ไทยเร่งเดินหน้าเจรจาภาษีสหรัฐฯ พร้อมนัดหมายเร็วที่สุด ยึดประโยชน์สูงสุดของประเทศ

นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างประเทศไทยกับสหรัฐอเมริกา โดยสรุปสาระสำคัญดังนี้

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เดินทางไปร่วมการประชุมคณะมนตรี OECD (The Organization for Economic Co-operation and Development: องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา) ในระดับรัฐมนตรี (OECD Ministerial Council Meeting: MCM) ประจำปี ค.ศ. 2025 ณ กรุงปารีส ฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 3 – 4 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา และได้มีโอกาสพบกับเอกอัครราชทูต Jamieson Greer (เจมิสัน กรีเออร์) ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ซึ่งทางผู้แทนการค้าของสหรัฐฯ แสดงความพร้อมที่จะพูดคุยกับประเทศไทย และหลังจากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ประสานสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน และสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ซึ่งมีการประสานงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และได้รับรายงานด่วน เมื่อคืน (5 มิ.ย. 68) จากเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน ว่าฝ่ายสหรัฐฯ พร้อมเจรจากับประเทศไทย โดยขอให้มีการนัดหมายการเจรจาระหว่างนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้เป็นหัวหน้าคณะเจรจาฝ่ายไทยในการเจรจากับฝ่ายสหรัฐฯ ให้เกิดขึ้นโดยเร็ว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้เร่งประสานงานนัดหมายการเจรจาโดยเร็ว โดยสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน และสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย กำลังเร่งดำเนินการนัดหมาย และคาดว่าจะสามารถนัดหมายได้ในเร็ววันนี้ เพื่อให้เกิดการเจรจาระหว่างนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกับ 3 หน่วยงานของสหรัฐฯ ที่รับผิดชอบในการเจรจาทางการค้า ได้แก่

1. เจมิสัน กรีเออร์ เอกอัครราชทูตและผู้แทนการค้าสหรัฐฯ

2. สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ

3. โฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ

ทั้ง 3 หน่วยงานนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ กำหนดให้เป็นตัวแทนเจรจาทางการค้ากับทุกประเทศ และหากนัดหมายหน่วยงานใดได้ก่อนก็พร้อมจะเริ่มการเจรจาทันที เพื่อให้เกิดความรวดเร็วและเกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศ

ทั้งนี้ ไทยได้นำเสนอ “แพ็คเกจข้อเสนอ” เพื่อใช้ในการเจรจา ซึ่งฝั่งสหรัฐฯ มองว่าน่าสนใจ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดกรอบเวลาพูดคุยอย่างเป็นทางการว่าจะเป็นช่วงไหน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า คงต้องดูโดยย้ำสิ่งที่ชัดเจนตอนนี้คือต้องดำเนินการให้เร่งเจรจาโดยเร็วเท่าที่จะทำได้  ส่วนการพูดคุยกับทั้ง 3 หน่วยงานนี้ จะเป็นขั้นตอนสุดท้ายแล้วหรือยังต้องคุยกับหน่วยงานที่สูงกว่านี้อีกหรือไม่ นายมาริษ กล่าวว่า คงไม่ต้องแล้ว เพราะทั้ง 3 หน่วยงานเป็นหน่วยงานที่รัฐบาลสหรัฐฯ กำหนดมาแล้วว่าจะต้องพูดคุยกับทุกประเทศ ซึ่งเหตุผลที่ต้องการคุยกับทั้ง 3 หน่วยงานในช่วงเวลาเดียวกันนั้น เพื่อให้เกิดความสะดวกและความมั่นใจ ว่าข้อมูลที่ไทยยื่นเสนอทั้งหมดจะถึงสหรัฐฯ ได้โดยเร็วและชัดเจน แต่หากหน่วยงานไหนนัดได้ก่อนก็สามารถเริ่มเจรจาได้ก่อน เพื่อลดขั้นตอนให้เกิดความรวดเร็วมากยิ่งขึ้นเช่นเดียวกัน

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตนได้เข้าร่วมประชุมประจำปีของรัฐมนตรีประเทศสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือ OECD ระหว่างวันที่ 3 – 4 มิถุนายน 2568 ที่กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวของไทยในด้านการค้าบนเวที OECD โดยปีนี้มีหัวข้อการหารือที่เน้นเรื่องการสร้างความมั่งคั่งที่ยั่งยืนด้วยการค้าและการลงทุน

นายพิชัย กล่าวว่า ยังได้มีโอกาสพบหารือกับ นายเจมิสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (Mr. Jamieson Greer) U.S. Trade Representative : USTR ในเวทีการประชุม OECD ซึ่งตนได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ให้ดำเนินการติดต่อและประสานงานการเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐฯ และได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และเมื่อพบกันในเวที OECD ครั้งนี้ ก็ได้ยืนยันความพร้อมของไทยในการเจรจามาตรการภาษีการค้ากับสหรัฐฯ

นายเจมิสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ได้ขอบคุณนายพิชัย ที่ได้จัดส่งข้อเสนอเชิงนโยบายที่มุ่งส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ให้โดยตลอด ทั้งแจ้งว่าให้ส่งข้อมูลเพื่ออัปเดตการเจรจากันอย่างต่อเนื่อง พร้อมแสดงความมั่นใจว่าทั้งสองฝ่ายน่าจะได้นัดหมายเพื่อเจรจากันในเร็ววันนี้

ด้านนายพิชัย แสดงความมั่นใจว่า เมื่อไหร่ที่การเจรจาเกิดขึ้น สหรัฐฯ น่าจะพอใจกับข้อเสนอของไทย และไทยก็จะสามารถหาข้อสรุปกับสหรัฐฯ ได้อย่างรวดเร็ว ในระหว่างนี้ ทั้งสองฝ่ายก็จะประสานข้อมูลการเจรจากันอย่างต่อเนื่อง เพื่อเร่งเจรจาภาษีการค้ากับสหรัฐฯ ให้สำเร็จโดยเร็ว สำหรับข้อเสนอของไทยเป็นข้อเสนอเชิงนโยบายที่มุ่งส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ภายใต้กรอบความร่วมมือที่สร้างผลประโยชน์ร่วมกัน พร้อมย้ำถึงบทบาทของไทยในฐานะหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจและการค้ากับสหรัฐฯ ในภูมิภาคเอเชีย เพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือทางเศรษฐกิจระดับทวิภาคีอย่างเป็นรูปธรรม                                                                                                                                                          

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงความคืบหน้าการเจรจานโยบายขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ โดยไทยได้ยื่นข้อเสนอผ่านผู้แทนการค้าของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 68 ประกอบด้วยกรอบการเจรจา 5 เสาหลัก ได้แก่

1) ความร่วมมือเพื่อนำไปสู่การเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ไทย – สหรัฐฯ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมแปรรูป และอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัล (Data Center and AI Industry) และการพิจารณาดำเนินการ
ลดอุปสรรคทางการค้าทั้งภาษีและมิใช่ภาษี

2) เพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ โดยเฉพาะสินค้าพลังงาน สินค้าเกษตร และเครื่องบิน ส่วนประกอบและอุปกรณ์บริการ เพื่อหาโอกาสและเพิ่มความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างไทย – สหรัฐฯ

3) การเปิดตลาดสาขาเกษตรของไทย อาทิ ผลไม้ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เป็นต้น

4) การบังคับใช้กฎหมายป้องกันการแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้า ไทยได้เริ่มการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายแล้วอย่างจริงจัง

5) ส่งเสริมการลงทุนไทยในสหรัฐฯ มากขึ้น

นายพิชัย ระบุด้วยว่า สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศคู่ค้าที่สหรัฐฯ พิจารณาให้ความสำคัญ และพร้อมที่จะหารือเพื่อหาข้อยุติในส่วนของมาตรการภาษีต่างตอบแทน และจะนำไปสู่ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอย่างสร้างสรรค์ต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง