นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัย บริเวณบ้านสบเปา อำเภอพญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย โดยมีนางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอัครา พรหมเผ่า และนายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และนายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย
นายกรัฐมนตรี รับฟังสรุปสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2568 ซึ่งส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเรือนของราษฎร สถานที่ราชการ วัด และพื้นที่การเกษตร รวมทั้งสิ้น 5 อำเภอ10 ตำบล 32 หมู่บ้าน บ้านเรือนราษฎรได้รับผลกระทบจำนวน 4,405 ครัวเรือน ถนนได้รับความเสียหาย 3 จุด สถานบริการสาธารณสุขได้รับผลกระทบ 2 แห่ง พื้นที่การเกษตร (นาข้าว) ได้รับความเสียหายประมาณ 500 ไร่ ทั้งนี้จังหวัดเชียงรายได้บูรณาการความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ทั้งในระดับจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อพยพผู้ประสบอุทกภัย โดยเคลื่อนย้ายจากพื้นที่ประสบภัยไปยังพื้นที่ปลอดภัย อาทิ ศูนย์พักพิงชั่วคราว เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและสวัสดิภาพของประชาชน สำหรับการช่วยเหลือด้านการเกษตร ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการ
ให้ความช่วยเหลือต่อไป
นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องวางแผนรับมือทั้งแผนระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุทกภัยในลักษณะเช่นนี้อีกและนำกลับมารายงานให้ทราบต่อไป จากนั้นได้ลงพื้นที่พบปะประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่บ้านสบเปา อำเภอพญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย โดยได้เดินทักทาย พูดคุย และสอบถามความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างใกล้ชิด ทั้งสถานที่พักอาศัย การเข้าถึงน้ำดื่มสะอาด อาหาร เครื่องใช้จำเป็น รวมถึงการดูแลกลุ่มผู้เปราะบาง อาทิ ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และผู้ป่วยติดเตียง พร้อมให้กำลังใจและแสดงความห่วงใยถึงความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลจะเร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าช่วยเหลือ ฟื้นฟู และบรรเทาความเดือดร้อนอย่างเต็มที่
จากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินทางต่อไปยังวัดสันติคีรี อำเภอพญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย เพื่อพบปะให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยต่อไป
นายกรัฐมนตรีโพสเฟซบุ๊ก ระบุว่า จากสถานการณ์อุทกภัยที่จังหวัดเชียงราย ได้เดินทางพร้อมคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง รวมถึงข้าราชการจากกระทรวงมหาดไทย ติดตามสถานการณ์ด้วยตัวเอง มารับฟัง และพร้อมสั่งการให้ความช่วยเหลือทุกด้านให้เป็นไปอย่างรวดเร็วและทั่วถึง ขณะนี้ทุกภาคส่วนเร่งดำเนินมาตรการช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ทั้งการอพยพ การตั้งศูนย์พักพิง การเตรียมอาหาร ยารักษาโรค และการเข้าถึงพื้นที่ที่ยังมีผู้ประสบภัยตกค้าง ในส่วนของการเยียวยา รัฐบาลได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เร่งตรวจสอบสภาพความเสียหายของบ้านเรือน เพื่อให้การสนับสนุนเยียวยาได้อย่างเร่งด่วนตามกรอบงบประมาณของจังหวัด รวมถึงกระทรวงเกษตรฯ ที่มีแผนให้การเยียวยาในพื้นที่เกษตรกรรม หรือปศุสัตว์ที่ได้รับผลกระทบ
รัฐบาลยังเดินหน้าแก้ปัญหาในเชิงระบบ ด้วยการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ เพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐานและระบบเตือนภัยล่วงหน้า เพื่อป้องกันปัญหาอุทกภัยในระยะยาวอย่างยั่งยืน รัฐบาลขอย้ำว่า ได้เร่งบูรณาการทุกสรรพกำลังในการช่วยเหลือ สนับสนุน และเยียวยาพี่น้องประชาชนผู้ได้รับกระทบในทุกมิติ เพื่อให้กลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติโดยเร็ว ขอส่งกำลังใจให้พี่น้องผู้ประสบภัยและเจ้าหน้าที่ทุกคน รัฐบาลจะอยู่เคียงข้างทุกคนจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ขณะนี้ภาพรวมสถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดเชียงรายได้คลี่คลายและระดับน้ำได้ลดลงแล้ว มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ รวม 5 อำเภอ 10 ตำบล 32 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอพญาเม็งราย อำเภอเวียงชัย อำเภอเชียงแสน อำเภอเวียงเชียงรุ้ง และอำเภอเทิง โดยเมื่อช่วงเช้าวันที่ 27 มิถุนายน 2568 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ส่ง Cell Broadcast และ SMS แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ตำบลแม่เปา ตำบลตาดควัน อำเภอพญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย ให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 15 เชียงราย ได้นำรถขนย้ายผู้ประสบภัย 3 คัน เรือท้องแบน 2 ลำ รถบรรทุกเล็ก 1 คัน พร้อมทีมเจ้าหน้าที่เผชิญเหตุ ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย ขนย้ายผู้ป่วยติดเตียง และแจกจ่ายอาหาร น้ำดื่ม สนธิกำลังร่วมกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย หน่วยทหาร มูลนิธิ จิตอาสา และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ขณะนี้หน่วยงาน
ในพื้นที่ได้เร่งเข้าทำความสะอาดศาสนสถาน อาคารโรงเรียน และบ้านเรือนประชาชน เพื่อให้สามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว
ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอุทกภัย จังหวัดเชียงรายมีงบประมาณในส่วนของเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินฯ ในอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือครอบคลุมด้านการดำรงชีพและที่อยู่อาศัยของประชาชน อาทิ ค่าซ่อมแซมวัสดุที่อยู่อาศัยประจำที่ได้รับความเสียหายเท่าที่จ่ายจริงหลังละไม่เกิน 49,500 บาท ค่าวัสดุซ่อมแซมโรงเรือนครอบครัวละ 5,700 บาท ค่าเครื่องมือประกอบอาชีพครอบครัวละ 11,400 บาท ด้านการเกษตร (พืช ประมง ปศุสัตว์ และการเกษตรอื่น) เช่น ค่าชดเชยพืชตายหรือเสียหาย ข้าวไร่ละ 1,340 บาท พืชไร่ 1,980 บาท ไม้ผลไม้ยืนต้น 4,048 บาท เป็นต้น ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะได้เร่งประสานจังหวัดเชียงรายสำรวจความเสียหาย และเร่งรัดช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตามหากงบประมาณในการช่วยเหลือ
ไม่เพียงพอ จังหวัดสามารถขอขยายวงเงินไปยังกรมบัญชีกลางได้
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเพิ่มเติมจากศูนย์บริหารการดูแลกลุ่มเปราะบางจากภัยพิบัติ (ศบปภ.) กระทรวง พม. ว่า นายวินัย เก่งสุวรรณ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงราย พร้อมเจ้าหน้าที่ทีม พม.หนึ่งเดียวจังหวัดเชียงราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าช่วยเหลือคุณยายซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมบ้านในพื้นที่ตำบลแม่เปา อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย จนไม่สามารถอยู่อาศัยได้ นำส่งโรงพยาบาล พร้อมคุณตาและลูกชาย โดยเบื้องต้นพบว่าคุณยายมีอาการบาดเจ็บที่นิ้วมือ และได้พาคุณยาย คุณตา และลูกชายย้ายจากโรงพยาบาลเพื่อนำส่งเข้าพักอาศัยกับครอบครัวที่บ้านใหม่ของลูกชายในพื้นที่ตำบลแม่เปาเช่นเดียวกัน แต่ตัวบ้านนั้นไม่ได้ถูกน้ำท่วมเสียหาย ซึ่งการช่วยเหลือครั้งนี้สะท้อนความพร้อมของ พม. ในการให้ความช่วยเหลือดูแลพี่น้องกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติอย่างใกล้ชิด รวดเร็ว ทันสถานการณ์ เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นให้ได้มากที่สุด
จากข้อมูลกลุ่มเปราะบาง จากแผนที่ความเสี่ยงภัย (Risk Map) ของกระทรวง พม. ที่สนับสนุนข้อมูลให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย รวมถึงการประสานงานกับ ปภ.เชียงราย ให้รับรู้ว่าในเวลาวิกฤตเราต้องเข้าไปช่วยกลุ่มเปราะบางก่อนเป็นอันดับแรก โดย พม. ให้ข้อมูลว่ากลุ่มเปราะบางอยู่ที่ไหนและต้องช่วยเหลืออย่างไร ทั้งนี้ เป็นไปอย่างถูกต้องแม่นยำเพื่อความปลอดภัยในชีวิตของพี่น้องกลุ่มเปราะบาง อย่างไรก็ตามในวันที่ 28 มิ.ย. ทีม พม. หนึ่งเดียวจังหวัดเชียงราย ยังได้ลงพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งเข้าช่วยเหลือพี่น้องกลุ่มเปราะบางที่ต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมในพื้นที่ตำบลแม่เปา และหากมีกลุ่มเปราะบางที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนจากสถานการณ์อุทกภัยต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน ขอให้โทรมาที่ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) ผ่าน สายด่วน พม. โทร.1300 ตลอด 24 ชั่วโมง