นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคมของทุกปี เป็นช่วงหน้าฝนของประเทศไทย มีสภาพอากาศแปรปรวน หลายพื้นที่ประสบกับพายุฤดูร้อน พายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง โดยขณะเกิดฝนฟ้าคะนองมักเกิดฟ้าผ่าเป็นอันตรายต่อชีวิต ดังนั้นวิธีปฏิบัติตนเพื่อลดความเสี่ยงต่อการถูกฟ้าผ่า กรณีอยู่กลางแจ้ง ไม่อยู่ใกล้สิ่งปลูกสร้างที่มีความสูง อาทิ ต้นไม้ใหญ่ เสาไฟฟ้า ป้ายโฆษณา อยู่ห่างจากวัตถุที่เป็นโลหะ ไม่สวมใส่เครื่องประดับที่เป็นสื่อนำไฟฟ้า ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือ เนื่องจากมีวัสดุจำพวกโลหะเป็นส่วนประกอบ ทำให้เกิดการเหนี่ยวนำคลื่นไฟฟ้า และแบตเตอรี่ลัดวงจรได้ งดการประกอบกิจกรรมกลางแจ้ง ทั้งการทำการเกษตร การเล่นกีฬากลางแจ้ง เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกฟ้าผ่า
กรณีอยู่ในบ้านและอาคาร ไม่อยู่บริเวณดาดฟ้า มุมตึก ระเบียงด้านนอกอาคาร งดใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด อาทิ สายอากาศ สายโทรศัพท์ สายโมเด็ม และไม่ควรเปิดโทรทัศน์ขณะฟ้าร้องฟ้าผ่า เพราะกระแสไฟฟ้าไหลเข้าสู่เครื่องใช้ไฟฟ้า ทำให้เกิดความเสียหายได้ กรณีที่ขับรถหรืออยู่ในรถยนต์ ไม่ควรออกมานอกตัวรถ ให้อยู่ภายในห้องโดยสารเท่านั้น เนื่องจากโครงสร้างรถยนต์ไม่เป็นสื่อนำกระแสไฟฟ้า จึงช่วยป้องกันอันตรายจากการถูกฟ้าผ่า กรณีไม่สามารถหลบในบริเวณที่ปลอดภัย ให้นั่งยองๆ แขนแนบติดกับเข่า ก้มศีรษะ เท้าชิดกัน และเขย่งปลายเท้าให้ร่างกายสัมผัสกับพื้นน้อยที่สุด จะช่วยลดอันตรายจากกระแสไฟฟ้าที่ไหลมาตามพื้น ประชาชนสามารถแจ้งและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” รวมถึงสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง