นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สถานการณ์การค้าสินค้าเกษตรของไทยในตลาดโลก พบว่า ประเทศไทยยังคงสามารถรักษาศักยภาพทางการค้าและการส่งออกได้อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา ไทยมีมูลค่าการค้าสินค้าเกษตรกับตลาดโลกสูงถึงกว่า 2.5 ล้านบาท โดยแยกเป็นมูลค่าส่งออก จำนวน 1,801,548 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 จำนวน 137,822 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 8.28 สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการขยายตลาดและตอบสนองต่อความต้องการของตลาดโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนสถานการณ์การค้าสินค้าเกษตรของไทยในตลาดอาเซียน 9 ประเทศ ได้แก่ บรูไน อินโดนีเซีย กัมพูชา ลาว เมียนมา มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม สินค้าเกษตรของไทยมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2567 ไทยมีมูลค่าส่งออกสินค้าเกษตรไปยังตลาดอาเซียนจำนวน 410,830 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 3.60
สำหรับสินค้าส่งออกสำคัญ 5 อันดับแรก ของปี 2567 ได้แก่ 1.ข้าว มูลค่า 46,065 ล้านบาท 2.น้ำตาลที่ได้จากอ้อยหรือหัวบีตอื่นๆ มูลค่า 38,211 ล้านบาท 3.น้ำ รวมถึงน้ำแร่และน้ำอัดลมที่เติมน้ำตาลหรือสารทำให้หวาน อื่นๆ หรือที่ปรุงกลิ่นรส มูลค่า 27,577 ล้านบาท 4.น้ำตาลดิบที่ได้จากอ้อยอื่นๆ มูลค่า 22,434 ล้านบาท และ 5.เครื่องดื่มอื่นๆ ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ มูลค่า 19,022 ล้านบาท
ส่วนตลาดส่งออกสินค้าเกษตรที่สำคัญของไทย 3 อันดับแรก ได้แก่ 1.มาเลเซีย มีมูลค่าการส่งออก 77,321 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 18.82 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรในอาเซียน 2.อินโดนีเซีย มีมูลค่าการส่งออก 68,428 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 16.66 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรในอาเซียน และ 3.กัมพูชา มีมูลค่าการส่งออก 62,826 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 15.29 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรในอาเซียน
นายอนุกูล กล่าวต่อว่า สำหรับในช่วงเดือนมกราคม – มีนาคม 2568 สถานการณ์การค้าสินค้าเกษตร และยางพาราธรรมชาติของไทยในตลาดอาเซียน มีมูลค่าการค้ารวมเท่ากับ 160,067 ล้านบาท จำแนกเป็น มูลค่าส่งออก 100,491 ล้านบาท มูลค่านำเข้า 59,576 ล้านบาท ไทยยังคงเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้า 40,915 ล้านบาท
ภาพรวมทั้งหมดแสดงให้เห็นว่า ไทยยังคงรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดเกษตรโลก โดยเฉพาะในตลาดอาเซียนซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจการเกษตรของประเทศ ทั้งในแง่ของมูลค่าการส่งออก ความหลากหลายของสินค้าและการได้เปรียบดุลการค้า ซึ่งจะเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการพัฒนาและผลักดันภาคเกษตรของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต