“ประเทศไทย” ติดอันดับท็อปท่องเที่ยวปลอดภัย ประกาศสหรัฐฯ การันตี หนุนความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวทั่วโลก

รัฐบาลเร่ง 5 มาตรการสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย กระตุ้นภาคการท่องเที่ยว

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประชุมติดตามสถานการณ์การท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 2/2568 โดยสั่งการเร่งผลักดันมาตรการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวในทุกมิติ อำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่ม “ไฮเอนด์” ที่มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น และสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศมากขึ้น เร่งผลักดัน 5 มาตรการ เพื่อป้องกันปัญหาและกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว ได้แก่

1. ยกระดับการประชาสัมพันธ์ประเทศไทย ตรวจสอบและให้ข้อมูลที่ถูกต้อง กรณีที่มีการบิดเบือนข่าวสารที่ไม่เป็นความจริงต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสื่อทุกช่องทาง

2. ยกระดับความปลอดภัยในทุกมิติ ทั้งด้านสิ่งอำนวยความสะดวก ความสะอาด ความน่าสนใจของจุดท่องเที่ยว เน้นย้ำให้ทุกกระทรวง และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยกระดับความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวในทุกๆ ด้าน อาทิ การติดตั้งกล้องวงจรปิด ระบบเอไอในพื้นที่ท่องเที่ยว กวดขันการปฏิบัติงานของตำรวจท่องเที่ยวและตำรวจท้องที่ และให้วางมาตรการอำนวยความสะดวก รักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้น

3. แก้ไขปัญหาการอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว ให้มีความสะดวกรวดเร็ว ป้องกันการหลอกลวง พร้อมตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจสำรวจและแก้ไขปัญหาการท่องเที่ยวในพื้นที่โดยด่วน

4. พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว เร่งกำหนดเพดานค่าโดยสารสำหรับสายการบินราคาประหยัด และเตรียมเชื่อมโยง 3 สนามบิน (กระบี่ พังงา ภูเก็ต)

5. สร้างกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในปัจจุบันและอนาคต ให้ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีกิจกรรมน่าสนใจ ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

รัฐบาลจะผลักดัน 5 มาตรการนี้ให้เป็นวาระแห่งชาติ พร้อมกำชับให้ทุกหน่วยงานดำเนินการอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยของประเทศไทย
แก่นักท่องเที่ยวและประชาชน ผลักดันภาคการท่องเที่ยวของไทยให้เติบโตและเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจไทยต่อไป 

กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา (U.S. Department of State) ได้อัปเดตประกาศเตือนการเดินทาง (Travel Advisory) ฉบับล่าสุดเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2568 โดยจัดให้ประเทศไทยอยู่ในระดับ “Level 1 – Exercise Normal Precautions” หรือระดับความเสี่ยงต่ำสุด หมายความว่านักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัย และไร้ความกังวล

ประเทศไทยจึงถือเป็นหนึ่งในประเทศไม่กี่แห่งในโลกที่ได้รับการประเมินว่ามีความปลอดภัยสูงในสายตาของรัฐบาลสหรัฐฯ เทียบเท่ากับประเทศอย่าง ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย แคนาดาและสิงคโปร์ ถือเป็นสัญญาณบวกอย่างยิ่งต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะตลาดนักท่องเที่ยวจากสหรัฐฯ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและนิยมการเดินทางเชิงคุณภาพ

ทั้งนี้ แม้พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ได้แก่ ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส จะยังอยู่ในกลุ่ม Level 2 – Increased Caution แต่โดยรวมแล้ว เมืองท่องเที่ยวหลักของไทย อาทิ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา ฯลฯ ได้รับการยืนยันว่าอยู่ในระดับปลอดภัยตามมาตรฐานสากล

การประกาศระดับเตือนภัยใหม่นี้ ไม่เพียงส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อภาคธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร และบริการท่องเที่ยวในไทย ที่จะมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง สร้างรายได้และกระจายเม็ดเงินสู่เศรษฐกิจฐานรากทั่วประเทศ ประเทศไทยพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ด้วยรอยยิ้ม ความปลอดภัย และเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมไทย นี่คืออีกหนึ่งก้าวสำคัญของการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็น “จุดหมายปลายทางคุณภาพของโลก (Quality Destination)” อย่างแท้จริง

นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า “ความสำเร็จนี้สะท้อนถึงความพยายามของไทยในการดูแลความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวผ่านมาตรการต่าง ๆ อาทิ การจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว (Tourist Assistance Center: TAC) กองทุนช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และศาลแผนกคดีนักท่องเที่ยว เพื่ออำนวยความยุติธรรมอย่างเป็นระบบ รัฐบาลขอขอบคุณประชาชนทุกภาคส่วนที่ร่วมกันสร้างความมั่นคงปลอดภัย จนประเทศไทยได้รับการยอมรับในระดับโลก การจัดอันดับ ระดับ 1 จากสหรัฐฯ คืออีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่าประเทศไทยพร้อมสำหรับการเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวระดับสากล”

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แสดงความขอบคุณกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา (U.S. Department of State) สำหรับการอัปเดตประกาศเตือนการเดินทาง (Travel Advisory) ล่าสุด ซึ่งช่วยหนุนความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวทั่วโลกต่อประเทศไทย

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือในประเด็นด้านการท่องเที่ยว เพื่อกำหนดมาตรการในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้แก่

มาตรการด้านความปลอดภัย ให้รัดกุมและนำมาใช้ในการดูแลรักษาความปลอดภัยแบบครบวงจร
กับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะแอปพลิเคชัน Thailand Tourist Police ช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถส่งข้อความ รูปภาพ และพิกัดสถานที่เพื่อสอบถามข้อมูล แจ้งเหตุ หรือขอความช่วยเหลือ ทำให้การประสานงานระหว่างนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่มีความสะดวกรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมจัดสรรเจ้าหน้าที่ของกระทรวงฯ ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวประจำทุกจังหวัด รวมทั้งสิ้น 79 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้บริการ ช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว พร้อมทั้งบูรณาการความร่วมมือกับสถานเอกอัครราชทูตต่างๆ ประจำประเทศไทยในการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยว

มาตรการด้านค่าใช้จ่ายการท่องเที่ยว ที่เพิ่มสูงขึ้นและเป็นธรรมต่อนักท่องเที่ยว โดยเน้นย้ำให้มีการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานที่รวดเร็ว บริการที่เป็นมิตร จัดเก็บค่าธรรมเนียมหรือราคาสินค้าและค่าบริการที่เท่าเทียมกันระหว่างชาวไทยกับชาวต่างชาติและนักท่องเที่ยวสามารถใช้จ่ายได้อย่างคุ้มค่า โดยไม่ลดทอนคุณภาพของประสบการณ์ท่องเที่ยว โดยเฉพาะราคาที่พัก ค่าอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่อาจถูกมองว่าราคาของประเทศไทยสูงเกินความเหมาะสมเมื่อเปรียบเทียบกับจุดหมายปลายทางข้างเคียง อีกทั้ง มีนโยบายในการพัฒนาบริการท่องเที่ยวเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์/กิจกรรมท้องถิ่น (Local Experience) อาทิ การท่องเที่ยวโดยชุมชน และการพำนักกับเจ้าบ้าน (Homestay) เพื่อสร้างประสบการณ์ที่หลากหลาย ตอบโจทย์กับนักท่องเที่ยวที่ชอบการท่องเที่ยวแบบอิสระที่ประหยัดค่าใช้จ่าย

มาตรการแก้ไขปัญหาสภาพแวดล้อมและมลภาวะด้านการท่องเที่ยว เน้นย้ำให้มีการดูแลความสะอาดของชายหาด การจัดการขยะอย่างเป็นระบบ การแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 การกำกับและควบคุมกลิ่นจากการใช้กัญชาเสรีไม่ให้รบกวนนักท่องเที่ยวและกระทบต่อบรรยากาศการท่องเที่ยว การลดมลภาวะทางเสียงจากการใช้ยานพาหนะให้อยู่ในขีดจำกัด ตลอดจนการพัฒนา ปรับปรุงและแก้ไขโครงสร้างพื้นฐาน และระบบขนส่งสาธารณะรองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพสูง

นายสรวงศ์ ระบุว่า รัฐบาลไทยมุ่งมั่นที่จะทำให้ประเทศไทยกลับมาเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติดังเดิม ตลอดจนมีภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยว และมีความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอีกด้วย การที่ประเทศไทยจะกลับมาเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวระดับโลก เราต้องมั่นใจว่าทุกคนที่เดินทางมาจะรู้สึกปลอดภัยและยินดีที่ได้มาเยือน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง