นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวระหว่างเป็นประธานเปิดกิจกรรมรณรงค์ วันไข้เลือดออกอาเซียน ประจำปี 2568( ASEAN Dengue Day 2025) ที่กรมควบคุมโรคจัดขึ้น ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร ภายใต้แนวคิด ASEAN United: Zero dengue death, a future we build together อาเซียนร่วมใจ สร้างอนาคตปลอดภัย ไม่ป่วยตายด้วยไข้เลือดออก
โดยกล่าวว่า โรคไข้เลือดออกเป็นปัญหาสาธารณสุขสำคัญในอาเซียนและไทย จึงกำหนดให้วันที่ 15 มิถุนายนของทุกปีเป็น “วันไข้เลือดออกอาเซียน” แม้มีการควบคุมโรคอย่างต่อเนื่อง แต่การแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน กระทรวงสาธารณสุขจึงกำหนด 4 มาตรการหลัก ได้แก่ เฝ้าระวังโรคและยุงพาหะ ควบคุมการแพร่เชื้อ รักษาอย่างรวดเร็ว และให้ความรู้ประชาชน พร้อมประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการติดตามการระบาด ช่วยให้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้าน นพ.ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์โรคไข้เลือดว่า ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ระหว่างปี 2565 – 2567 ไทยพบผู้ป่วย ปีละ 45,145 – 158,620 ราย เสียชีวิต 29 – 181 ราย สำหรับปี 2568 นี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 4 มิถุนายน 2568 พบผู้ป่วยแล้ว 13,079 ราย เสียชีวิต 15 ราย
กรมควบคุมโรค ตั้งเป้าลดผู้ป่วยไม่เกิน 70,000 ราย และอัตราป่วยตายไม่เกิน ร้อยละ 0.09 โดยใช้ 4 มาตรการหลักและสนับสนุนให้นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้จัดการโรคอย่างครอบคลุม เช่น ระบบพยากรณ์โรค ช่องทางด่วนสำหรับผู้ป่วยสงสัย และโรงงานปลอดไข้เลือดออก มาช่วยเสริม
นอกจากนี้ ยังแนะนำประชาชนให้สังเกตอาการตนเอง หากมีไข้สูงเกิน 2 วัน ให้รีบพบแพทย์ หลีกเลี่ยงการซื้อยากินเองโดยเฉพาะยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ หรือยากลุ่ม NSAIDs เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ไดโครฟีแนค และยาชุดเช่น ซึ่งทำให้เลือดออกง่าย รักษาได้ยากและเสี่ยงต่อการเสียชีวิต รวมทั้งป้องกันตนเองและบุคคลในครอบครัวจากการถูกยุงกัด เช่น ใช้ยากันยุง นอนในมุ้ง และกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายทุกสัปดาห์
ขณะที่ นายปีเตอร์ สไตรเบิล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทาเคดา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า โรคไข้เลือดออกยังเป็นปัญหาสาธารณสุขสำคัญทั่วโลก โดยมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 400 ล้านคนต่อปี องค์กรต่างๆ รวมถึงทาเคดาและพันธมิตร จึงร่วมมือกันสร้างสังคมปลอดไข้เลือดออก โดยปีนี้มีการสื่อสารผ่านแคมเปญไข้เลือดออกมือสอง สะท้อนผลกระทบทางร่างกายและจิตใจของผู้ที่ต้องเห็นคนรักเจ็บป่วย ซึ่งทุกคนสามารถช่วยกันป้องกันได้โดยหลีกเลี่ยงยุงกัดและกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายไปด้วยกัน