นายเอกวรัญญู อัมระปาล ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และโฆษกของกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนายสุริยชัย ระวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ นำคณะสื่อมวลชนร่วมลงพื้นที่บริเวณโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ ที่พังถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา เพื่อติดตามความคืบหน้าและผลการปฏิบัติตลอด 40 วันที่ผ่านมา หลังประเมินว่ามีความปลอดภัยในระดับหนึ่งแล้ว
นายไทวุฒิ ขันแก้ว ผู้อำนวยการสำนักการวางผังและพัฒนาเมือง กรุงเทพมหานคร เป็นผู้รายงานผลการดำเนินงานในจุดต่างๆ พร้อมระบุว่าลักษณะของอาคารที่ถล่มเป็นอาคารสูง 30 ชั้น มีพื้นที่รวม 40×40 เมตร หรือประมาณ 50,000 ตารางเมตร มีลิฟท์ 10 ตัว หลังเกิดการถล่มแล้ว โครงสร้างอาคารมีการลาดเอียงไปทางด้านหลัง ซึ่งเป็นจุดที่เชื่อมต่อกับอาคารจอดรถและคาดการณ์ว่า ขณะเกิดการถล่มอาจมีคนวิ่งเข้าไปในส่วนของอาคารจอดรถด้วย จึงต้องค้นหาบริเวณนี้ต่อจนกว่าจะจัดการพื้นที่ได้ทั้งหมด ซึ่งจากการจำลองการหนีของคนส่วนใหญ่ของทุกชั้น จะวิ่งหาบันไดหนีไฟ ซึ่งเป็นจุดเดียวของอาคาร ที่เชื่อมระหว่างอาคาร 30 ชั้น กับอาคารจอดรถ จึงอาจมีผู้ติดค้างติดอยู่บริเวณดังกล่าวได้ สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่พื้นที่ที่พบผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ จะอยู่ในโซน C ตรงจุดที่คาดว่าเป็นช่วงบันไดหนีไฟ จึงคาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 2 – 3 วัน จะค้นหาบริเวณชั้นใต้ดินแล้วเสร็จ และภายใน 4 – 5 วัน คาดว่า ภายในวันที่ 10 พฤษภาคมนี้
นอกจากนี้ กรุงเทพมหานคร ขอบคุณการสนับสนุนเครื่องจักรกลและอุปกรณ์ต่างๆ จากทุกหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาสังคม ในการช่วยเหลือตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุ แม้การดำเนินงานค่อนข้างมีปัญหาอุปสรรคที่แตกต่างกันทุกวัน แต่ทุกคนที่เข้ามาช่วยเหลือ ต่างทำงานอย่างเต็มที่ในการค้นหาผู้สูญหาย ซึ่งจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนพบร่างทุกคนและการทำงานของเครื่องจักรทุกคันในวันนี้ จะเน้นไปที่การทำงานบริเวณชั้นใต้ดินทั้งหมด