นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ในวันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายน 2568 ตนจะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเพื่อติดตามความพร้อมในการบริหารจัดการสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา และตรวจความพร้อมของฝ่ายปกครองในการดูแลความปลอดภัยของประชาชน
นอกจากนี้ ได้กำหนดประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย–กัมพูชาจำนวน 7 จังหวัด ในวันที่ 11 มิถุนายน 2568 ณ จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อหารือแนวทางบูรณาการระหว่างส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ในการสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานด้านความมั่นคง และการเตรียมความพร้อมสำหรับดูแลประชาชนในพื้นที่
ฝ่ายปกครองได้เตรียมแผนรองรับสถานการณ์ในกรณีจำเป็นอย่างรอบด้าน ทั้งการจัดตั้งศูนย์พักพิง โรงพยาบาลสนาม การจัดหาอาหาร การตั้งชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และอาสารักษาดินแดน (อส.) เพื่อดูแลความเรียบร้อยภายในชุมชนและพื้นที่แนวหลังของจังหวัดชายแดน
การดำเนินการทั้งหมดอยู่บนพื้นฐานของความไม่ประมาท และมุ่งสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนในพื้นที่ ซึ่งสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติในขณะนี้ โดยยังไม่มีเหตุการณ์ลอบทำร้ายหรือกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนโดยตรง
ส่วนของการตัดสินใจเชิงยุทธศาสตร์ นายอนุทินระบุว่าเป็นอำนาจของฝ่ายความมั่นคง ซึ่งรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่หากมีคำสั่ง เช่น การปิดด่านชายแดน เป็นต้น โดยได้กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเตรียมความพร้อมในการบูรณาการและตอบสนองต่อสถานการณ์อย่างทันท่วงที
สำหรับกระแสการแสดงพลังสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน เช่น การเปลี่ยนโปรไฟล์ของกระทรวงมหาดไทยและพรรคภูมิใจไทย พร้อมติดแฮชแท็ก “ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด” นั้น รองนายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า เป็นเพียงการให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตามหน้าที่ ไม่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวทางการเมือง และไม่ควรตีความไปสู่ประเด็นเรื่องการรัฐประหาร
ประเทศไทยยึดมั่นในแนวทางสันติวิธีและการเจรจาตามหลักสากลในการยุติข้อขัดแย้ง รัฐบาลยังคงดำเนินนโยบายในแนวทางสร้างความมั่นคง ความสงบเรียบร้อย และการดูแลประชาชนเป็นหลัก