ซิกเนเจอร์ หนึ่งเดียวในไทย กาละแมทูลใจ อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม สืบทอดมรดกทางภูมิปัญญาเกือบ 70 ปี สร้างรายได้จากรุ่นสู่รุ่น ที่สุดของความอร่อย กาละแมรสดั้งเดิม ผ่านการกวนเตาถ่านแรงงานคนถึง 5 ชั่วโมง ก่อนนำมาห่อด้วยใบตองกล้วยตานีจากธรรมชาติ สร้างงาน สร้างรายได้ในชุมชน เงินหมุนเวียนสะพัดเดือนละหลายล้านบาท
นับเป็นอีกอาชีพมรดกทางภูมิปัญญา สืบทอดมานานเกือบ 70 ปี จากรุ่นสู่รุ่น สำหรับกาละแมโบราณชื่อดัง ทูลใจ ซิกเนเจอร์ ขนมหวาน หนึ่งเดียวในไทย อีกทั้งเป็นกาละแมชื่อดังอำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนมและเป็นที่รู้จักของประชาชน นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย ชาวลาว ถึงแม้จะมีการสืบทอดมานานเกือบ 70 ปี แต่ยังคงไว้ถึงมาตรฐาน รสชาติ ดั้งเดิม ความอร่อย จนกลายเป็นขนมหวานขอฝาก ที่มีชื่อเสียง รวมถึงเป็นเมนูซิกเนอเจอร์ ที่สร้างงาน สร้างรายได้ ในชุมชน มายาวนาน มีเงินหมุนเวียนสะพัดเดือนละหลายล้านบาท
สำหรับจุดเด่น รวมถึงเสน่ห์ของกาละแมทูลใจ อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม จะมีวัตถุดิบสำคัญคือแป้งข้าวเหนียว ทำจากข้าวภูมิปัญญาชาวบ้าน นำมาผ่านกระบวนการแปรรูปเป็นแป้งข้าวเหนียว ก่อนนำมาผสมกับน้ำกะทิสด รวมถึงน้ำตาลให้รสหวาน ส่วนสีธรรมชาติ มาจากภูมิปัญญาชาวบ้าน นำเปลือกมะพร้าวแห้งไปเผา นำมาบด แปรรูปเป็นสีผสมอาหาร ที่ให้สีดำธรรมชาติ รวมถึงมีกลิ่นหอมเปลือกมะพร้าว นอกจากนี้ กาละแมทูลใจ ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ แพคเกจ จะต้องห่อจากใบตองกล้วยตานี ที่ผ่านการบ่มด้วยการตากแดด ก่อนนำมารีด ด้วยเตารีดถ่านก่อไฟ ให้เกิดความหอมและห่อกลัดด้วยไม้กลัด เน้นวัสดุจากธรรมชาติ ปราศจากสารปนเปื้อน เป็นส่วนสำคัญที่เกิดความหอมจากใบตองกล้วย และสามารถเก็บไว้รับประทานได้แค่ประมาณ 7 วัน เพราะจะต้องทานให้หมดและทำสดใหม่ทุกวัน สำคัญที่สุดแต่ละหม้อกว่าจะได้กาละแม ต้องใช้แรงงานคนกวนในกระทะประมาณ 5 ชั่วโมง ส่วนราคาขายกิโลกรัมละ 400 บาท มีขนาดห่อละ 50 บาท และห่อละ 100 บาท ตามน้ำหนัก แต่ละเดือนสร้างรายได้เดือนละหลายล้านบาท
นายธนัตชัย คำป้อง อายุ 53 ปี กำนันตำบลธาตุพนม นายกสมาคมผู้ประกอบการ กาละแมโบราณนครพนม เจ้าของกาละแมทูลใจ อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า เสน่ห์ของกาละแมทูลใจ ที่สืบทอดมาตั้งแต่ปี 2500 จากคุณแม่ทูลใจ คิดค้นทำขนมหวานขายในงานบุญ งานนมัสการพระธาตุพนม เกิดจากภูมิปัญญาชาวบ้าน จนเป็นที่มาของกาละแมโบราณทูลใจ อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม และมีอีกหลายเจ้าที่ทำกาละแมเช่นกัน แต่จุดขายของกาละแมทูลใจคือ จะต้องมาจากแป้งข้าวเหนียวผสมกับน้ำกะทิสด ผสมน้ำตาลพอได้รสหวาน ส่วนสีดำจะต้องมาจากเปลือกมะพร้าว ที่ผ่านการเผาแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน นำมาแปรรูปบดเป็นส่วนผสม ให้เกิดสีดำ เกิดความหอม พอผสมได้ส่วนจะนำไปกวนในกระทะ เตาถ่าน ใช้แรงงานคน แต่ละวันละกวนวันละประมาณ 6 – 10 กระทะ ต้องใช้เวลากวนถึง 5 ชั่วโมง ถึงจะออกมาเป็นกาละแมที่เหนียว นุ่ม รสชาติ หอมอร่อย จากนั้นจะนำไปพักไว้ประมาณ 1 คืน ให้คลายความร้อน ก่อนที่จะนำไปห่อใส่ใบตองกล้วยตานี ที่ผ่านการตากแดดและนำมารีดด้วยเตารีดถ่านโบราณ ไล่ความชื้น ให้เกิดความหอม และกลัดด้วยไม้กลัดทำจากไหม้ไผ่ เป็นวัสดุธรรมชาติทั้งหมด ส่วนหนึ่งวัสดุธรรมชาติ ที่เป็นแพคเกจ จะทำให้เกิดความหอมจากใบตอง โดยไม่มีสารปนเปื้อน ทำให้เก็บรักษาไว้ได้ แค่ 7 วัน กินไม่หมดจะต้องซื้อใหม่ไปรับประทาน
นอกจากการขยายกาละแมโบราณ สิ่งที่ได้คือ กาละแม จะสร้างงาน สร้างรายได้ในชุมชน ทำให้มีอาชีพปลูกกล้วยตานีขายใบตอง เกิดการจ้างงานแรงงานรีดใบกล้วย แรงงานกวนกาละแม ห่อกาละแม ครบวงจร ถือว่าซิกเนเจอร์ เป็นหนึ่งเดียวของไทย ที่ยังคงรักษาไว้ในเรื่องภูมิปัญญาพื้นบ้าน ในการผลิต ทำให้มีชื่อเสียง ขายสร้างรายได้มานานเกือบ 70 ปี สร้างเงินหมุนเวียนสะพัดเดือนละหลายล้านบาท ส่วนรสชาติวัดกันที่สูตรต้นตำหรับรวมถึงการปรุง แต่สำหรับกาละแมทูลใจ การันตีรสชาติความอร่อยแบบดั้งเดิม