“โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” เลื่อน-ปรับ รองรับการเปลี่ยนแปลง เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศ

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” ประจำเดือนมิถุนายน 2568 ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT2HD และวิทยุเครือข่ายกรมประชาสัมพันธ์ทั่วประเทศ

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญที่นายกรัฐมนตรีกล่าวในรายการว่า การตัดสินใจเลื่อน Digital Wallet เฟส 3 รัฐบาลต้องการจะทำรูปแบบของ Digital จริงๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ประชาชนเข้าถึงเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น แต่พอมีกำแพงภาษีของสหรัฐฯ รัฐบาล จึงปรับเปลี่ยนแผนตามข้อท้วงติงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งจากสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย รวมถึง feedback จากประชาชน ฝ่ายค้าน และทุกคน ซึ่งรัฐบาลได้นำความเห็นมารวมกันและหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับประเทศต่อการบริหารงบประมาณที่จะหมดภายใน 30 กันยายนนี้ โดยรัฐบาลมองภาพรวมของประเทศเป็นหลัก ดังนั้น รัฐบาลจึงพิจารณาเลื่อน Digital Wallet เฟส 3 ออกไป หากเศรษฐกิจดีขึ้นรัฐบาลพร้อมให้พี่น้องประชาชนได้รับประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเปลี่ยนงบประมาณจำนวน 1.57 แสนล้านบาท สามารถนำไปทำอะไรได้บ้าง สิ่งแรกคือ ภาพรวมการบริหารจัดการน้ำเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับทุกคนในประเทศ ทั้งน้ำท่วม น้ำแล้ง ซึ่งเวลาน้ำท่วมลำบากทุกจังหวัด รวมถึงกรุงเทพมหานคร และประเทศเพื่อนบ้านด้วย จะต้องพูดคุยกันทั้งระบบ ทุกรูปแบบ ทุกภาคส่วนต้องมีการแก้ไขปัญหาบูรณาการร่วมกัน เป็นเรื่องใหญ่ของประเทศซึ่งต้องใช้งบประมาณอย่างมากในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง ให้ลดผลกระทบลง อย่างที่ทราบฝนมาทุกปี  แต่ทำอย่างไรให้ความเสียหายของประชาชนลดลงทุกๆ ปี รวมถึงน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคที่ในหลายพื้นที่ยังไม่มีน้ำดื่ม น้ำใช้ และน้ำยังเป็นต้นทางของการเกษตรคือ พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศที่ทำรายได้ให้เกษตรกรให้ชาวนา ชาวไร่  ชาวสวนทุกคน สามารถมีผลิตภัณฑ์ส่งออกมีผลผลิตส่งออกให้กับประเทศ สร้างรายได้นำเงินเข้าประเทศ คือสิ่งสำคัญที่ต้องใช้เงินงบประมาณส่วนนี้ เพื่อดูแลเรื่องของน้ำกิน น้ำใช้ น้ำท่วม น้ำแล้ง น้ำอุปโภคบริโภคและน้ำเพื่ออุตสาหกรรม ซึ่งในอนาคตจะมีอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์เข้ามาลงทุนจำนวนมาก น้ำจึงมีความจำเป็นอย่างมาก

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องต่อมาการพัฒนาเส้นทางคมนาคม เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชน ทำให้การติดต่อของพี่น้องประชาชนง่ายขึ้น ทั้งในประเทศและเชื่อมระหว่างประเทศสำหรับการเดินทางขนส่ง ซึ่งมีส่วนสำคัญอย่างมาก หากทำให้การขนส่งง่ายขึ้น รวดเร็วมากขึ้น รวมถึงการขนส่งสินค้าเกษตรที่มีวันหมดอายุไปยังต่างประเทศ ไปยังจังหวัดอื่นๆ  ถือเป็นการนำงบประมาณมาใช้ในเรื่องที่ดีและสามารถบริหารจัดการภายในเดือนกันยายนนี้  เพื่อแก้ปัญหาที่ยังค้างคาอยู่ได้อย่างรวดเร็วและชัดเจน จะเห็นผลอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการท่องเที่ยวที่เป็นรายได้หลักของประเทศ ซึ่งตนเองได้มีโอกาสเดินทางไปเซี่ยงไฮ้ บริบทได้เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนมาก ห้องน้ำมีความสะอาดมากขึ้น อาคารต่างๆ มีความทันสมัยไม่มีสภาพของความน่ากลัวทำให้ตนเองนึกถึงประเทศไทย โดยจะนำงบประมาณดังกล่าวไปใช้ในเรื่องของการท่องเที่ยว ให้เป็นที่นิยมของชาวต่างชาติได้เข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้น รวมถึง เรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวด้วย ซึ่งการทำเรื่อง CCTV มีความสำคัญอย่างมากเพื่อให้ชาวต่างชาติมีความไว้ใจว่า อาชญากรรมเล็กๆ ในประเทศได้รับการดูแล ทั้งหมดคือ รัฐบาลมองในภาพรวมว่างบประมาณดังกล่าว ถ้าไม่ได้ให้เป็นรายบุคคลแล้ว นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อภาพรวมของประเทศซึ่งจะต้องเกิดขึ้นจริง

 ยืนยัน Digital Wallet เฟส 3 ยังอยู่ การเปลี่ยนแปลงงบประมาณเป็นเพียงแผนระยะสั้น และต่อไปจะเป็นการวางแผนระยะกลาง ระยะยาว จะต้องใช้เวลาให้เห็นเป็นรูปธรรม งบประมาณดังกล่าวทำให้เห็นเป็นรูปธรรมในระยะสั้น ซึ่งได้มีการคิดมาแล้วและเรียงลำดับความสำคัญว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เมื่อมีปัจจัยแทรกเข้ามาจะต้องถอยออกมา รัฐบาลให้ความสำคัญต่อคนหมู่มากที่สุด อย่างไรก็ตาม องค์ประกอบเหล่านี้เป็นพื้นฐานของโครงสร้างทางสังคมทั้งสิ้น และเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศและการนำงบประมาณไปใช้ในโครงการต่างๆ ที่ได้กล่าวมานั้น ต้องใช้ทรัพยากรมนุษย์และเกิดการจ้างงานทั้งระบบให้มากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นแผนต่อไปในระยะยาว คือประโยชน์ที่จะได้จากการเลื่อน Digital Wallet
เฟส 3

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปถึงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ว่า จำเป็นต้องมีการปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลกและสถานการณ์ภายในประเทศ โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ที่เกิดขึ้น อาทิ ภาษีศุลกากร (Tariff) น้ำท่วม น้ำแล้ง รวมถึง ความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ทั้งนี้ รัฐบาลต้องพร้อมเสมอในการรับมือกับปัจจัยแทรกที่อาจเกิดขึ้น แม้ว่างบประมาณฯ ที่วางไว้ในเบื้องต้นค่อนข้างครอบคลุมพอสมควร แต่ต้องปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสถานการณ์เฉพาะหน้ามากยิ่งขึ้น โดยรัฐบาลได้เร่งเดินหน้าการลงทุนภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรัฐบาลชุดนี้มีการลงทุนของภาครัฐมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ การอัดฉีดงบประมาณเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการจ้างงาน สามารถสร้างรายได้ให้กับประชาชน ทั้งนี้ รัฐบาลขอความร่วมมือจากเอกชนให้ทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปัจจุบันมีความท้าทายอย่างมาก ไม่เฉพาะแต่ในประเทศไทยแต่เป็นปัญหาที่ทุกประเทศทั่วโลกต้องเผชิญ จากการเดินทางไปต่างประเทศและได้พูดคุยกับผู้นำหลายประเทศ ต่างประสบปัญหาและผลกระทบในมิติต่างๆ อาทิ ด้านการขนส่ง ผลผลิตทางการเกษตร แต่ทุกประเทศต่างพร้อมให้ความร่วมมือและสนับสนุนซึ่งกันและกัน เพื่อก้าวข้ามผ่านวิกฤติเศรษฐกิจที่ทั่วโลกกำลังพบในขณะนี้

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การประชุมผู้นำอาเซียนเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ถือเป็นเดือนแห่งการเดินทางเพื่อปฏิบัติภารกิจสำคัญในระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ โดยประเทศแรกที่เดินทางไปเยือนอย่างเป็นทางการ (Official Visit) คือ เวียดนาม ซึ่งให้การต้อนรับประเทศไทยอย่างอบอุ่น สิ่งที่พิเศษ

ในการเยือนครั้งนี้ คือการประชุมร่วมคณะรัฐมนตรี หรือ Joint Cabinet Retreat ระหว่างไทยและเวียดนาม แม้องค์ประกอบคณะรัฐมนตรีของทั้งสองฝ่ายจะไม่ครบ แต่รัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีได้ร่วมประชุมหารือกันอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ เวียดนามไม่เคยจัดประชุมในลักษณะนี้กับประเทศใดมาก่อน ประเทศไทยนับเป็นชาติแรกที่เวียดนามจัดการประชุมร่วมรัฐบาลด้วย โดยในส่วนของไทยการประชุมร่วมรัฐบาลในลักษณะนี้เคยจัดขึ้นกับประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และกัมพูชา แสดงให้เห็นถึงความใกล้ชิดและความร่วมมือระหว่างไทยกับประเทศในภูมิภาคนอกจากเวียดนาม

นอกจากนี้ ได้เดินทางต่อไปยังประเทศมาเลเซีย เพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำอาเซียน ซึ่งเป็นเวทีสำคัญของภูมิภาค โดยมีประเด็นหารือครอบคลุมหลากหลายด้าน ทั้งเรื่องอาชญากรรมออนไลน์ ปัญหายาเสพติด ผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐอเมริกา รวมถึง การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิก เพื่อเพิ่มการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อีกทั้งในปีหน้าจะมีอีกหนึ่งประเทศคือ ประเทศติมอร์เลสเตจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งอย่างเป็นทางการ โดยมีการประชุมปัญหาในภูมิภาค เช่น ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ ปัญหายาเสพติด ผลกกระทบจากมาตรการภาษีสหรัฐฯ การพัฒนาศักยภาพของประชาชน และความร่วมมือระหว่างกัน จะสามารถช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้อย่างไร

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า หลังเสร็จสิ้นการประชุมผู้นำอาเซียน ยังมีการจัดประชุมสุดยอดด้านเศรษฐกิจอาเซียน – คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ – จีน (ASEAN – GCC – China Economic Summit) ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ 3 ภูมิภาคได้รวมตัวกันโดยมีประชากรรวมกันกว่า 2,000 ล้านคน หรือประมาณหนึ่งในสี่ของประชากรโลกถือเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ โดยการประชุมในครั้งนี้ได้มีการหารือถึงความร่วมมือด้านความมั่นคงทางอาหารและพลังงาน โดยกลุ่มประเทศอาหรับมีทรัพยากรด้านพลังงานอย่างมหาศาล ขณะที่ประเทศไทยมีความมั่นคงด้านเกษตรและอาหาร ความร่วมมือของทั้ง 3 ภูมิภาคแสดงให้เห็นว่า เรามีอำนาจในการต่อรองและจับมือไปด้วยกัน อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่มีการหารือ คือแนวทางในการขยายความตกลงการค้าเสรี (Free Trade Agreement – FTA) เพื่อเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจระหว่างภูมิภาค และผลักดันการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืน

นายกรัฐมนตรี ระบุ การประชุมครั้งนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงความตั้งใจของรัฐบาลไทยในการร่วมมือกับประเทศต่างๆ แต่ยังเป็นการสานสัมพันธ์กับประเทศสมาชิกในกลุ่มอย่างใกล้ชิด แม้ว่าในอนาคตอาจมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหรือรัฐบาลก็ตาม ภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะประเทศที่ให้ความสำคัญกับการหารือ ความร่วมมือและการขับเคลื่อนภูมิภาคอย่างต่อเนื่องนั้นจะยังคงปรากฏต่อไป

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การดูงาน Formula 1 หรือ F1 ว่า รัฐบาลต้องการศึกษาว่าจะเกิดประโยชน์อะไรขึ้นบ้างกับประเทศไทย ในการทำ F1 ถือเป็นอีกหนึ่งใน Man-Made Destination ในเรื่องของ tourist ซึ่งประเทศไทยมีทะเลเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว แต่ไม่มี Man-Made Destination ให้ต่างชาติรับรู้ ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นในประเทศไทยด้วยความยิ่งใหญ่ในหลายด้านของการจัด F1 จะพัฒนา Perception พัฒนามุมมอง หรือพัฒนาทักษะของคนไทยไปอีกแบบก้าวกระโดด ถ้า F1 มาจัดงานที่ประเทศไทย คนไทยจะมีโอกาสช่วยในเรื่องของเครื่องยนต์ ในเรื่องของการทำงาน เพราะทีม F1 ต้องใช้คน ซึ่งทีม F1 ไม่สามารถแบกคนไปในทุกประเทศได้ทั่วโลกได้ ดังนั้นการจ้างงานก็จะเกิดขึ้น ถึงแม้จะเป็นช่วงสั้นหรือช่วงยาว แต่จะเป็นโอกาสของคนไทยที่จะไปสมัครงานกับทีม F1 ถือเป็น Destination ใหม่ๆ ชาวต่างชาติที่ไม่เคยมาประเทศไทย ทั้งนี้ ตอนไปที่โมนาโกมีโอกาสเจอน้องคนไทยที่เป็นนักแข่งอยู่ที่ Formula 3 ได้พูดคุยสอบถามความใฝ่ฝันต้องการเป็นนักแข่งของ Formula 1 ถือเป็นการสร้างความหวังให้เด็กไทยได้รู้สึกว่าการแข่งรถมันไม่ไกลเกินไป เกิดความภาคภูมิใจในตัวเองที่ได้ติดธงไทยเป็นตัวแทนของคนไทย

การสร้าง F1 สามารถนำคนที่มีความชอบในเรื่องนี้มารวมตัวกัน เกิดการท่องเที่ยว แค่หนึ่งวันมีนักท่องเที่ยวเพื่อมาดู F1 จำนวน 100,000 คน สามวัน จำนวน 300,000 คน โรงแรม ร้านอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางรถไฟฟ้า แท็กซี่ ทุกอย่างเต็มทุกช่องทาง ไม่ใช่แค่กรุงเทพฯ จะมีจังหวัดข้างๆ อีกที่จะไป และ International Airport ของเราทุกที่ เป็นโอกาสที่เพิ่มขึ้นทั้งประเทศ คนจะเดินทางเข้ามาดู F1 มากกว่า  100,000 คนต่อวัน และการแข่งขันจะต้องเตรียมงานอย่างน้อย 2-3 อาทิตย์ จะทำให้เกิด High season อีกช่วงหนึ่งเรียกว่าเป็นความหวัง ตอนนี้มี 24 ประเทศเท่านั้นที่จัดงานของ F1 ส่วนในเอเชีย มีแค่ 3-4 ประเทศเท่านั้นเอง ประเทศไทยจะเป็นหนึ่งในนั้นและมีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นหนึ่งในนั้น”

ในช่วงสุดท้าย นายกรัฐมนตรี ระบุว่า รัฐบาลกำลังดูอยู่ทุกเรื่องที่จะเป็นโอกาสของพี่น้องประชาชนและโอกาสของประเทศ ดิฉันในฐานะของหัวหน้ารัฐบาลตั้งใจจะทำเรื่องนี้อย่างเต็มที่ การเข้ามาตรงนี้การพัฒนา การกระตุ้นเศรษฐกิจจะทำให้ชีวิตของพี่น้องประชาชนกินดีอยู่ดีขึ้นนั้น ดิฉันรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดและทำอย่างเต็มที่แน่นอน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง