ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า ในวันทะเลโลก 2568 ซึ่งตรงกับวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ร่วมกับสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย มูลนิธิเวศวิถี และเครือข่ายเกาะยั่งยืนประเทศไทยกว่า 31 เกาะทั่วประเทศ รวมพลังจัดกิจกรรม “30+ Islands Clean-Up: So Cool Mission 2025” มีการจัดเก็บขยะจากชายหาด ป่าชายเลนและแนวปะการังทั่วประเทศอย่างพร้อมเพรียงกัน แบ่งเป็น 3 กลุ่มพื้นที่ ได้แก่ กลุ่มเกาะอันดามัน จำนวน 19 เกาะ กลุ่มเกาะอ่าวไทย จำนวน 6 เกาะ กลุ่มเกาะตะวันออก จำนวน 5 เกาะ
ดร.ปิ่นสักก์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลจากการจัดกิจกรรม ทำให้เก็บขยะออกจากระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่งได้รวมทั้งสิ้น 422,680 ชิ้น น้ำหนักรวม 24,837.78 กิโลกรัม หรือประมาณ 24.8 ตัน โดยสัดส่วนของขยะทะเลที่พบส่วนใหญ่เป็นขยะประเภทพลาสติก เนื่องจากน้ำหนักเบา มีความคงทนและย่อยสลายได้ยากตามธรรมชาติ ซึ่งขยะที่พบมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. ขวดเครื่องดื่ม กระป๋องเครื่องดื่ม (พลาสติก) จำนวน 121,157 ชิ้น น้ำหนัก 4,288.31 กิโลกรัม ถุงพลาสติก (ถุงหูหิ้ว) จำนวน 62,209 ชิ้น น้ำหนัก 883.76 กิโลกรัม ขวดเครื่องดื่ม กระป๋องเครื่องดื่ม (แก้ว) จำนวน 31,687 ชิ้น น้ำหนัก 4,704.63 กิโลกรัม ฝา จุกขวด ฝาดึงกระป๋องเครื่องดื่ม (พลาสติก) จำนวน 25,671 ชิ้น น้ำหนัก 76.3 กิโลกรัม และของใช้ทั่วไป (พลาสติกแข็ง) จำนวน 18,769 ชิ้น น้ำหนัก 635.94 กิโลกรัม ซึ่งถือเป็นการรณรงค์และส่งเสริมการบริหารจัดการขยะบนเกาะแบบครบวงจรให้มีประสิทธิภาพ
โดยนำหลักการของเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy: BCG) เป็นกรอบแนวทางการดำเนินงาน เพื่อลดปริมาณขยะและนำขยะกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลให้ได้มากที่สุด การรณรงค์และส่งเสริมหลักการขยายความรับผิดชอบไปยังผู้ผลิต (Extended Producer Responsibility: EPR) ให้เห็นผลเป็นรูปธรรม การสร้างความตระหนักรู้เรื่องผลกระทบของขยะทะเลต่อระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่งให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงส่งเสริมและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อันจะนำไปสู่การบริหารจัดการขยะเกาะแบบบูรณาการอย่างยั่งยืน