กำลังพลทุกนายของกองทัพ พร้อมปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง ปกป้องดูแลอธิปไตยของไทย

การแถลงผลการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. โดยมีพลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย พร้อมด้วยนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ

โดยนางมาระตี กล่าวว่า วันนี้ในที่ประชุมมี 3 ประเด็นที่ได้หารือกัน โดยประเด็นแรก ไทยไม่เคยปิดด่าน ซึ่งมาตรการที่ดำเนินอยู่ เป็นการควบคุมคนเข้า-ออก และปรับเวลาเปิด-ปิดด่าน ไม่ได้มีการปิดกั้นการขนส่งสินค้าข้ามแดน ทั้งนี้ เพื่อรักษาความมั่นคงและความปลอดภัยของประชาชนตามแนวชายแดน สืบเนื่องจากสถานการณ์ในพื้นที่ในขณะนี้ รัฐบาลมีความห่วงใยและจะพิจารณาปรับเปลี่ยนมาตรการตามสถานการณ์ที่มีความจำเป็นจริงๆ ส่วนที่ทางกัมพูชาได้มีการประกาศระงับการนำเข้าผักผลไม้จากไทย ตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินมาตรการ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร ซึ่งมีกระทรวงพาณิชย์ เป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบในเรื่องนี้ ฝ่ายไทยขอเรียกร้องให้กัมพูชาคำนึงถึงความเป็นอยู่ของประชาชนทั้งสองฝ่ายตามแนวชายแดน ที่จะออกมาตรการใดๆ ทั้งปัญหาที่จะเกิดขึ้น เพราะเป็นปัญหาระหว่างรัฐบาล ไม่ใช่ปัญหาระหว่างประชาชนและไม่ควรที่จะนำให้เป็นประเด็นระหว่างประชาชนทั่วไป ที่ต้องได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบจำเป็นต่างๆ ด้านมนุษยธรรม ทั้งนักเรียน นักศึกษา ผู้มารักษาพยาบาลและแรงงานกัมพูชา หวังว่าฝ่ายกัมพูชาจะคำนึงถึงประเด็นนี้เช่นกัน

ส่วนประเด็นที่สอง ที่มีการหารือตามที่กระทรวงการต่างประเทศ ได้มีการแถลงหลังจากได้มีการเปิดเผยบทสนทนาส่วนตัวระหว่างนายกรัฐมนตรีไทย กับสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ต่อสาธารณชนฝ่ายกัมพูชา ขอย้ำในสิ่งที่มีการแถลงออกไป ว่าการกระทำดังกล่าว ขาดจรรยาบรรณและมารยาทพื้นฐานของการปฏิสัมพันธ์ที่สำคัญ เป็นการทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกันที่ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเหตุการณ์นี้ไม่ควรทำให้เกิดความแตกแยกในสังคมไทยในทางกลับกัน สถานการณ์เช่นนี้รัฐบาลไทยขอให้ประชาชนคนไทย มีความสามัคคีและขอให้มั่นใจในเอกภาพในการทำงานของรัฐบาลและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ประเด็นที่สาม รัฐบาลไทยยังเชื่อมั่นในการกลไกทางการทูต กลไกทวิภาคี และการเจรจาสองฝ่ายเป็นกลไกที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมที่สุดในการแก้ไขปัญหา ทั้งความตึงเครียดและปัญหาที่เกิดขึ้นในเขตแดนระหว่างกัน โดยฝ่ายไทยยังคงพร้อมที่จะหารือด้วยความจริงใจและสุจริตใจ บนพื้นฐานของความเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน ฝ่ายไทยจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า JBC สมัยพิเศษที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้และการประชุม RBC จะช่วยลดความตึงเครียดระหว่างกันได้

ทางด้านพลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ขอยืนยันมาตรการแนวทางการปฏิบัติของฝ่ายไทยที่เป็นธรรมเป็นขั้นตอนเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ บนพื้นฐานของความห่วงใย ความปลอดภัยของประชาชนที่อยู่อาศัยตามแนวชายแดน กลุ่มเปราะบาง โดยการปฏิบัติแบ่งเป็น 4 ขั้นตอน ได้แก่

1. จำกัดการผ่านแดนโดยอนุญาตเฉพาะบุคคลที่มีเหตุจำเป็น เช่น ค้าขาย ขนส่งสินค้า แรงงานและงานอื่นๆ ที่จำเป็น

2. ปรับลดช่วงเวลาในการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนพร้อมทั้งกำหนดวันเวลา เข้าออก อย่างชัดเจน

3. ปิดจุดผ่านแดนบางจุด

4.ปิดจุดผ่านแดนตลอดแนวชายแดน ในกรณีที่เกิดสถานการณ์วิกฤติ เพื่อควบคุมสถานการณ์ในระดับสูงสุดกับปัจจุบันเน้นย้ำว่าการปฎิบัติของฝ่ายไทยได้ดำเนินการในสองขั้นตอนแรกเท่านั้น โดยยึดหลักมนุษยธรรมและความพยายามบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียนนักศึกษาผู้ป่วยที่จำเป็นที่จะต้องได้รับการรักษาพยาบาลยังสามารถผ่านเข้าออกได้

อีกประเด็นหนึ่งคือ เรื่องผลกระทบของแรงงานและเกษตรกรในพื้นที่ทางฝ่ายไทยของในนั้นย้ำว่าเรามีมาตรการช่วยเหลือเยียวยาให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยเฉพาะแรงงานกระทรวงแรงงานได้ให้กว่าสนับสนุนงานทดแทนได้ที่รายงานจังหวัดส่วนแรงงานไทยในกัมพูชาทางรัฐบาลมีมาตรการเตรียมการ และพร้อมให้การช่วยเหลือทั้งนี้ขอเน้นย้ำว่ารัฐบาลไม่มีนโยบายในการผลักดันแรงงานกัมพูชากับประเทศ

ส่วนเรื่องการเกษตรกระทรวงพาณิชย์ได้มีมาตรการช่วยเหลือและผ่านการได้มีการจัดงานเทศกาลผลไม้อย่างต่อเนื่อง และมอบให้พาณิชย์จังหวัดช่วยเหลือผู้ค้ารายย่อยและชาวบ้านในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน ประสานในการจัดงานที่เหมาะสม โดยร่วมมือกับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ห้างค้าส่งค้าปลีก ห้างท้องถิ่นในการนำสินค้าพืชผักผลไม้ในพื้นที่ออกมาจำหน่ายให้กับประชาชน

สุดท้ายกองทัพขอให้ความเชื่อมั่นกับประชาชน ในการปกป้องดูแลอธิปไตยของไทย กำลังพลทุกนายของกองทัพโดยเฉพาะในพื้นที่กำลังป้องกันชายแดนมีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็งอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในวันนี้นายกรัฐมนตรีได้มีการกำหนดการลงพื้นที่เพื่อพบปะกำลังพลทหารในพื้นที่กองกำลังสุรนารีและมอบสิ่งของบำรุงขวัญ ณ ฐานปฏิบัติการมรกต อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี รัฐบาลและกองทัพดำรงความเป็นเอกภาพและขอให้ประชาชนดำรงความสามัคคีในช่วงที่ทุกคนต้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ทุกคนเป็นทีมไทยแลนด์ สนับสนุนช่วยเหลือกันโดยตลอด ที่ผ่านมาขอบคุณประชาชนทุกภาคส่วนที่ให้การสนับสนุนกองกำลังป้องกันชายแดนอย่างต่อเนื่อง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง