นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือ SME D Bank กล่าวว่า SME D Bank ในฐานะสถาบันการของรัฐ ที่มีภารกิจหลักในการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยให้เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน ขานรับนโยบายรัฐบาล ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท ได้แก่ ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) ลด 0.15% จาก 7.55%ต่อปี ลดลงเหลือ 7.40% ต่อปี
สำหรับลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลด 0.075% จาก 7.65% ต่อปี ลดลงเหลือ 7.575% ต่อปี และ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำ (MLR) ลด 0.05% จาก 7.30% ต่อปี เหลือ 7.250% ต่อปี มีผลตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป เพื่อช่วยลดภาระให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี อีกทั้ง ช่วยกระตุ้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยรวมในช่วงที่ยังมีปัจจัยท้าทายจากทั้งภายในและภายนอกประเทศ
นอกจากการลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวแล้ว ธนาคารยังจัดเตรียมสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำพิเศษ ช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าถึงสินเชื่อด้วยต้นทุนต่ำ อัตราดอกเบี้ยเพียง 3%ต่อปี คงที่ตลอด 3 ปีแรก ผ่อนชำระนานสูงสุด 10 ปี ครอบคลุมทุกกลุ่มและทุกความต้องการของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ผ่าน 3 โครงการสินเชื่อ ได้แก่ 1.สินเชื่อ “SME Green Productivity” สนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ต้องการติดตั้งระบบอุปกรณ์ ปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิต เครื่องจักร อุปกรณ์ เพื่อใช้พลังงานสะอาด และมุ่งสู่อุตสาหกรรมสีเขียว วงเงินกู้สูงสุด 10 ล้านบาท 2.สินเชื่อ “ปลุกพลัง SME”
สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายเล็ก ที่มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 2 ล้านบาท นำไปใช้ลงทุน ขยาย ปรับปรุงกิจการ หรือปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจ รวมถึงหมุนเวียน และเสริมสภาพคล่องในธุรกิจ วงเงินกู้ต่อรายสูงสุด 1.5 ล้านบาท และ 3.สินเชื่อ “Beyond ติดปีก SME”
สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่มีรายได้ต่อปีมากกว่า 2 ล้านบาทขึ้นไป นำไปเสริมสภาพคล่อง ลงทุน ขยาย ปรับปรุงกิจการ ปรับเปลี่ยนทรัพย์สินหรือเครื่องจักร เพื่อเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจ วงเงินกู้สูงสุด 15 ล้านบาท สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357