั้น พันตำรวจเอก ทวี ได้เปิดกิจกรรม “เสวนาแนวทางแก้ไขหนี้สินของประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐ” และกล่าวว่า จังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีประชาชนที่เป็นหนี้จำนวนมาก การช่วยเหลือประชาชนเรื่องหนี้สินจึงถือเป็นวาระที่สำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ซึ่งต้องเกิดจากความสมัครใจเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ดังนั้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องสร้างการตระหนักรู้และความเข้าใจ เพื่อเลือกใช้การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในการยุติข้อพิพาททางแพ่งและข้อพิพาททางอาญา เพื่อให้ประชาชนที่เป็นหนี้ ลูกหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล เช่าซื้อ ลิสซิ่ง ที่ผิดนัดชำระหนี้เข้าเกณฑ์ฟ้องหรือไม่มีกำลังผ่อนชำระตามสัญญา สามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมด้วยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท และสร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับการวางแผนและสร้างวินัยทางการเงินให้แก่ประชาชน เพื่อเป็นเกราะป้องกันปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนต่อไป

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำหนองกุดเป่ง บ้านม่วง อ.นาหว้า จ.นครพนม ที่มีสภาพตื้นเขินไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนในพื้นที่ จึงกำชับให้ กรมทรัพยากรน้ำ เร่งบริหารจัดการทรัพยากรน้ำช่วยบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภค – บริโภคและใช้ในการเกษตรให้ประชาชนในหน้าแล้งนี้ ซึ่งโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำหนองกุดเป่ง เป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนในการจัดหาน้ำต้นทุนสนับสนุนการทำเกษตรในพื้นที่เกษตรแปลงใหญ่ให้ประสบผลสำเร็จ และบริหารจัดการน้ำเพื่อรองรับระบบกระจายน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดและตอบสนองความต้องการใช้น้ำของประชาชนในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีเกษตรกรได้รับประโยชน์ 100 ครัวเรือน ครอบคลุมพื้นที่เกษตร 750 ไร่

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ลงพื้นที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร เยี่ยมชมนิทรรศการตำนานอุรังคธาตุ ประเพณีบุญเดือน 3 รวมถึงเส้นทางท่องเที่ยวและผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมของจังหวัดนครพนม โดยได้กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ได้ตรวจเยี่ยมแนวทางการพัฒนาแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมวัดพระธาตุพนม ที่ประดิษฐานพระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนหน้าอก) ของพระพุทธเจ้า ซึ่งอยู่ระหว่างการผลักดันขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมของยูเนสโก เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเป็นหมุดหมายให้นักท่องเที่ยวทั่วโลก ซึ่งวัดพระธาตุพนมได้รับการบรรจุในบัญชีรายชื่อเบื้องต้นไว้เมื่อปี 2560 ทั้งนี้ได้หารือกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในพื้นที่เพื่อนำเสนอจะจัดทำผังแม่บทที่ครอบคลุมพื้นที่หลักของวัดพระธาตุพนมและพื้นที่กันชนโดยรอบเพื่อเป็นไปตามหลักเกณฑ์การขึ้นทะเบียนมรดกโลกขององค์การยูเนสโก และโครงการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการเสนอขึ้นทะเบียนพระธาตุพนมเป็นมรดโลกทางวัฒนธรรมของยูเนสโก

จากนั้นลงพื้นที่ตรวจราชการที่ชุมชนบ้านนาถ่อน อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม เพื่อติดตามผลการดำเนินงานด้านวัฒนธรรม และส่งเสริมบทบาทชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” และกล่าวว่า จากการลงพื้นที่ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถของชาวจังหวัดนครพนม ที่สามารถนำสิ่งดีๆ ในท้องถิ่นมาทำให้เกิดประโยชน์ กระทรวงวัฒนธรรม พร้อมผลักดันกิจกรรมการอนุรักษ์ สืบสานและต่อยอดมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมสู่ความยั่งยืนในอนาคต โดยได้เยี่ยมชมกลุ่มอาชีพตีมีดของชุมชนนาถ่อนและนั่งรถซาเล้งเดินทางมาชมการฟ้อนรำและเข้ารับการบายศรีสู่ขวัญซึ่งเป็นอัตลักษณ์ประจำท้องถิ่น พร้อมเยี่ยมชมการจัดแสดง “วิถีชุมชน ยลวิถี” ของชุมชนนาถ่อนด้วย

พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ตรวจเยี่ยมกิจกรรมสภานักเรียน ของโรงเรียนนครพนมวิทยาคม ในการส่งเสริมค่านิยม “รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์” รักโรงเรียน รักเพื่อน เคารพพี่ ดูแลน้อง และ TSC Zero Dropout ชวนเพื่อนกลับมาเรียน พร้อมรับชมการขับร้องเพลง “เรียนดี มีความสุข” ของนักเรียน จากนั้นได้ประชุมตรวจราชการ และติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล นโยบายการศึกษา และข้อสั่งการ โดยมีผู้บริหารหน่วยงานทางการศึกษา กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 เข้าร่วมประชุม และผ่านระบบออนไลน์ (ZOOM)

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่จังหวัดนครพนม ตรวจเยี่ยมการส่งเสริม กลุ่มอาชีพ พบปะเครือข่ายแรงงาน และอาสาสมัครแรงงานในพื้นที่ และเยี่ยมชม “กลุ่มจักสานบ้านหัวขัวใต้” ตำบลหนองย่างชิ้น อำเภอเรณูนคร ซึ่งเป็นกลุ่มอาชีพอิสระที่มีสมาชิกกว่า 40 ครัวเรือน ใช้แนวคิดการปลูกไผ่หมุนเวียนเพื่อลดต้นทุนวัตถุดิบ และสร้างผลิตภัณฑ์จักสานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้สมาชิกมีรายได้เสริมเฉลี่ย 7,000–8,000 บาทต่อเดือน นอกจากนี้ สำนักงานจัดหางานจังหวัดนครพนม ได้เข้ามาสนับสนุนการเข้าถึงกองทุนส่งเสริมอาชีพอิสระ วงเงินสูงสุด 300,000 บาท เพื่อขยายธุรกิจและสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจในท้องถิ่น พร้อมย้ำว่ากระทรวงแรงงานมีเป้าหมายผลักดันให้แรงงานอิสระเข้าถึงการส่งเสริมอาชีพ พัฒนาทักษะ และสิทธิประโยชน์ทางสังคมอย่างทั่วถึง รวมถึงเชื่อมโยงโอกาสทางการตลาด เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานในพื้นที่จังหวัดนครพนม สกลนคร และมุกดาหาร อย่างเป็นรูปธรรม

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประชุมหารือกับกลุ่มผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว ที่องค์การบริหารส่วนตำบลนาถ่อน จังหวัดนครพนม เพื่อรับฟังความคิดเห็น ปัญหาและข้อเสนอแนะจากผู้ประกอบการในพื้นที่ นำไปสู่การขับเคลื่อนนโยบายด้านการท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่จริง พร้อมทั้งชี้แจงนโยบายตามแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2566–2570) โดยนายสรวงศ์ กล่าวว่า ได้เตรียมส่งเสริมกิจกรรมท่องเที่ยวสำคัญในพื้นจังหวัดสกลนคร มุกดาหาร และนครพนม ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต เช่นการท่องเที่ยวชุมชนรวมถึงการพัฒนาสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัด เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวของจังหวัดสู่เวทีนานาชาติและสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้แก่ประชาชนในพื้นที่ พร้อมเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงผู้ประกอบการและประชาชนได้มีการส่งเสริมตลาดในพื้นที่โดยเฉพาะเศรษฐกิจชุมชนให้มีการเติบโต เพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชนและประเทศ

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการบ้านมั่นคงชนบท ณ บ้านพรสำราญ หมู่ที่ 7 ตำบลวังตามัว อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม ซึ่งโครงการบ้านมั่นคงชนบท ตำบลวังตามัว มีเป้าหมายซ่อมแซมและปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้กับ 277 ครัวเรือนใน 10 หมู่บ้าน พร้อมพัฒนาระบบสาธารณูปโภคใน 8 หมู่บ้าน และสนับสนุนระบบเศรษฐกิจใน 11 หมู่บ้าน โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนจากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) กว่า 12.9 ล้านบาท และมีการจัดตั้งกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลวังตามัว ที่ก่อตั้งตั้งแต่ปี 2557 ปัจจุบันมีสมาชิก 1,271 คน และเงินกองทุนกว่า 2.2 ล้านบาท ใช้ช่วยเหลือด้านค่ารักษาพยาบาล ทุนการศึกษา ซ่อมบ้าน และจัดงานประเพณี โดยเคยได้รับรางวัลระดับชาติด้านการสร้างความมั่นคงของมนุษย์ในปี 2566

นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดนครพนมติดตามโครงการสนับสนุนเสริมสร้างศักยภาพ และรับฟังปัญหา อุปสรรค ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้แทนเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ที่โรงแรมไอโฮเท็ล อำเภอเมืองนครพนม พร้อมกล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ได้เปิดตัวโครงการ SML ที่จะจัดสรรงบประมาณปี 2568 จำนวน 11,000 ล้านบาท เพื่อกระจายลงสู่ชุมชน หมู่บ้านทั่วประเทศ โดยใช้กลไกกองทุนหมู่บ้าน ให้คนในหมู่บ้านออกแบบ ว่าจะเสนอโครงการใดที่เป็นประโยชน์กับชุมชน ซึ่งเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน และอยากให้งบประมาณนี้ลงสู่ชุมชนอย่างแท้จริง เพื่อใช้แก้ปัญหาและพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน 

นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงานถ่ายทอดเทคโนโลยี (Field day) เรื่อง การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการผลิตข้าวอย่างยั่งยืน เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ที่โรงเรียนโพนสวรรค์ราษฎร์พัฒนา ต.โพนสวรรค์ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ซึ่งกรมการข้าว จัดขึ้นเพื่อ 1) ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีการผลิตข้าวแบบเปียกสลับแห้งและการจัดการตอซัง ฟางข้าว ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีปลอดการเผา เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 2) สร้างการรับรู้การปรับตัวของการผลิตข้าวภายใต้การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ 3) ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรเห็นความสำคัญของการปลูกข้าวแบบเปียกสลับแห้งเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การงดเผาตอซังและฟางข้าว เพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เพื่อการผลิตข้าวอย่างยั่งยืน และ 4) สร้างเครือข่ายระหว่างกลุ่มเกษตรกร นักวิชาการ และผู้เกี่ยวข้องในการผลิตข้าวให้ปลอดภัย

นายอัครา กล่าวว่า ทั้ง 22 หน่วยงานในสังกัดพร้อมบูรณาการร่วมกับท้องที่ท้องถิ่นทั่วประเทศ ในการพัฒนาและเสริมศักยภาพให้เกษตรกรมีความเข้มแข็ง และพัฒนาภาคการเกษตร โดยเฉพาะปัจจัยพื้นฐานทางด้านการผลิต ทั้งการพัฒนาแหล่งน้ำและการปรับปรุงบำรุงดิน นอกจากนี้ ยังมีแนวทางในการพัฒนาโรงเรียนร้างมาใช้ประโยชน์ในภาคการเกษตร เช่น ลานตากชุมชน หรือยุ้งฉาง เพื่อหวังเพิ่มรายได้และเพิ่มคุณภาพชีวิตให้เกษตรกรมีความมั่นคงต่อไป

นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการ “น้ำประปาดื่มได้” ของการประปาส่วนภูมิภาค สาขาอำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม พร้อมย้ำให้การประปาส่วนภูมิภาคเร่งดำเนินการขยายเขตการให้บริการน้ำประปาให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งน้ำสะอาดได้อย่างทั่วถึง พร้อมทั้งยกระดับคุณภาพน้ำประปาให้มีมาตรฐาน สะอาด ปลอดภัยและสามารถบริโภคได้อย่างมั่นใจ

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ตรวจเยี่ยมสำนักงานธนารักษ์พื้นที่นครพนม ซึ่งดูแลพื้นที่ราชพัสดุ 39,933 ไร่ ส่วนใหญ่ใช้ในราชการและให้เช่าเพื่อการเกษตรและอยู่อาศัย รวมถึงมีพื้นที่ว่างกว่า 3,000 ไร่ การจัดเก็บรายได้ย้อนหลัง 3 ปีเกินเป้าหมายเฉลี่ยร้อยละ 7 ต่อปี ปีงบประมาณ 2568 มีแผนประมูลที่ราชพัสดุ 2 แปลง และพัฒนาพื้นที่ 200 ไร่เป็นอาคารดาราศาสตร์และสวนสาธารณะ เสริมพื้นที่สีเขียวและแหล่งเรียนรู้ จากนั้น รมช.คลัง ได้ลงพื้นที่ศูนย์ตรวจสอบสินค้า กรมสรรพสามิต ด่านศุลกากรนครพนม ติดตามการตรวจสอบการปล่อยน้ำมันส่งออก เพื่อป้องกันการลักลอบค้าน้ำมันเถื่อนตามนโยบาย “Zero Tolerance” โดยตรวจสอบสารมาร์กเกอร์ (Marker) และขั้นตอนการคืนภาษีอย่างถูกต้อง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง