นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เชิญคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ และผู้แทนภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชน เข้าพบ เพื่อแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 อย่างเป็นระบบและยั่งยืน
การหารือจัดขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่างสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) โดยมีการบูรณาการกับกรมอุทยานแห่งชาติ กรมส่งเสริมการเกษตร และกรมป่าไม้ เพื่อยกระดับการจัดการมลพิษทางอากาศ ผ่านกลไกส่งเสริมการลงทุน การพัฒนาชุมชน และการขับเคลื่อนกิจกรรม CSR
นายกรัฐมนตรีได้แสดงความขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันทำงานเชิงรุก โดยเฉพาะในช่วงปลายปีและต้นปีซึ่งเป็นช่วงวิกฤตฝุ่น PM 2.5 และย้ำถึงการบูรณาการกำลังเจ้าหน้าที่ เทคโนโลยี และเครื่องมือที่ทันสมัย เพื่อเฝ้าระวังจุดความร้อนและป้องกันไฟป่า รวมถึงการลดการเผาในพื้นที่การเกษตร โดยสนับสนุนการนำวัสดุเหลือใช้ เช่น ใบอ้อย ไปแปรรูปเป็นพลังงาน สร้างรายได้ให้เกษตรกร
ในโอกาสนี้ นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ รายงานความคืบหน้า “ร่างพระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. …” ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการทวงคืนอากาศบริสุทธิ์ให้กับประชาชน และยกระดับการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านกรณีหมอกควันข้ามแดน
นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการสื่อสารกับประชาชนให้เข้าใจถึงสาระสำคัญของกฎหมาย และประโยชน์ที่จะได้รับ พร้อมระบุว่าการดำเนินมาตรการต่าง ๆ ต้องให้เวลาประชาชนได้ปรับตัว และพิจารณาผลกระทบในทุกมิติ
ภายหลังการหารือ ผู้แทนจากภาครัฐและเอกชนร่วมแถลงข่าวความร่วมมือ โดยนางอารีย์พันธ์ เจริญสุข รองเลขาธิการ ก.พ.ร. ชี้แจงการดำเนินงานภายใต้แนวคิด “ภาครัฐระบบเปิด” ในพื้นที่นำร่อง เช่น สิงห์บุรี ลำปาง และเชียงใหม่ ขณะที่นายวิรัตน์ ธัชศฤงคารสกุล รองเลขาธิการ BOI กล่าวถึงบทบาทของการส่งเสริมการลงทุนเพื่อสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ นายวีรพงศ์ วิรบุตร์ ผู้บริหารบริษัท สยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้ร่วมแสดงบทบาทภาคเอกชนในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหา PM 2.5 โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนไทยได้อากาศบริสุทธิ์อย่างยั่งยืน