นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าพบเจ้าของค่ายมวย Fight City Gym กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร พร้อมกับนักมวยและครูผู้ฝึกสอน ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมของนักกีฬาในประเทศอังกฤษ ทั้งนี้ คณะทีมไทยแลนด์มีเป้าหมายเพื่อพูดคุย รับฟังปัญหา และแนวทางในการผลักดันการส่งออกอัตลักษณ์ไทยผ่าน Soft Power ด้านกีฬา โดยเฉพาะมวยไทยสู่ตลาดสากล และพร้อมรับฟังข้อเสนอและปัญหาจาผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมกีฬาต่อแนวทางการพัฒนามวยไทยในระดับนานาชาติ
นายกรัฐมนตรีได้ร่วมรับฟังการบรรยายจากผู้ประกอบการและผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้เกี่ยวกับแนวทางในการส่งเสริมมวยไทยในสหราชอาณาจักร ทั้งในด้านการตลาด การฝึกอบรม การจัดกิจกรรมแข่งขัน และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างไทยกับสถาบันกีฬาระดับนานาชาติ และยังได้ถือโอกาสรับฟังปัญหาการเปิดกิจการค่ายมวยไทยในต่างประเทศ อาทิ การขอวีซ่าในการทำงาน การขออนุญาตและใบอนุญาต และการสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพการฝึก เป็นต้น
นายกรัฐมนตรีได้รับการต้อนรับจากผู้แทนภาครัฐ ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์ นำโดยนายเอกฉัตร ศีตวรรัตน์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ และนายพรวิช ศิลาอ่อน รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ พร้อมด้วย นายโปรดปราน สมานมิตร รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย และภาคเอกชน ได้แก่ ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา ผู้บริหารค่ายมวยไทย โปรโมเตอร์มวย และเทรนเนอร์ รวมประมาณ 25 คน
สำหรับกรุงลอนดอนมีค่ายมวยไทยตั้งอยู่มากกว่า 50 แห่ง ซึ่งกีฬามวยไทยถือเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจเชิงรุกของรัฐบาลไทยในการผลักดันอุตสาหกรรม Soft Power โดยเฉพาะมวยไทย ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมและได้รับการยอมรับในระดับโลกให้เติบโตในตลาดต่างประเทศ และต่อยอดสู่การสร้างรายได้ทางเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ ค่ายมวย Fight City Gym ตั้งอยู่บริเวณ Moorgate ใจกลางย่านธุรกิจของกรุงลอนดอน เป็น
ศูนย์ฝึกศิลปะการต่อสู้และฟิตเนสแบบครบวงจร มีความโดดเด่นด้านการสอนมวยไทย คิกบ็อกซิ่ง มวยสากล และ BJJ (Brazilian Jiu-Jitsu) โดยมีทั้งนักกีฬามืออาชีพและผู้ฝึกใหม่เป็นลูกค้าหลัก ก่อตั้งโดยคุณ Mandeep Singh Johal (Mani Johal) พร้อมทีมงานผู้เชี่ยวชาญ อาทิ คุณ Leon Jason Malcolm หัวหน้าโค้ชมวยไทย และคุณ Ross James Adkin เทรนเนอร์ส่วนบุคคล ซึ่งค่ายดังกล่าวมี 3 สาขาในลอนดอน โดยสาขา Moorgate ถือเป็นสาขาหลักที่ได้รับความนิยมสูงสุด
นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะผู้แทนจากกระทรวงพาณิชย์ และผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้เดินทางไปที่ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์สโตร์ Wing Yip สาขา Cricklewood ในกรุงลอนดอน ซึ่งเป็นหนึ่งในห้างค้าปลีกที่สำคัญของอังกฤษ โดยห้างนี้มีการนำเข้าสินค้าทั่วเอเชียโดยเฉพาะสินค้าจากประเทศไทยมีมากเป็นพิเศษ ซึ่งที่ผ่านมามีการนำเข้าสินค้าหลายประเภทจากประเทศไทย
โดยมีคุณสุจินดา มั่นพุทธคุณ ยิป Trustee of Wing Yip & brother foundation และMr. Junny Shek ผู้จัดการ Wing Yip สาขา Cricklewood ให้การต้อนรับ
นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชม สินค้าไทยในหมวดเกษตรและอาหารที่มีการวางจำหน่าย อาทิ ข้าวหอมมะลิ ข้าวแท่ง (ข้าวแท่ง คือ ข้าวที่ผ่านการผัดและปรุงรส นำมาอัดขึ้นรูปสะดวกในการรับประทาน) ผลไม้สด (เงาะ มังคุด มะพร้าว) ผัก (สะตอ พริกไทยอ่อน รากผักชี มะเขือเปราะ) อาหารกระป๋องเครื่องปรุงรส อาหารแช่แข็ง ผลไม้แช่แข็ง (ทุเรียนหมอนทอง) เครื่องดื่ม ขนมขบเคี้ยว กว่าพันรายการ เป็นต้น ซึ่งล้วนเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้บริโภคชาวอังกฤษ สะท้อนถึงศักยภาพของอาหารไทยในการสร้าง Soft Power และขยายตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
ซูเปอร์สโตร์ Wing Yip ถือเป็นผู้นำในการจัดจำหน่ายสินค้าอาหารจากเอเชียในประเทศอังกฤษ โดยมีมากกว่า 4,500 รายการจากหลากหลายประเทศ และมีสาขาในเมืองสำคัญ อาทิ เบอร์มิงแฮม แมนเชสเตอร์ ครอยดอน และคริกเกิลวูด โดยสินค้าจากประเทศไทยยังคงเป็นหนึ่งในกลุ่มสินค้าหลักที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลไทยได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริม Soft Power ด้านอาหารและการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในการเจาะตลาดต่างประเทศ เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและยกระดับภาพลักษณ์ของสินค้าไทยในเวทีโลก ในโอกาสนี้รัฐบาลได้เชิญผู้บริหาร Wing Yip เข้าร่วมงาน Thaifex 2025 ด้วย ซึ่ง Wing Yip มีความสนใจในการนำเข้าสินค้าเครื่องดื่มและขนมไทยเพิ่มเติมเพื่อนำมาวางจำหน่ายในห้างฯ ต่อไป
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความใน X และเฟซบุ๊ก ระบุว่า อีกหนึ่ง ‘ทูตวัฒนธรรม’ ไทยในต่างแดน คือ ร้านอาหาร เพราะเมื่อคนต่างชาติเข้ามาที่ร้านอาหารไทย พวกเค้าไม่ได้รับประสบการณ์แค่อาหารที่อร่อยและรสชาติไทย แต่มีบรรยากาศโดยรอบและองค์ประกอบในร้านที่แสดงความเป็นไทย เช่น วิธีการรับประทานอาหาร, รูปแบบของจานอาหารไทย, เพลงไทยในร้านอาหาร, การจัดร้านที่แสดงความเป็นไทยในมิติต่างๆ ‘Thai SELECT’ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่รัฐบาลต้องการผลักดันเมื่อเห็นตราสัญลักษณ์นี้ที่ไหนในทุกมุมโลก แปลว่านี่คือร้านอาหารไทย หรือผลิตภัณฑ์อาหารไทยสำเร็จรูปที่ให้บริการและจำหน่ายอาหารไทยรสชาติไทยแท้ ผ่านกระบวนการและขั้นตอนของการปรุงอาหารด้วยส่วนผสมตามตำรับอาหารไทย จึงได้มาร่วมกับทีม BOI และภาคเอกชนที่ทำตลาดสินค้าอาหารและวัตถุดิบในตลาดยุโรป โดยเฉพาะการพัฒนาและเพิ่มศักยภาพของร้านอาหารไทยให้ได้มาตรฐาน ‘Thai SELECT’ มากขึ้น
เรื่องที่หารือกันคือ แนวทางในการขยายโอกาสทางการค้า การผลักดันขยายมูลค่าการค้าของสินค้าเกษตรและอาหารไทย รวมทั้ง แนวทางความร่วมมือระหว่างกันอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อผลักดันให้เกิดการลงทุนกับ
สหราชอาณาจักรให้ขยายตัวอย่างเป็นรูปธรรมและเพื่อนำไปสู่พันธมิตรทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น สิ่งที่ภาครัฐจะนำไปหารือกันและเร่งดำเนินการแก้ไข้เพื่อขยายกลไกการตลาด คือ การพัฒนากระบวนการขนส่ง
ให้มีมาตรฐาน สามารถส่งสินค้าทางไกลแต่ยังคงความสดใหม่และคุณภาพของสินค้าได้, มาตรการทางภาษี รวมถึงโควต้าการนำเข้า และเร่งเจรจา FTA Thai-UK เพื่อทำให้การค้าขายระหว่างประเทศเป็นไปอย่างดีมากขึ้น
นายกรัฐมนตรี ยังโพสต์ข้อความระบุด้วยว่า ปีนี้ไทยตั้งเป้าเป็นปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 ทำให้ไทยเป็น Tourism Hub ระดับโลก ที่ผ่านมารัฐบาลทำแคมเปญหลายอย่างโดยเฉพาะการมุ่งเป้าทำให้การใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวต่างชาติต่อคนต่อทริป (Spending per Head) สูงขึ้น และใช้เวลาท่องเที่ยวยาวขึ้น (duration of stay) แผนงานที่จะนำไปสู่การเป็น Tourism Hub ระดับโลก มีตั้งแต่การทำแผนท่องเที่ยวแบบ Man Made Destination หรือการทำโครงสร้างพื้นฐานประเทศด้านคมนาคมและอื่นๆ รองรับ หนึ่งในนั้นคือการเปิดตลาดการท่องเที่ยวใหม่ๆ กับนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก โดยนักท่องเที่ยวยุโรปเป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งขณะนี้มีสัญญาณที่ดีมาก จากข้อมูล 4 เดือนแรกของปีนี้ นักท่องเที่ยวยุโรปเข้าไทยแล้วกว่า 3.5 ล้านคน โดยเฉพาะจากอังกฤษ เยอรมนี และฝรั่งเศส เติบโตกว่า 20% จากปีที่แล้ว ซึ่งได้ร่วมกับ ททท. พูดคุยกับบริษัทชั้นนำด้านการท่องเที่ยวของสหราชอาณาจักร คือ ผู้บริหารจากสายการบิน British Airways, ผู้บริหารจากสายการบิน Emirates, ผู้บริหารจากบริษัทนำเที่ยว Trailfinders และผู้บริหารจากบริษัทนำเที่ยว DNATA
ประเด็นที่หารือคือ ภาพรวมสถานการณ์และแนวโน้มตลาดนักท่องเที่ยวสหราชอาณาจักร, แนวทางการส่งเสริมและกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวประเทศไทย, การสนับสนุนเชิงนโยบาลจากรัฐบาลไทยที่เป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวและข้อเสนอจากภาคเอกชนถึงรัฐบาล เพื่อสนับสนุนและผลักดันการท่องเที่ยวไทย
ปีนี้ตัวเลขการท่องเที่ยวตกลงเนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจโลก และปัญหาภัยพิบัติซึ่งเป็นสิ่งที่ทั้งไทยและทั่วโลกเผชิญร่วมกัน ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวในภาพรวมลดลง แต่รายได้ของการท่องเที่ยวไทยเพิ่มขึ้น 5% สะท้อนว่านโยบายมุ่งเน้น “คุณภาพ” ของนักท่องเที่ยวได้ผลดีขึ้น การท่องเที่ยวจะยังเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจไทย เราจะเดินหน้าทุกทางเพื่อเปิดโอกาสใหม่ ความเป็นไปได้ใหม่ๆ เพื่อให้การท่องเที่ยวไทยแข็งแรง