กรมการแพทย์ชูการพัฒนาศักยภาพเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการแพทย์ ผ่านศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์

นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า กรมการแพทย์ให้ความสำคัญกับการพัฒนาการรักษา ด้วยเทคโนโลยีการแพทย์ขั้นสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่เทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อน
การเปลี่ยนแปลงโดยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในทางการแพทย์ ไม่เพียงเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาพยาบาลแต่ยังเป็นการเปิดประตูสู่ความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในการดูแลสุขภาพประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดที่แม่นยำยิ่งขึ้น การวินิจฉัยโรคที่รวดเร็วและถูกต้อง หรือแม้แต่การฟื้นฟูสมรรถภาพที่ตรงจุด และมีประสิทธิภาพ กรมการแพทย์จึงสนับสนุนให้หน่วยงานภายใต้สังกัดกรมการแพทย์ดำเนินงานตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ที่สนับสนุนการพัฒนาศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ การดูแลสุขภาพที่ยั่งยืน เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพดี มีความเชื่อมั่นในการได้รับบริการทางการแพทย์อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลสูงสุด กรมการแพทย์จึงได้จัดให้มีการประชุมวิชาการศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ (Center of Excellenc : CoE) กรมการแพทย์ ปี 2568 เพื่อเป็นเวทีให้ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ทั้ง 15 สาขา ของกรมการแพทย์ ได้มีโอกาสนำเสนอผลงานวิชาการ การใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ และการสร้างสรรค์นวัตกรรมทางการแพทย์ที่ทันสมัย เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ ทั้งแพทย์ พยาบาล และผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ ในการใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดและเทคโนโลยีอื่นๆ เพื่อเพิ่มพูนศักยภาพและยกระดับการให้บริการ รวมทั้งเพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือ ระหว่างองค์กรต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกกรมการแพทย์ อันจะนำไปสู่การพัฒนาวงการแพทย์ของประเทศให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ กรมการแพทย์ยังมีแผนการเพิ่มสาขาศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์เป็น 21 สาขา เพื่อให้เกิดความครอบคลุมการรักษาผู้ป่วยอย่างรอบด้าน

แพทย์หญิงปิยะธิดา หาญสมบูรณ์ ผู้อำนวยการกองวิชาการแพทย์ กล่าวว่า กรมการแพทย์ โดยกองวิชาการแพทย์ รับผิดชอบการดำเนินงานศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ทั้ง 15 ด้านร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกรมการแพทย์ จัดประชุมวิชาการ CoE ซึ่งภายในงานประกอบด้วยกิจกรรมที่หลากหลายและผลงานน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น การแสดงโซนพิเศษ “Meet the Robot (Hands-on Workshop)” ที่เปิดโอกาสให้ทุกท่านได้ทดลองใช้อุปกรณ์หุ่นยนต์ในการผ่าตัด (Robotic Surgery) ซึ่งเป็นเทคโนโลยี ที่กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในวงการแพทย์ นอกจากนี้ ยังมีการจัดบูธแสดงนิทรรศการจากศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ทั้ง 15 สาขา อาทิ  1.ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ ด้านโรคทรวงอก สถาบันโรคทรวงอก เรื่อง Total Coronary Revascularization via Anterior Thoracotomy (TCRAT) การผ่าตัดทำทางเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจ (CABG) และ Minimally Invasive Mitral Valvular Surgery หรือ MIMVS การผ่าตัดลิ้นหัวใจไมทรัลแบบแผลเล็ก เป็นวิธีผ่าตัดแบบใหม่ โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงช่วยในการทำผ่าตัด และไม่ต้องตัดกระดูกหน้าอก ช่วยให้ผู้ป่วยมีอาการเจ็บปวดน้อยลง มีแผลเล็ก และฟื้นตัวได้เร็วขึ้น 2.ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ ด้านระบบประสาท สถาบันประสาทวิทยา เรื่อง หุ่นยนต์กล้องผ่าตัดสมองและไขสันหลัง 3 มิติ เป็นเทคโนโลยีสำหรับการผ่าตัดสมองและไขสันหลังเพื่อประโยชน์ของผู้ป่วย ให้มีความปลอดภัยในการผ่าตัด และประโยชน์ของศัลยแพทย์ผู้ช่วยในการฝึกอบรมแพทย์เฉพาะทางด้วยเทคโนโลยีหุ่นยนต์กล้องผ่าตัด 3 มิติ 3. ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ ด้านจักษุวิทยา โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) เรื่อง การฝังวงแหวนในเนื้อกระจกตา โดยการใช้เฟมโตเซเคิลเลเซอร์ (Femtosecond laser)  เป็นการรักษากระจกตาโก่ง โดยการใช้เฟมโตเซเคิลเลเซอร์ช่วยในการใส่วงแหวนในเนื้อกระจกตา อย่างแม่นยำ ปลอดภัย เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตและการมองเห็นที่ดีขึ้น 4.ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ ด้านโรคเด็ก (ศัลยกรรมทารกแรกเกิด) สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี การผ่าตัดส่องกล้องขั้นสูงในทารกแรกเกิด (ADVANCED NEONATAL MIS) เพื่อแก้ไขความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด ของทารกแรกเกิด ทั้งในช่องอกและช่องท้อง เป็นแห่งแรกของประเทศไทย รวมทั้งฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านกุมารศัลยศาสตร์และพยาบาลห้องผ่าตัดจากทั่วประเทศ 5. ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ ด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์ สถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ เรื่อง 3D PRINTING DESIGN AND LEARNING CENTER เป็นนวัตกรรมด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพ ที่บูรณาการเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติเข้ากับงานกายอุปกรณ์ เพื่อผลิตอุปกรณ์ ที่ปรับเฉพาะบุคคลได้อย่างแม่นยำ รวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงกว่าวิธีดั้งเดิม นอกจากนี้ ยังมีผลงานจากศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ อีกหลากหลายสาขาที่นำมาแสดงในครั้งนี้ รวมทั้ง การเสวนาหัวข้อการใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด (Robotic Surgery) จากผู้เชี่ยวชาญและการจัดแสดง ผลงาน Best Practice จาก 12 เขตสุขภาพและการนำเสนอนวัตกรรมทางการแพทย์ของหน่วยงานในสังกัดกรมการแพทย์ ที่จะสร้างแรงบันดาลใจและเป็นประโยชน์ ต่อการพัฒนาระบบสุขภาพของประเทศไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง