ครม. เห็นชอบเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน F1 ในประเทศไทย ปี 2571-2575

คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการศึกษาความเหมาะสมและเป็นไปได้ในการจัดการแข่งขันรถยนต์ Formula One ในประเทศไทย และผลการศึกษารายละเอียดด้านสนามแข่งขันที่เหมาะสมและการลงทุนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสนามแข่งขัน และเห็นชอบในหลักการให้ประเทศไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพโครงการจัดการแข่งขันรถยนต์ชิงแชมป์โลก รายการ FIA FORMULA ONE WORLD CHAMPIONSHIP ประจำปี พ.ศ. 2571-2575 (5 ปี) (การจัดการแข่งขันรถยนต์ Formula One)สำหรับกรอบงบประมาณค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ให้ดำเนินการตามความเห็นสำนักงบประมาณ (สงป.) และเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง โดยให้รับความเห็นหน่วยงานไปพิจารณาด้วย

สาระสำคัญของเรื่อง

หลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (23 เมษายน 2567) มอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้

1. ให้สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) (สสปน.) ศึกษาความเหมาะสมและเป็นไปได้ในการจัดการแข่งขันรถยนต์ Formula One ในประเทศไทย เพื่อพิจารณาดำเนินการประมูลสิทธิการจัดการแข่งขันรถยนต์ดังกล่าวต่อไป

2. ให้การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ศึกษารายละเอียด ด้านสนามแข่งขันรถยนต์ Formula One ที่เหมาะสมและการลงทุนในส่วนที่เกี่ยวข้อง กับสนามแข่งขันดังกล่าว

3. ให้กรุงเทพมหานครพิจารณาจัดทำแผนการพัฒนาพื้นที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อรองรับการจัดการแข่งขันรถยนต์ดังกล่าว

4. ให้ สสปน. ร่วมกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สำนักงบประมาณ (สงป.) กกท. กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาจัดทำแผนการจัดการแข่งขันรถยนต์ Formula One ในประเทศไทยให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป กกท. และ สสปน. จึงได้ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมและเป็นไปได้ในการจัดการแข่งขันรถยนต์ Formula One ในประเทศไทยในด้านต่างๆ โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้

ผลการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดการแข่งขัน

ประเด็นรายละเอียด
วัตถุประสงค์– เพื่อสร้างรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจ และเกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ – เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการเป็นศูนย์กลางในการ   จัดการแข่งขันกีฬาชั้นนำของโลก และ World Class Event Hub – เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทย – เพื่อสร้างเสริมประสบการณ์ของบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับกีฬายานยนต์
ระยะเวลา การจัดงานแข่งขันจำนวน 3 วันต่อปี เป็นเวลา 5 ปี (ตั้งแต่ปี 2571 – 2575) – ตรงกับวันศุกร์ เสาร์และอาทิตย์ ของเดือนมีนาคมหรือเดือนกันยายน
พื้นที่ ที่มีศักยภาพในการจัดการแข่งขันพื้นที่ศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดงานเบื้องต้น คือ พื้นที่บริเวณจตุจักรประกอบด้วย 8 พื้นที่หลัก ได้แก่ – พื้นที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ มีขนาดพื้นที่ประมาณ 838 ไร่ – พื้นที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 มีขนาดพื้นที่ประมาณ 109 ไร่ – พื้นที่ตลาดนัดจตุจักร มีขนาดพื้นที่ประมาณ 241 ไร่ – พื้นที่สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ มีขนาดพื้นที่ประมาณ 207 ไร่ – พื้นที่สวนจตุจักร มีขนาดพื้นที่ประมาณ 163 ไร่ – พื้นที่สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) มีขนาดพื้นที่ประมาณ 418 ไร่ – พื้นที่บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) มีขนาดพื้นที่ประมาณ 45 ไร่ – พื้นที่การรถไฟแห่งประเทศไทย มีขนาดพื้นที่ประมาณ 146 ไร่
แผนการใช้งานพื้นที่ สำหรับการจัดงาน– จุด Safety/Ticket Check กระจายอยู่ในจุดต่าง ๆ ภายในสนามแข่งขัน ได้แก่พื้นที่สวนจตุจักร สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) และสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ และกระจายอยู่พื้นที่โดยรอบสนามแข่งขัน ได้แก่ บริเวณตลาดนัดจตุจักร บริเวณสถานีขนส่งหมอชิต 2 บริเวณพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย และบริเวณพื้นที่จอดรถของสวนจตุจักร – พื้นที่ Fan Zone ประกอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ และกิจกรรม สร้างประสบการณ์ต่าง ๆ ของผู้เข้าชม จะกระจายอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ ของงาน เช่น 1) ภายในสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ขนาดพื้นที่ 53,440 ตารางเมตร 2) ภายในสวนจตุจักร ขนาดพื้นที่ 24,000 ตารางเมตร 3) ภายในสวนรถไฟขนาดพื้นที่ 13,000 ตารางเมตร 4) พื้นที่บริเวณทิศตะวันตกของสถานีขนส่งหมอชิต 2 ขนาดพื้นที่ 22,000 ตารางเมตร – พื้นที่ Grandstand เป็นที่นั่งบนอัฒจันทร์ที่จัดเตรียมไว้สำหรับผู้ชมทั่วไปเพื่อชมการแข่งขัน กระจายตามจุดต่างๆ ของสนาม มีจำนวน 93,500 ที่นั่ง – พื้นที่ Paddock Club เป็นพื้นที่โซน VIP ตั้งอยู่บนอาคาร Pit Lane มีจำนวน   4,000 ที่นั่ง – พื้นที่ VIP Hospitality เป็นพื้นที่โซน VIP โดยเป็นที่นั่งบนอัฒจันทร์ Grandstand ในตำแหน่งพิเศษ
การเข้าถึงพื้นที่ ที่มีศักยภาพในการ จัดการแข่งขัน  แบ่งเป็น 4 ทิศทาง โดยคำนึงถึงความสะดวกสบายในการเดินทางที่สัมพันธ์กัน    ระหว่างพื้นที่นั่งชมและทางเข้าที่ใกล้กันเป็นหลัก – ทางทิศตะวันออก แนะนำเดินทางโดยรถไฟฟ้า MRT, BTS และรถส่วนตัว ไม่แนะนำรถประจำทาง เนื่องจากมีการปิดถนนเพื่อเป็นเส้นทางแข่งขัน โดยเหมาะสำหรับผู้เข้าชมที่ต้องการเข้าพื้นที่ Fan Zone ภายในสวน (A1 และ A2) – ทางทิศเหนือ แนะนำเดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS ห้าแยกลาดพร้าว รถไฟฟ้า MRT พหลโยธิน รถประจำทาง หรือรถส่วนตัว โดยเหมาะสำหรับผู้เข้าชม ที่นั่ง  Grandstand ฝั่งทิศเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ (B1 B2 และ B3) – ทางทิศตะวันตก แนะนำเดินทางโดยรถไฟฟ้า MRT หรือ SRT ลงสถานีกลางบางซื่อ หรือรถส่วนตัว โดยเส้นทางพิเศษจากทางด่วน โดยเหมาะสำหรับ ผู้เข้าชม Grandstand และ Paddock Club บริเวณเส้นชัย (C1 และ C2) – ทางทิศใต้ แนะนำเดินทางโดยรถไฟฟ้า MRT ลงสถานีกำแพงเพชร รถประจำทางหรือรถส่วนตัว โดยเหมาะสำหรับผู้เข้าชมที่นั่ง Grandstand ฝั่งทิศตะวันตกและตะวันตกเฉียงใต้ (D1)
การคาดการณ์ จำนวนผู้เข้าชมงานผลการคาดการณ์จำนวนผู้เข้าร่วมงาน Formula One ในประเทศไทย ในกรณีที่มีการจัดงานในปี 2571 (ค.ศ. 2028) โดยพิจารณาสัดส่วนของผู้เข้าร่วมการแข่งขันรถยนต์ Formula One จากจำนวนนักท่องเที่ยว ภายในประเทศและนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศของ 21 เมือง/ประเทศเจ้าภาพ พบว่า มีความเป็นไปได้ในระดับสูงที่จะมีจำนวนผู้เข้าร่วมงาน Formula One ในประเทศไทยในปี 2571 ที่ค่าเฉลี่ยจำนวน 407,132 ราย โดยมีจำนวนผู้เข้าร่วมงานต่ำสุด อยู่ที่ 81,918 ราย และสูงสุดอยู่ที่ 598,983 ราย
ผลประโยชน์ ทางเศรษฐกิจ– ในช่วงปี 2571 – 2575 จะมีผู้เข้าชมการแข่งขันรถยนต์ Formula One จำนวน
  99,875 ต่อวัน จำนวน 3 วัน รวมทั้งสิ้น 299,625 คนต่อปี (สัดส่วนนักท่องเที่ยว
  ชาวไทย : นักท่องเที่ยวต่างชาติ = 70 : 30) – ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้กับธุรกิจที่เกี่ยวข้อง
  เช่น โรงแรม ร้านอาหาร และบริการขนส่ง ทำให้เงินสะพัดทางเศรษฐกิจระหว่าง   การจัดการแข่งขันเฉลี่ยอยู่ที่ 16,000 ล้านบาทต่อปี – ส่งผลให้มูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 14,000 ล้านบาทต่อปี – สร้างรายได้จากการจัดเก็บภาษีภาครัฐเฉลี่ย 1,400 ล้านบาทต่อปี – เกิดการลงทุนใหม่เฉลี่ยประมาณ 7,000 ล้านบาทต่อปี สร้างงานใหม่ในประเทศ
  ไทยประมาณ 8,000 ตำแหน่งต่อปี
ผลประโยชน์ ทางสังคม– เกิดการพัฒนาเมืองและการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน เช่น เป็นตัวเร่งการ
  พัฒนาเมืองโดยเฉพาะเมืองอัจฉริยะ (Smart City) และช่วยให้เกิดการปรับปรุง
  โครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน ระบบขนส่งมวลชน ดิจิทัล การเงิน ซึ่งจะช่วย
  ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน – สร้างโอกาสในการจ้างแรงงานหลากหลายระดับ ตั้งแต่แรงงานไร้ฝีมือไปจนถึง
  แรงงานที่มีทักษะสูง เช่น วิศวกรสนามแข่ง – เกิดการกระจายรายได้ไปยังประชาชนในระดับต่าง ๆ สู่ชุมชนท้องถิ่น เสริมสร้าง
  คุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน และช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม – กระตุ้นความสนใจด้านวิศวกรรม เทคโนโลยี และ STEM Education ในกลุ่มเยาวชน   เนื่องจากการแข่งขันรถยนต์ Formula One แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของ   วิศวกรรม เครื่องกล และอากาศพลศาสตร์ – ส่งเสริม Soft Power และเสริมสร้างอัตลักษณ์และความภาคภูมิใจของชาติ เช่น
  ช่วยเผยแพร่เอกลักษณ์ของประเทศผ่านวัฒนธรรม อาหาร และศิลปะ สร้างภาพลักษณ์    และความภาคภูมิใจ และประชาชนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของเวทีระดับโลก – เกิดการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม เช่น สร้างโอกาสในการส่งเสริมวัฒนธรรม
  ท้องถิ่นผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น เทศกาลดนตรี เทศกาลอาหาร และนิทรรศการ
  ทางวัฒนธรรม – ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวและแฟนกีฬาชนิดอื่น ๆ
ความท้าทาย ทางสังคม– ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้พลังงานสูงทั้งพลังงานฟอสซิล และไฟฟ้า   มลพิษทางอากาศ มลพิษทางแสง และปัญหาการจัดการขยะ – การรบกวนชุมชน เช่น ราคาสินค้าและบริการ และค่าครองชีพในพื้นที่สูงขึ้น
  การปิดถนน/การจราจรติดขัด ความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยและมลพิษ   ทางเสียง ทั้งจากเสียงเครื่องยนต์และเสียงลำโพงที่กระทบต่อชุมชน – การย้ายถิ่นฐานทางสังคม เช่น ราคาที่อยู่อาศัยและค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น   การจราจรติดขัด/การปิดถนน ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตและการเดินทาง   ประจำวันของคนท้องถิ่น – ประชาชนในพื้นที่ถูกบังคับให้ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตประจำวัน

ด้านนายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. เห็นชอบการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน Formula 1 หรือ F1 ตามการลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU) การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน 5 ปี ตั้งแต่ปี 2571 ภายใต้กรอบวงเงิน 40,000 ล้านบาท ทั้งนี้ งบประมาณในกรอบวงเงินดังกล่าวจะใช้งบเป็นรายปีและจะต้องมีการนำเสนอเข้าที่ประชุม ครม. เพื่อพิจารณาทุกปี โดยในการประชุม ครม. ได้พิจารณากรอบการดำเนินโครงการเพื่อศึกษารายละเอียดต่อไป และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ตนเป็นประธานคณะทำงานประมูลสิทธิการจัดการแข่งขัน Formula 1 ซึ่งระยะเวลาการศึกษาโครงการตั้งแต่ปัจจุบันถึงปี 2571 เพียงพอ เนื่องจากขณะนี้ได้มีข้อมูลเบื้องต้นไว้แล้วและได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง Formula One Group และ สำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)

ทั้งนี้ การจัดการแข่งขัน F1 ในไทย จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศ ดึงดูดนักท่องเที่ยวและแฟนกีฬาชนิดอื่นๆ สร้างรายได้และมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ รวมถึงส่งเสริมให้ไทยเป็นเป็นศูนย์กลางในการจัดการแข่งขันกีฬาชั้นนำของโลก และ World Class Event Hub ในอนาคต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง