ททท. เปิดโครงการ “เมืองน่าเที่ยว Year of Celebration” นำ 12 แคมเปญท่องเที่ยวหน้าฝน กระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยว

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้กำหนด 5 ยุทธศาสตร์สำคัญสำหรับการท่องเที่ยวในปี 2025 – 2030 ซึ่งจะพลิกเกมสู่ความยั่งยืนในการรับมือของความเปลี่ยนแปลงและรองรับวิถีการท่องเที่ยวแบบใหม่ๆ ได้แก่

1. พลิกโฉมจากปริมาณสู่คุณภาพ โดยลดการพึ่งพานักท่องเที่ยวด้วยจำนวน แต่ดูคุณภาพของนักท่องเที่ยว

2. การกระจายรายได้สู่เมืองรองและชุมชน โดยใช้แนวทางการท่องเที่ยวโดยชุมชน (Community – Based Tourism : CBT) ที่ส่งเสริมเกษตรกร วัฒนธรรม ภูมิปัญญาชาวบ้าน และภูมิปัญญาท้องถิ่น

3. ผสาน Soft Power กับ Digital Economy โดยใช้วัฒนธรรม อาหาร และกีฬา เป็นสื่อกลางและเชื่อมโยงเทคโนโลยี แพลตฟอร์มดิจิทัล มาใช้ในเรื่องของการท่องเที่ยว

4. เตรียมมาตรการกระจายความเสี่ยงของตลาด (Market Diversification) ลดการพึ่งพาตลาดใหญ่ตลาดเดียว แต่จะขยายฐานนักท่องเที่ยวไปยังตะวันออกกลาง อินเดีย ลาตินอเมริกา แอฟริกาและตลาดเก่า
ที่เคยเป็นลูกค้า

5. การเตรียมพร้อมรับวิกฤต (Crisis Management) ทั้งเรื่องโรคระบาด ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ภาวะชาตินิยมทางเศรษฐกิจ ซึ่งการรับมือวิกฤตภาครัฐ ภาคเอกชน และทั้งประเทศต้องรับมืออย่างรวดเร็ว ยกระดับมาตรฐานสุขอนามัยและความปลอดภัย เช่น การใช้ระบบ SHA Plus (SHA+) ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19

การส่งเสริมให้ Digital Health Passport เกิดขึ้นในประเทศไทย เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางข้ามพรมแดน การดำเนินการสื่อสารเชิงรุก (Proactive Communication) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดเป้าหมาย การพัฒนา Tourism Risk Map คือ การจัดทำแผนเผชิญเหตุสำหรับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญให้กับนักท่องเที่ยวได้รับทราบ การติดตั้งระบบแจ้งเตือนล่วงหน้า (Early Warning System) ในพื้นที่เสี่ยงภัย การเร่งใช้ Big Data Tourism Intelligence เพื่อการคาดการณ์การเผชิญและการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว เช่น พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไป ภัยพิบัติ สถานการณ์โลก รวมถึง ปัญหาการเมืองของประเทศไทย

นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา  นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และนายกิตติพงษ์ ประพัฒน์ทอง รองผู้ว่าการด้านดิจิทัล วิจัย และพัฒนา ททท. เข้าร่วมเปิดตัวโครงการ “เมืองน่าเที่ยว Year of Celebration” ณ โรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว กรุงเทพ เอเทรียม

นายกฤษฎา กล่าวว่า โครงการเมืองน่าเที่ยว Year of Celebration เป็นอีกหนึ่งโครงการสำคัญที่จัดขึ้นเพื่อร่วมเฉลิมฉลอง Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year 2025 เพื่อมาช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของประเทศไทยในช่วง Green Season 2568 โดยบูรณาการร่วมกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชนและพันธมิตรทุกภาคส่วน ส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ ผลักดันเมืองน่าเที่ยวให้เป็นจุดหมายปลายทางใหม่ สร้างแรงบันดาลใจในการท่องเที่ยว เพิ่มทางเลือกที่หลากหลาย กระตุ้นการเดินทางและการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวไทยมุ่งสู่เป้าหมายในปี 2568 สร้างรายได้จำนวน 1.17 ล้านล้านบาท และจำนวนนักท่องเที่ยว 205 ล้านคน-ครั้ง ด้วยแนวคิด City Branding ผ่าน 12 แคมเปญการตลาดที่จะช่วยตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของนักเดินทางยุคใหม่ได้อย่างชัดเจน เพื่อทำให้เกิดการขยายฐานนักท่องเที่ยวอย่างมีทิศทางและสร้างสรรค์ ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย กระจายรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่น กระตุ้นเศรษฐกิจให้กับเมืองน่าเที่ยว สร้างความยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ และเสริมสร้างภาพลักษณ์อันเข้มแข็งของประเทศไทยในฐานะแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพระดับสากล

ททท. จัดโครงการ “เมืองน่าเที่ยว Year of Celebration” เพื่อส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยว 55 จังหวัดทั่วประเทศ และกระตุ้นตลาดในช่วง Green Season ระหว่างเดือนมิถุนายน-กันยายน 2568 โดยนำเสนอจุดขายและเรื่องราวที่สะท้อนเสน่ห์ของแต่ละพื้นที่ด้วยมุมมองใหม่ที่สร้างสรรค์และแตกต่างผ่าน Influencer และ Blogger กว่า 50 ราย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและกระแสการเดินทางภายในประเทศ พร้อมร่วมกับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจัดโปรโมชันมอบสิทธิพิเศษให้กับนักท่องเที่ยว ด้วย 12 แคมเปญการตลาดที่ตอบโจทย์ความสนใจของนักเดินทางชาวไทยกลุ่ม Sub-Culture ที่มีวัฒนธรรมไลฟ์สไตล์ท่องเที่ยวใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนทำงาน LGBTQ+ กลุ่มครอบครัว นักท่องเที่ยวสายอาหาร สายผจญภัย เป็นต้น เพื่อสร้างประสบการณ์การเดินทางอันน่าจดจำ ผ่านกิจกรรมการตลาดที่สร้างจุดขายใหม่ให้กับเมืองน่าเที่ยว ส่งเสริมบรรยากาศการเดินทางที่สนุก มีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยความสุขตลอดฤดูฝนนี้ โดยตั้งเป้าจำนวนผู้ซื้อสินค้าและบริการจำนวน 250,000 คน สร้างการรับรู้ไม่น้อยกว่า 10,000,000 คน/ครั้ง และสร้างรายได้ไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท

โครงการ “เมืองน่าเที่ยว Year of Celebration” ประกอบไปด้วย  12 แคมเปญตลาด ดังต่อไปนี้

1) แคมเปญ Burn Out Break #Just Slow Down ชวนคนทำงานที่กำลังหมดไฟออกไปฮีลใจกับธรรมชาติ            

2) แคมเปญ บูสเอเนอร์จี้ ทริปนี้ไม่มีอ่อม #บูสบูสบูสเอเนอร์จี้อย่าอ่อม ชวนสายลุยจัดเต็มทุกความท้าทายกับกิจกรรมสุดมัน อาทิ โต้คลื่น ดำน้ำ เดินป่า ปีนผา

3) แคมเปญชีเสิร์ฟไม่พัก #รูปไม่ปังยังไม่กลับ สำหรับสายคอนเทนต์ตัวแม่ที่หลงใหลการแชร์โมเมนต์ไลฟ์สไตล์ผ่านโซเชียล

4) แคมเปญ Love Out Loud #And I Say Yes ชวน LGBTQ+ หาสถานที่สุดพิเศษสำหรับโมเมนต์แสนโรแมนติก

5) แคมเปญ Alone But Not Lonely #Me Myself And… ชวนสาวๆ ปลดล็อกตัวเองด้วยการออกเดินทางคนเดียวในเมืองน่าเที่ยว

6) แคมเปญ Digital Detox Holiday #Silent Mode On ชวนสร้างสมดุลใหม่ รีเฟรชพลังภายใน ตัดขาดจากโลกออนไลน์

7) แคมเปญ Get Wet Get Away #Go With The Flow ให้สายน้ำช่วยสร้างความผ่อนคลาย ด้วยการล่องแพ แล่นเรือ พาย SUP ดำน้ำ

8) แคมเปญ แซ่บซ่าส์ท้าเที่ยว #ไม่ปวดเข่าไม่เข้าบ้าน สำหรับกลุ่ม Active Senior ที่พร้อมสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ใช้ชีวิตให้สนุกแบบไม่ต้องรอใคร

9) แคมเปญ เที่ยวนี้มีหมูกระทะ #เที่ยวนี้มีหมูกระทะ ชวนสายปิ้งย่างออกเดินทางพิสูจน์ความอร่อยร้านเด็ด ร้านดังในเมืองน่าเที่ยว

10) แคมเปญ เจ้าขนปุยตะลุยฝน #ลุยฉ่ำไม่หวั่นฝนพรำ ดีลพิเศษสำหรับสายเที่ยวพร้อมเจ้า 4 ขา

11) แคมเปญ Gastro Nomad #ตามหารส ชวนออกเดินทางสร้างประสบการณ์มื้อพิเศษที่จะอยู่ในความทรงจำ

12) แคมเปญ ลั่นล๊ากับม่ามี้ #รูดไม่พักรักแม่สุดใจ พาคุณแม่ไปพักผ่อนแบบเอกซ์คลูซิฟ

ทั้งนี้ โครงการ “เมืองน่าเที่ยว Year of Celebration” ได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน มอบส่วนลดสิทธิพิเศษและของรางวัลมากมาย อาทิ สายการบินเวียตเจ็ท, สายการบินไทยไลอ้อนแอร์, สายการบินนกแอร์, สายการบินไทย, แพลตฟอร์ม OTA Gother และแพลตฟอร์มพาทัวร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)  เป็นต้น ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดโครงการและโปรโมชันส่วนลดพิเศษของพันธมิตรที่เข้าร่วมโครงการ ได้ที่ เว็บไซต์ : www.เมืองน่าเที่ยว2568.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง