นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) พร้อมด้วยผู้แทนจาก สปป.ลาว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านทรัพยากรน้ำ ได้ร่วมกันประชุมคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อประสานงานด้านอุทกภัยและโครงการเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ ครั้งที่ 1 เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำโขงช่วงฤดูฝนปีนี้ เนื่องจากสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRCS) คาดการณ์ช่วงเดือนกรกฎาคมจะมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นในแม่น้ำโขง ส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดน้ำล้นตลิ่ง อาจจะกระทบต่อประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณริมแม่น้ำโขงใน 4 จังหวัดของประเทศไทย ประกอบด้วย จังหวัดนครพนม หนองคาย มุกดาหาร และจังหวัดบึงกาฬ รวมถึงในพื้นที่ของ สปป.ลาว เช่น เมืองเวียงจันทน์ เมืองปากเซ คณะทำงานฯ จึงร่วมกันกำหนดแนวทางการดำเนินงานและแนวทางการบริหารจัดการน้ำกับโครงการไฟฟ้าพลังน้ำ ของ สปป.ลาว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมระดับน้ำในแม่น้ำโขง การคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงอุทกภัย โดยผนวกข้อมูลด้านสภาพอากาศ ทรัพยากรน้ำและพลังงาน โดยคำนึงถึงความถูกต้องและแม่นยำมากที่สุด รวมถึงหารือแผนการสำรวจรูปตัดลำน้ำของแม่น้ำโขงและการสำรวจพื้นที่ลุ่มต่ำ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นปัจจุบันสำหรับใช้วางแผนและกำหนดมาตรการป้องกันน้ำท่วมที่เหมาะสม
เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ย้ำว่า ส่วนของฝ่ายไทย ได้นำเสนอประเด็นเกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำช่วงฤดูฝนของประเทศไทย แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการจัดการน้ำท่วมในประเทศไทย เพื่อแบ่งปันองค์ความรู้และประสบการณ์ในการบริหารจัดการน้ำลดผลกระทบและความสูญเสีย ซึ่ง สทนช. เร่งทำงานเชิงรุกอย่างเต็มที่ป้องกันปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยไม่ให้เกิดซ้ำเหมือนเช่นปีที่ผ่านมา โดยประสานงานร่วมกับ MRCS และสปป.ลาว มาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงขับเคลื่อนการดำเนินงานของคณะทำงานเฉพาะกิจฯ ซึ่งเป็นความร่วมมือของไทยและ สปป.ลาว ในระดับทวิภาคีและภูมิภาค ที่มี MRCS เป็นผู้สนับสนุน ทั้งนี้ สทนช. จะหารือกับ 4 จังหวัดริมโขงเพื่อกำหนดมาตรการและแผนงานเชิงป้องกันล่วงหน้า เพื่อช่วยลดผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนริมฝั่งโขงให้ได้มากที่สุด
