คณะรัฐมนตรีรับทราบประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่องอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ (ฉบับที่ 14) ลงวันที่ 9 เมษายน 2568 เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้มีผลใช้บังคับต่อไป ตามที่กระทรวงแรงงาน (รง.) เสนอ
สาระสำคัญ
1. เดิมกระทรวงแรงงานได้มีการกำหนดอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือแล้ว 129 สาขาตามประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่อง อัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ (ฉบับที่ 13) ลงวันที่ 29 กันยายน 2566 [คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (21 พฤศจิกายน 2566) รับทราบประกาศคณะกรรมการค่าจ้างฉบับดังกล่าว ตามที่ กระทรวงแรงงาน เสนอ]
2. คณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 22 ได้เห็นชอบให้มีการจัดทำอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ ปี 2567 โดยแต่งตั้งคณะอนุกรรมการอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ จำนวน 3 คณะ เพื่อทำหน้าที่ศึกษาและจัดทำร่างอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ 13 สาขา โดยพิจารณาข้อมูลผลการสำรวจความคิดเห็นสถานประกอบกิจการ ลูกจ้าง และผู้ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ลักษณะการทำงานในแต่ละสาขา การจ่ายค่าจ้างจริงในตลาดแรงงานและความสามารถในการจ่ายของนายจ้าง รวมถึงได้จัดสัมมนารับฟังความเห็นจากนายจ้างและลูกจ้างที่มีส่วนเกี่ยวข้องในแต่ละสาขาอาชีพ เพื่อเสนอร่างอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ 13 สาขา ต่อคณะกรรมการค่าจ้าง ซึ่งในการประชุมคณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 22 (ปลัดกระทรวงแรงงานเป็นประธาน) ครั้งที่ 2/2568 เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2568 ได้มีมติเห็นชอบให้กำหนดอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ13 สาขา โดยให้มีผลใช้บังคับ 90 วัน หลังจากวันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป สรุปได้ ดังนี้
หน่วย : บาท/วัน
ลำดับ | สาขา | อัตราค่าจ้าง ตามมาตรฐานฝีมือ | |
ระดับ 1 | ระดับ 2 | ||
พนักงานขับรถโดยสารสาธารณะเพื่อการท่องเที่ยว (รถทัวร์) | 600 | ||
ช่างซ่อมบำรุงรถยนต์ไฟฟ้า | 600 | ||
ผู้บังคับรถปั้นจั่นตีนตะขาบ | 620 | ||
ผู้บังคับรถปั้นจั่นล้อยาง | 620 | ||
ผู้บังคับปั้นจั่นติดรถบรรทุก | 560 | ||
พนักงานขับรถบรรทุก | 485 | ||
ช่างเทคนิคเครื่องปรับอากาศสำหรับห้องสะอาด | 720 | 800 | |
ช่างอิเล็กทรอนิกส์ | 500 | ||
ช่างไฟฟ้าสำหรับอุตสาหกรรม การจัดงานประชุม การเดินทาง เพื่อเป็นรางวัล และการแสดงสินค้า | 600 | ||
นักเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ (ภาษาซี) | 700 | ||
นักดูแลและบริหารระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ | 770 | ||
ช่างควบคุมหุ่นยนต์อุตสาหกรรม | 605 | ||
ผู้ฝึกสอนมวยไทย | 565 |
หมายเหตุ : มาตรฐานฝีมือแรงงาน คือ ข้อกำหนดทางวิชาการที่ใช้เป็นเกณฑ์วัดระดับฝีมือ ความรู้ ความสามารถและทัศนคติในการทำงานของผู้ประกอบอาชีพสาขาต่างๆ ของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานเป็น 3 ระดับ และจะมีรายละเอียดของเกณฑ์มาตรฐานฝีมือแรงงานที่แตกต่างกันในแต่ละสาขา ซึ่งผู้ที่ผ่านการทดสอบจะได้รับใบรับรองผ่านการทดสอบของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ซึ่งการกำหนดอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ 13 สาขา ที่ กระทรวงแรงงาน เสนอในครั้งนี้เป็นการกำหนดอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือใหม่ 12 สาขา ส่วนอีก 1 สาขา คือ สาขาช่างไฟฟ้า สำหรับอุตสาหกรรม การจัดงานประชุม การเดินทาง เพื่อเป็นรางวัล และการแสดงสินค้า (สาขาลำดับที่ 9 ตามตารางข้างต้น) เป็นสาขาเดิมที่ได้กำหนดอัตราค่าจ้างระดับ 1 ไว้ก่อนแล้ว ตามประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่อง อัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ (ฉบับที่ 13) ลงวันที่ 29 กันยายน 2566 โดยในครั้งนี้เป็นการปรับเพิ่มให้มีอัตราค่าจ้างระดับ 2 ด้วย ทั้งนี้ หากนับรวมการกำหนดอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือที่กระทรวงแรงงานเคยได้กำหนดมาแล้ว 129 สาขา (ตามข้อ 1) กับสาขาที่กำหนดใหม่ในครั้งนี้ 12 สาขา (ไม่นับรวมสาขาลำดับที่ 9) จะรวมทั้งสิ้นเป็น 141 สาขา
อัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ คือ อัตราค่าจ้างที่คณะกรรมการค่าจ้างกำหนดขึ้นในแต่ละสาขาอาชีพ ในแต่ละสาขาและในแต่ละระดับตามมาตรฐานฝีมือ โดยมีข้อกำหนดทางวิชาการที่ใช้เป็นเกณฑ์วัดระดับฝีมือ ความรู้ความสามารถ และทัศนคติในการทำงาน มีวัตถุประสงค์เพื่อให้แรงงานกึ่งฝีมือและแรงงานฝีมือได้รับค่าจ้างที่เหมาะสม จูงใจให้แรงงานพัฒนาฝีมือให้เป็นที่ยอมรับ เพิ่มหลักประกันรายได้ รวมทั้งเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับธุรกิจ
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางานเดินหน้าประกาศความพร้อมสำหรับงาน JOB EXPO THAILAND 2025 มหกรรมหางานระดับชาติ ที่ครบวงจรและยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี ระหว่างวันที่ 6-8 มิถุนายน 2568 นี้ ตั้งแต่เวลา 10.00 – 19.00 น. ณ ฮอลล์ 5-6 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้แนวคิด “มหกรรมหางาน ที่มากกว่าการหางาน” เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกกลุ่มทุกช่วงวัยมีงานทำอย่างทั่วถึงและเตรียมความพร้อมของกำลังแรงงานในอนาคต โดยภายในงานได้รวบรวมตำแหน่งงานในประเทศกว่า 500,000 อัตรา และงานต่างประเทศกว่า 100,000 อัตรา พร้อมกิจกรรมเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ เสริมทักษะ ฝึกอาชีพและสนับสนุนการสมัครงานแบบครบวงจร รวมถึงเปิดพื้นที่ไลฟ์สไตล์ “SSO MARKET 2025” ที่รวมแฟชั่น อาหาร ศิลปะ ความบันเทิง และ Workshop ที่น่าสนใจไว้ในที่เดียว
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการลดความเหลื่อมล้ำในสังคมพร้อมส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชน โดยเฉพาะการสร้างโอกาสให้ประชาชนทุกช่วงวัยได้รับโอกาสในการทำงาน มีอาชีพที่มั่นคง มีรายได้ที่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต แต่ปัจจุบันตลาดแรงงานไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ ทั้งจากโครงสร้างประชากรที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์และอัตราเด็กเกิดใหม่ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะมีแรงงานในวัยทำงานลดลงในอนาคตอันใกล้ รวมถึงการเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยีที่เข้ามาปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิตในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่กำลังเข้ามาเปลี่ยนวิธีคิด วิธีทำงาน และทักษะแรงงานที่ต้องการ แต่ปัจจุบันพบว่าแรงงานไทยกว่า 60% ยังขาดทักษะที่สอดรับกับความต้องการของอุตสาหกรรมในอนาคต การวางแผนบริหารจัดการกำลังแรงงานให้มีจำนวนที่เหมาะสมและมีทักษะที่ตรงต่อความต้องการของภาคอุตสาหกรรมเพื่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนจึงเป็นภารกิจเร่งด่วนที่กระทรวงแรงงานต้องเร่งขับเคลื่อน เพื่อให้แรงงานทุกช่วงวัยได้รับโอกาสในการเข้าถึงงานที่เหมาะสมและพัฒนาทักษะที่จำเป็นพร้อมรองรับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมทั้งในปัจจุบันและอนาคต
ไฮไลต์ Job Expo Thailand 2025
1. จัด Job Expo 2025 สร้างตำแหน่งงานใหม่ 600,000 อัตรา ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
2. ปล่อยสินเชื่อช่วยนายจ้างเสริมสภาพคล่อง กระทรวงแรงงานยังร่วมกับสำนักงานประกันสังคมเตรียมวงเงินกู้ 20,000 ล้านบาท เสริมสภาพคล่องสถานประกอบการ วงเงินกู้รายละไม่เกิน 50 ล้านบาท
ผ่านธนาคาร เพื่อช่วยนายจ้างรักษาการจ้างงาน
3. ทุนอาชีพรายย่อยให้ลูกจ้างสร้างอาชีพเสริม เตรียมวงเงินอีก 100,000 ล้านบาท เปิดให้ผู้ประกันตนมาตรา 33, 39 และ 40 เข้าถึงสินเชื่อรายย่อยสำหรับอาชีพเสริมและลงทุนตั้งตัว วงเงินกู้ไม่เกิน 100,000 – 300,000 บาท เพื่อเพิ่มรายได้และความมั่นคงในระยะยาว
ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 หรือที่กองพัฒนาระบบบริการจัดหางาน โทรศัพท์ 02 246 9292 หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วน กรมการจัดหางาน โทร. 1694