จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่ลุ่มต่ำ ย้ำน้ำมาอย่าปิดมือถือ ปภ. แจ้งเตือนผ่าน Cell Broadcast

นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย พ.อ.วีระชัย ผองแก้ว รอง ผอ.รมน.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางปวีณา ทองสกุลพันธ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายวันชัย ปังพูนทรัพย์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่บริเวณศาลเจ้าปุงเถ่ากง หมู่ 11 ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำ หลังจากเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับน้ำฝนที่ยังตกอย่างต่อเนื่อง โดยมีนางสาวอารินทร์ แสงทอง นายอำเภอเสนา พร้อมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมประชุม 

นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เนื่องจากบริเวณนี้เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำสุดในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปัจจุบันเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อนอยู่ที่ 1,000 ลบ.ม ต่อวินาที ซึ่งระดับยังต่ำกว่าตลิ่งและยังไม่ส่งผลกระทบกับพื้นที่แห่งนี้ โดยจากการลงพื้นที่และคาดการณ์ของกรมชลประทาน ได้แจ้งกับประชาชน ว่า ระดับน้ำสูงสุดที่เขื่อนเจ้าพระยาจะระบายน้ำ จะเพิ่มขึ้นในระหว่าง 80 ซม.- 1 เมตร ซึ่งยังไม่ล้นตลิ่ง ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก ซึ่งทางกรมชลประทานมีแผนบริหารจัดการน้ำท่วม-น้ำแล้งอย่างประณีต เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเน้นย้ำว่าให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แจกเบอร์โทรส่วนราชการและเบอร์โทรส่วนตัว ที่ประชาชนสามารถติดต่อได้สามารถแจ้งเหตุได้ 24 ชั่วโมง โดยทำใบปลิวเบอร์โทรหน่วยงานใกล้เคียงติดตามบ้านและระวังช่วงนี้อย่าปิดมือถือทั้งเจ้าหน้าที่ และประชาชน  

ทั้งนี้ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ AIS True และ NT ส่งข้อความแจ้งเตือนผ่าน Cell Broadcast และ SMS แจ้งเตือนเขื่อนเจ้าพระยาปรับอัตราระบายน้ำเพิ่มเป็น 1,000 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ทำให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ จะได้รับผลกระทบจากระดับน้ำที่สูงขึ้น ในพื้นที่ 2 จังหวัด โดยจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแจ้งเตือน 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเสนา 4 ตำบล (ตำบลบ้านกระทุ่ม ตำบลหัวเวียง ตำบลบ้านแพน ตำบลรางจระเข้) อำเภอผักไห่ 3 ตำบล (ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง ตำบลกุฎี) โดยประชาชนในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้รับข้อความแจ้งเตือนจากป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)

นายนิวัฒน์ เปิดเผยด้วยว่า พื้นที่วัดอินทาราม ตำบลวัดตะกู เป็นพื้นที่หลุมต่ำอีกแห่งหนึ่ง เมื่อสถานการณ์น้ำเพิ่มสูงขึ้นจะส่งผลให้ปริมาณน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ติดริมแม่น้ำน้อย จึงได้ลงมอบนโยบายให้กับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาสัมพันธ์ข้อมูลสถานการณ์น้ำที่ทางจังหวัดแจ้งเตือนสื่อสารไปยังประชาชน รวมถึงการเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชน หากเกิดสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง