นายชัย วัชรงค์ ผู้แทนการค้าไทย พร้อมด้วยนางสาวอุรวดี ศรีภิรมย์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย และคณะ ได้ร่วมหารือกับผู้นำภาคเกษตรเวียดนามจากหลากหลายองค์กร อาทิ สมาคมผักและผลไม้เวียดนาม (VINAFRUIT) สมาคมทุเรียนจังหวัดดั๊กลักและผู้แทนจากจังหวัดดั๊กลัก ผ่านการพบปะโดยตรงและระบบประชุมออนไลน์ เพื่อผลักดันความร่วมมือด้านเกษตร โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมทุเรียน ซึ่งเป็นสินค้ายุทธศาสตร์ของภูมิภาคอาเซียน
ผู้แทนการค้าไทยได้เสนอแนวคิดจัดตั้ง “สมาพันธ์ทุเรียนอาเซียน” โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างไทย เวียดนามและมาเลเซีย ซึ่งครองส่วนแบ่งการผลิตทุเรียนกว่า 90% ของอาเซียน ให้กลายเป็นศูนย์กลางการค้าทุเรียนของโลก โดยสมาพันธ์ฯ จะดำเนินงานใน 6 ด้านหลัก ได้แก่ การแลกเปลี่ยนข้อมูลตลาด การถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิต การกำหนดมาตรฐาน การสร้างแบรนด์ร่วม การรายงานราคากลาง และการส่งเสริมการลงทุนร่วม
Mr. Nguyen Thanh Binh ประธาน VINAFRUIT ได้แสดงการสนับสนุนแนวคิดสมาพันธ์ฯ พร้อมเปิดเผยว่า เวียดนามมีมูลค่าการส่งออกทุเรียนในปี 2567 สูงถึง 3.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้ในช่วงต้นปี 2568 จะเผชิญอุปสรรคด้านมาตรฐานจากตลาดจีน ซึ่งเน้นย้ำถึงความจำเป็นของความร่วมมือระดับภูมิภาค
ด้านผู้แทนจังหวัดดั๊กลักและสมาคมทุเรียนฯ ระบุว่า เวียดนามให้ความสำคัญกับการพัฒนาอุตสาหกรรมทุเรียนอย่างเป็นระบบ พร้อมเสนอให้จัดตั้งคณะทำงานร่วมระดับภูมิภาค เพื่อศึกษาและประสานด้านกฎหมาย มาตรฐานสินค้าและกลไกการส่งออก รวมถึงมองเห็นศักยภาพ
ของตลาดอาเซียนในการสร้างเสถียรภาพและอำนาจต่อรองในตลาดโลก
ในช่วงท้ายของการหารือ ผู้แทนการค้าไทยย้ำว่า แนวคิดจัดตั้งสมาพันธ์ทุเรียนอาเซียนได้รับการเห็นชอบจากรัฐบาลไทย และได้รับการสนับสนุนจากรัฐมนตรีเกษตรของมาเลเซีย ขณะที่เวียดนามอยู่ระหว่างเตรียมการผลักดันอย่างเป็นทางการ พร้อมเดินหน้าสู่ความร่วมมือเชิงปฏิบัติในเร็วๆ นี้
เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงฮานอย ได้กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่เข้าร่วมการหารือ และยืนยันว่า สถานเอกอัครราชทูตฯ จะทำหน้าที่ประสานความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและเกษตรอย่างใกล้ชิด เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมทุเรียนอาเซียนให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–เวียดนามในปีหน้า
