จีนหลอกจีน ทุนจีนยอมรับทุเรียนแกะเนื้อนำเข้าจากเวียดนามนำมาผสมทุเรียนไทย

นายพงศธร ศรเพชรนรินท์ สส.ระยองเขต 3 นายปวัตร กาญจนะวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญประจำตัว สส. นายกฤช ศิลปชัย พร้อมนายกสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนไทยภาคตะวันออก เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอแกลงและตัวแทนจากเกษตรอำเภอและหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ เข้าตรวจสอบในโกดังไม้ยางพารา เขตอำเภอแกลง จังหวัดระยอง หลังได้รับแจ้งข้อมูลว่าพบรถตู้คอนเทนเนอร์ต้องสงสัยสองคันจอดอยู่ภายในโกดังดังกล่าว จากการเข้าตรวจสอบพบรถตู้คอนเทนเนอร์ทะเบียนชลบุรี 2 คัน เจ้าหน้าที่จึงได้สอบถามหาเจ้าของทุเรียนกระทั่งหนึ่งในคนไทยที่อยู่ในโรงดังกล่าว แจ้งว่า เจ้าของทุเรียนเป็นคนจีนเดินไปนำเอกสารที่ขอนำเข้าสิ่งของในตู้มาให้เจ้าหน้าที่ดู 

เจ้าหน้าที่จึงพยายามสอบถามสิ่งของที่อยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ ทั้ง 2 คันว่าคืออะไร ช่วงแรกกลับถูกบ่ายเบี่ยงไม่ยอมแจ้ง กระทั่งเจ้าหน้าที่ต้องประสานให้ทางหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ต้นเรื่อง สอบถามข้อมูลและขอตรวจสอบเอกสารที่ใช้สำแดง แต่ปรากฏว่านายทุนจีนไม่มีเอกสารมาแสดง โดยอ้างว่าเอกสารอยู่ที่ปลายทางในโรงงานเขตติดต่อกับจังหวัดจันทบุรี

ทางเจ้าหน้าที่ได้ขอตรวจสอบสิ่งของภายในรถตู้คอนเทนเนอร์คันแรก พบทุเรียนแกะเนื้อนำเข้าจากเวียดนามผ่านท่าเรือแหลมฉบัง ปลายทางลงที่ห้องเย็นเขตติดต่อจังหวัดจันทบุรี ใช้สำหรับฟรีชดราย แต่มีการอ้างว่านำมาฝากแช่ไว้ที่โกดังดังกล่าวก่อน

ส่วนรถตู้คอนเทนเนอร์คันที่ 2 ไม่พบสิ่งของใดๆ เจ้าหน้าที่จึงสอบถามคนขับรถตู้คอนเทนเนอร์ที่เป็นรถเปล่า (คันที่ 2) ว่า มาทำอะไร คนขับรถอ้างว่า ได้รับคำสั่งจากเถ้าแก่ให้มารอถ่ายของขึ้นรถจากโกดังดังกล่าว แล้วนำไปส่งที่ท่าเรือแหลมฉบังอีกครั้ง

เมื่อตรวจสอบภายในโกดังดังกล่าว พบเหล็กที่ใช้สไลด์กล่องลงจากรถสองอัน กล่องกระดาษที่ยังไม่ผ่านการใช้งานกองอยู่ด้านในและอุปกรณ์อื่นๆ อีกจำนวนมาก จากการสอบถามคนงานที่อยู่ในโกดังดังกล่าว ยอมรับว่า เถ้าแก่สั่งให้นำทุเรียนดังกล่าวมารีแพ็คแล้วส่งออกไปที่จีนใหม่ สอดคล้องกับทุนจีนที่ยอมรับกับเจ้าหน้าที่ ขณะลงตรวจสอบว่าทุเรียนดังกล่าวนำเข้ามาจากเวียดนามแล้วนำมาปนกับทุเรียนแกะเนื้อของไทยส่งออกไปที่จีนอีกครั้ง 

นายพงศธร  ศรเพชรนรินท์ สส.ระยองเขต 3 จึงประสานหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งรับผิดชอบดังกล่าวให้แจ้งความฐานไม่มีเอกสารในการเคลื่อนย้ายมาแสดงแต่กลับถูกบ่ายเบี่ยงจากเจ้าหน้าที่กระทั่งมีรายงานว่าข้าราชการระดับสูงคนหนึ่งในพื้นที่แจ้งกับเจ้าหน้าที่ข้าราชการผู้ปฏิบัติงานว่าเรื่องดังกล่าวไม่ใช่ความผิด ซึ่งเป็นแค่การสงสัยจึงไม่สามารถทำได้ ทำให้นายพงศธร ศรเพชรนรินท์ สส.ระยองเขต 3 ต้องไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องที่ สภ.บ้านกร่ำ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง