นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. กล่าวถึงความคืบหน้าการโครงการก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้าภูกระดึงว่า ได้ดำเนินโครงการตามขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการจัดทำผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) อย่างเข้มข้น ครอบคลุมสิ่งแวดล้อม กายภาพ สังคม สุขภาพและชุมชน รวมถึงจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย เพื่อให้โครงการมีความโปร่งใสและมีส่วนร่วม
ล่าสุด อยู่ระหว่างการจัดทำร่าง ข้อกำหนดเงื่อนไขในการออกแบบโครงการคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนนี้ จากนั้น จะเข้าสู่กระบวนการสรรหาผู้ที่จะมาออกแบบกระเช้าให้เหมาะกับสภาพแวดล้อม โดยทุกขั้นตอนจะดำเนินการควบคู่รับฟังความเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย การก่อสร้างไม่กระทบกับพื้นที่ในเส้นทางเดินธรรมชาติ สถานีต้นทางจะไม่รบกวนเข้าไปในเขตชั้นในของพื้นที่อุทยาน โดยจัดสร้างเสา 12 ต้น ระยะทาง 45 กิโลเมตร เลี่ยงก่อสร้างในจุดที่มีต้นไม้ใหญ่ จึงกระทบสิ่งแวดล้อมเพียงเล็กน้อย เนื่องจากจะมีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยประกอบด้านนอกอุทยานและนำไปติดตั้ง
สำหรับการดำเนินการก่อสร้าง จะใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ปี 6 เดือน นับจากเดือนพฤษภาคม 2568 ไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2570 ยืนยันว่า การก่อสร้างจะเกิดประโยชน์คือ ช่วยอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลดการเดินที่อาจทำลายพื้นที่สิ่งแวดล้อม ลดขยะ สร้างงานสร้างอาชีพจากการดูแลนักท่องเที่ยวด้านบน ช่วยให้เกิดความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวกรณีเกิดการเจ็บป่วยให้ได้รับการรักษาได้โดยเร็ว อีกทั้งหากเกิดกรณีไฟป่ายังสามารถนำอุปกรณ์ที่จำเป็นรับมือกับสถานการณ์ได้ทันท่วงที ที่สำคัญคือ การส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างเท่าเทียมเพื่อคนทั้งมวล