นายเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวยืนยันว่า ขณะนี้ ไม่มีรายงานว่ามีคนไทยที่ประเทศเกาหลีใต้ติดเชื้อโควิด-19 และทางการยังไม่มีการจัดเครื่องบินไปรับแรงงานไทยในเกาหลีใต้ เพราะสามารถเดินทางออกมาได้ตามช่องทางเครื่องบินพาณิชย์ปกติ
ทางการเกาหลีใต้ไม่ได้ประกาศปิดเมือง ซึ่งแตกต่างจากกรณีเมืองอู่ฮั่น ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ได้ตั้งกลุ่มไลน์ เพื่อติดต่อประสานงาน โดยมีคนไทยในพื้นที่ระบาดสูง จังหวัดคยองซัง-เหนือ (รวมนครแดกู) เข้าร่วมประมาณ 270 คน และสถานเอกอัครราชทูตฯ กำลังดำเนินการจัดส่งหน้ากากอนามัยให้กับคนไทยในพื้นที่ที่ประสบปัญหาในการหาซื้อด้วย
นายเชิดเกียรติ กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน ทางการเกาหลีใต้ มีมาตรการให้ชาวต่างชาติที่พำนักอยู่เกินวีซ่า แสดงความสมัครใจออกนอกประเทศได้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 โดยไม่ต้องเสียค่าปรับ และไม่มีโทษห้ามกลับเข้าเกาหลีใต้ ทำให้มีคนไทยที่พำนักเกินวีซ่าในเกาหลีใต้จำนวนหนึ่ง เข้ารายงานตัวกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง นครแดกู เพื่อแสดงความประสงค์เดินทางกลับไทย
สาเหตุจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เบื้องต้น สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ได้สอบถามสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง รับทราบว่า ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 – 1 มีนาคม 2563 มีคนไทยไปรายงานตัวแล้วกว่า 5,000 คน ส่วนเฉพาะที่นครแดกู สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้ข้อมูลว่ามีคนไทยรายงานตัวรวมจำนวน 136 คน
ขณะนี้ เกาหลีใต้ยังไม่มีมาตรการปิดเมือง หรือจำกัดการเดินทางเข้า-ออกพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาด
ดังนั้น คนไทยในเกาหลีใต้ที่ประสงค์จะเดินทางกลับไทย สามารถเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง เอกสารการจองตั๋วเครื่องบิน ไปติดต่อกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองในเขตที่พักอาศัยอยู่ได้ทันที โดยทางการเกาหลีใต้จะใช้เวลาประมาณ 3-15 วัน ในการออกเอกสาร ยืนยันการออกนอกประเทศ
หากเป็นผู้ป่วยโรคโควิด-19 ทางการเกาหลีใต้ ยืนยันว่า ทุกรายจะได้รับการรักษาตามมาตรฐานในสถานพยาบาลที่ทางรัฐกำหนด และรัฐบาลเกาหลีใต้ จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่พำนักในเกาหลีใต้อย่างถูกกฎหมายหรือไม่
สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้ยืนยันว่า ผู้ป่วยทุกคนจะไม่ถูกจับกุม และไม่ถูกส่งตัวกลับหากไม่สมัครใจ ส่วนคนไทยที่เดินทางกลับประเทศไทยแล้ว จะต้องผ่านมาตรการคัดกรองของทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ และกักตัวเพื่อดูอาการเป็นระยะเวลา 14 วันตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข
