พณ. สั่งคุมเข้ม การจำหน่ายชุดตรวจ ATK ห้ามขาด-ห้ามแพง หลังโควิด-19 กลับมาระบาดในหลายภูมิภาค

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้กรมการค้าภายใน ติดตามสถานการณ์โควิด-19 ที่แพร่ระบาดอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินสถานการณ์การจำหน่ายชุดตรวจ ATK ไม่ให้ขาดตลาด และไม่ให้เกิดการกักตุน จนทำให้ราคาสินค้าสูง โดยเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน ได้ติดตามสถานการณ์ชุดตรวจ ATK (Antigen Test Kit) โดยเชิญผู้นำเข้าและผู้ค้าปลีก Big C / Lotus / Makro / 7-Eleven และร้านขายยา (Pharmax / Savedrug) เพื่อติดตามสถานการณ์ชุดตรวจ ATK เพื่อไม่ให้ขาดตลาด

นายพิชัย กล่าวว่า จากการประชุมผู้นำเข้ายืนยันว่า สามารถนำเข้าชุดตรวจ ATK ได้อย่างต่อเนื่อง ไม่มีปัญหาในการนำเข้า เนื่องจากในช่วงก่อนหน้านี้มีการเก็บสต๊อกไว้จำนวนมาก ยังไม่มีการแพร่ระบาด คนใช้น้อยลง แต่ปัจจุบันมีการใช้ ATK เพิ่มขึ้น ในส่วนของผู้จำหน่ายแจ้งว่า จากเดิมซื้อคนละ 1 ชุด แต่พอมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ซื้อเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 ชุด เพื่อให้คนใกล้ชิดหรือคนในครอบครัวได้ตรวจเชื้อโควิดด้วย ประกอบกับมีการเปิดภาคเรียน ทำให้บางโรงเรียนมีมาตรการให้นักเรียนตรวจ ATK ก่อนเข้าเรียน จึงส่งผลต่อปริมาณการใช้ที่เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ดี กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน ได้ขอให้ผู้นำเข้าประสานกับทางผู้ค้าอย่างใกล้ชิด ให้เร่งนำเข้า ATK มาให้เพียงพอต่อความต้องการ และจากการสอบถามจากผู้นำเข้า ATK รายใหญ่ที่นำเข้ายี่ห้อ TESTSEALABS / Singclean / HIP BIO Tech / YAMADA / Flowflex เป็นต้น ทราบว่าได้สั่งนำเข้ามาแล้ว ซึ่งขณะนี้สินค้าบางล็อตได้กระจายให้แก่ผู้จัดจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในส่วนของผู้จำหน่ายให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ขณะนี้มี ATK พร้อมกระจายไปยังหน้าร้านต่างๆ ซึ่งทางหน้าร้านจะเป็นผู้บริหารจัดการสินค้า หากสินค้าหมดจะประสานมายังส่วนกลางเพื่อให้ส่งของมาจำหน่ายเพิ่มเติม

นายพิชัย ระบุว่า กระทรวงพาณิชย์ได้เน้นย้ำให้ผู้จำหน่ายวางแผนบริหารจัดการสินค้าให้เพียงพอ และให้เร่งเติมชุดตรวจ ATK ในชั้นวางจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง สำหรับราคาจำหน่ายนั้นยังไม่มีการปรับขึ้นราคา แต่ราคาจะขึ้นอยู่กับคุณภาพ ชนิด หรือแบรนด์ของแต่ละสินค้า ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นการฉวยโอกาส เอารัดเอาเปรียบ กักตุนสินค้า หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมทางการค้า สามารถร้องเรียนได้ทางสายด่วนกรมการค้าภายใน โทร. 1569 หรือแอปพลิเคชันไลน์ @MR.DIT กรมการค้าภายในจะเข้าไปตรวจสอบ หากพบการกระทำผิดจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกประกาศเตือนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่กลับมาน่ากังวลอีกครั้ง โดยตรวจพบพฤติกรรมของเชื้อ SARS-CoV-2 เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญใน 3 ภูมิภาคทั่วโลก ได้แก่ แปซิฟิกตะวันตก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก โดยมีปัจจัยสำคัญจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ NB.1.8.1 ที่กำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว โดยข้อมูลล่าสุดจากองค์การอนามัยโลก ณ วันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ระบุว่า ตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา การระบาดของเชื้อ SARS-CoV-2 ทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อัตราการตรวจพบเชื้อ (test positivity rate) จากสถานการณ์เฝ้าระวังพุ่งสูงถึง 11% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2567 โดยเฉพาะใน 73 ประเทศที่รายงานข้อมูลเข้ามา ขณะที่ภูมิภาคแอฟริกา ยุโรป และอเมริกา ยังคงมีระดับการแพร่ระบาดต่ำอยู่ที่ประมาณ 2 – 3% อย่างไรก็ตาม พบแนวโน้มเพิ่มขึ้นในบางพื้นที่ เช่น แถบแคริบเบียนและแอนเดียนในภูมิภาคอเมริกา

ทั้งนี้ เชื้อโควิด-19 ยังคงมีการพัฒนาและกลายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ต้นปี 2568 พบการเปลี่ยนแปลงของสายพันธุ์ที่ระบาดหลัก สายพันธุ์โอมิครอน LP.8.1 ที่เคยแพร่หลายเริ่มลดลง และถูกแทนที่ด้วยสายพันธุ์ NB.1.8.1 ซึ่งอยู่ภายใต้การเฝ้าระวัง (Variant Under Monitoring – VUM) และมีอัตราการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ข้อมูลล่าสุด ณ กลางเดือนพฤษภาคม 2568 ชี้ว่า สายพันธุ์ NB.1.8.1 คิดเป็นสัดส่วนถึง 10.7% ของลำดับพันธุกรรมเชื้อที่ได้รับการจัดเก็บทั่วโลก เพิ่มขึ้นจากเพียง 2.5% เมื่อสี่สัปดาห์ก่อนหน้า

โดยสายพันธุ์ NB.1.8.1 นี้เป็นสายพันธุ์ย่อยของ XDV.1.5.1 ซึ่งสืบเชื้อสายมาจาก JN.1 และพบตัวอย่างแรกเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2568 แม้ปัจจุบัน NB.1.8.1 จะยังมีสัดส่วนการระบาดในระดับต่ำ แต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตก (จาก 8.9% เป็น 11.7%) อเมริกา (จาก 1.6% เป็น 4.9%) และยุโรป (จาก 1.0% เป็น 6.0%) ขณะที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีรายงานการพบเพียง 5 ตัวอย่าง และยังไม่พบในแอฟริกาหรือเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก

นายอนุกูล กล่าวว่า ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วงที่เชื้อสายพันธุ์ใหม่อย่าง NB.1.8.1 กำลังแพร่กระจายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในหลายภูมิภาค แม้จะยัง
ไม่พบการแพร่ระบาดในระดับสูงในประเทศไทย แต่การเดินทางระหว่างประเทศและฤดูฝนที่มาพร้อมกับโรคทางเดินหายใจต่างๆ อาจเป็นปัจจัยเร่งการแพร่ระบาดในอนาคต ทั้งนี้ รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมประเมินแนวโน้มสายพันธุ์ใหม่ และออกมาตรการรองรับที่เหมาะสม เพื่อความปลอดภัยของประชาชน พร้อมขอความร่วมมือประชาชนหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง หมั่นล้างมือ
สวมหน้ากากในที่แออัด และเข้ารับวัคซีนกระตุ้นเมื่อครบกำหนด รวมถึงควรสังเกตอาการตนเอง หากมีไข้ ไอ เจ็บคอ หรืออาการทางเดินหายใจ  อื่นๆ ให้รีบพบแพทย์โดยเร็ว

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์โควิด-19 รายวัน ข้อมูลประจำวันที่ 1 มิถุนายน 2568 พบ ผู้ป่วยรายใหม่ 18,102 ราย ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 9 ราย ผู้ป่วยสะสม 313,160 ราย (1 ม.ค. 68 – ปัจจุบัน) เสียชีวิตสะสม 68 ราย สำหรับ 5 จังหวัดผู้ป่วยสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 13,709 ราย ชลบุรี 341 ราย ปราจีนบุรี 298 ราย นครราชสีมา 256 ราย สงขลา 214 ราย ส่วนใหญ่ในกลุ่มอายุ 30 – 39 ปี และกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ว่า ยังพบการระบาดต่อเนื่องในช่วงฤดูฝน เมื่อประชาชนเห็นตัวเลขการระบาดที่สูงเป็นหลักหมื่นย่อมทำให้เกิดความตระหนกได้ จึงเน้นย้ำให้ยึดถือแนวปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด สวมหน้ากากอนามัยหากไปในสถานที่เสี่ยง สถานที่ที่มีคนรวมกันเป็นหมู่มาก หากมีอาการน่าสงสัยว่าจะป่วยควรตรวจหาเชื้อเบื้องต้นด้วย ATK เพื่อไม่เป็นการนำเชื้อกลับไปติดกลุ่มเสี่ยง 608 คือ ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว

นายสมศักดิ์ กล่าวยืนยันว่า บุคลากรทางการแพทย์และเวชภัณฑ์ยาของกระทรวงสาธารณสุข มีความพร้อมในการดูแลพี่น้องประชาชน ขอให้มั่นใจและดูแลรักษาสุขภาพ แต่เพื่อความปลอดภัยขอให้ยึดถือแนวปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน เช่น หมั่นล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาดหรือเจลแอลกอฮอล์ สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ต้องออกจากบ้าน หลีกเลี่ยงการนำมือมาจับหน้า ตา จมูก และปาก รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ งดรับประทานของดิบ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์หรือไข่ดิบ หลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสถานที่แออัดและไม่มีอากาศถ่ายเท ทั้งนี้ กองระบาดวิทยา รายงานว่า แนวโน้มการระบาดเริ่มลดลงและเลยช่วงของการระบาดสูงสุดมาแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง