นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากกรณีที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันในพื้นที่อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ประสบปัญหาโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มจำกัดการรับซื้อผลผลิต ส่งผลให้ผลผลิตตกค้างและต้องรอคิวนาน จากการตรวจสอบพบว่า สาเหตุเกิดจากเครื่องจักรของโรงงานไทยทาโลว์ขัดข้อง โดยเมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา เครื่องต้มในกระบวนการผลิตเกิดความเสียหายอย่างกะทันหัน ส่งผลให้โรงงานต้องหยุดการรับซื้อทันที
ต่อมาในวันที่ 16–17 มิถุนายน โรงงานยังคงรับซื้อผลผลิตแต่ลดปริมาณลงเหลือวันละ 200 ตัน หรือประมาณ 100 คันรถ จากปกติที่รับได้สูงสุดถึงวันละ 1,500 ตัน และในช่วงวันที่ 18–19 มิถุนายน โรงงานได้หยุดรับซื้อชั่วคราวเพื่อดำเนินการซ่อมแซมเครื่องจักรตามแผนที่แจ้งไว้ล่วงหน้า โดยมีกำหนดกลับมารับซื้อได้ตามปกติในวันที่ 20 มิถุนายน
สำหรับประเด็นเรื่องราคาผลปาล์ม อธิบดีกรมการค้าภายใน ระบุว่า โรงงานรับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกรรายย่อยในราคากิโลกรัมละ 5.00–5.20 บาท โดยราคาจะสูงขึ้นหากผลผลิตมีคุณภาพดี ส่วนเกษตรกรที่ขายผ่านลานเท อาจได้รับราคาต่ำกว่า เนื่องจากความล่าช้าในการส่งผลผลิตเข้าสู่โรงงาน ซึ่งกระทบต่อคุณภาพ
ปัจจุบันจังหวัดนครศรีธรรมราช มีโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มรวม 5 แห่ง กระจายในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ สิชล ทุ่งใหญ่ หัวไทร พระพรหม และเชียรใหญ่ โดยในช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ปริมาณผลผลิตยังคงสูงใกล้เคียงกับเดือนพฤษภาคม ทำให้โรงงานสกัดทุกแห่งเปิดดำเนินการเต็มกำลังทั้งนี้ กรมการค้าภายในได้กำชับ ให้โรงงานสกัดและลานเทแสดงราคารับซื้อผลปาล์มอย่างชัดเจน เริ่มตั้งแต่เกณฑ์ปริมาณน้ำมัน 18% และต้องไม่รับซื้อในราคาต่ำกว่าที่ประกาศไว้ รวมทั้งต้องสะท้อนคุณภาพผลผลิตของเกษตรกรอย่างเป็นธรรม พร้อมสั่งการให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดลงพื้นที่ตรวจสอบ กำกับดูแลและแก้ไขสถานการณ์ทันทีในกรณีที่มีเหตุขัดข้อง เพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของเกษตรกรและสร้างความเป็นธรรมในระบบการค้าผลปาล์ม