เจ้าหน้าที่กองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมและศูนย์วิจัยและเตือนภัยมลพิษโรงงานภาคตะวันออก ในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงาน 2 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี หลังได้รับเบาะแสเกี่ยวกับโรงงานเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมาย สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนและสิ่งแวดล้อม
การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมร่วมกับชุดปฏิบัติการตรวจสุดซอย กระทรวงอุตสาหกรรม นำโดยนางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมด้วยนางสาวศิริลักษณ์ วิศวรุ่งโรจน์ อุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี และตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) เข้าตรวจสอบ โรงงานปูนซีเมนต์แห่งหนึ่งในตำบลหนองกะขะ อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี
สืบเนื่องจากประชาชนในพื้นที่ร้องเรียนว่า ถูกโรงงานข่มขู่ฟ้องร้องที่คัดค้านประกอบกิจการ ซึ่งจากการตรวจสอบพบการติดตั้งแพลนท์ปูนและดำเนินกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต มีร่องรอยการประกอบกิจการอย่างชัดเจน รวมถึงพบหลักฐานใบขนส่งสินค้าจำหน่ายปูนผสมเสร็จให้โครงการก่อสร้างของนักลงทุนชาวจีน ซึ่งเจ้าของโรงงานชาวจีนที่ถือบัตรประชาชนไทยอ้างว่า ได้ยื่นขอใบอนุญาตประกอบกิจการต่อสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี (สอจ.ชลบุรี) เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568 แต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติจากเจ้าหน้าที่
พฤติกรรมดังกล่าว เข้าข่ายลักลอบประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต สอจ.ชลบุรี จึงออกคำสั่งให้โรงงานหยุดประกอบกิจการทันที พร้อมดำเนินการผูกมัดและประทับตราเครื่องจักรและให้ผู้ดูแลโรงงานลงนามรับทราบคำสั่งอย่างเป็นทางการ หากฝ่าฝืนจะยกระดับคำสั่งและดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด
และในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลของ บริษัท ฟู่ฉี รีไซคลิ่ง เทคโนโลยี จำกัด ในตำบลธาตุทอง อำเภอบ่อทอง จังหวัดชลบุรี พบโรงงานไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในใบอนุญาตประกอบกิจการ อาทิ พบการวางกองวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ภายนอกอาคารโรงงาน ไม่มีห้องสำหรับบดย่อยสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว ไม่มีระบบขจัดฝุ่นละอองแบบถุงกรอง (Bag Filter)
โดยพบระบบบำบัดมลพิษอากาศแบบเปียก (Wet Scrubber) แต่ไม่สามารถใช้งานได้ นอกจากนี้ ยังตรวจพบการนำเศษสายไฟ เศษโลหะ มาเป็นวัตถุดิบในการประกอบกิจการโรงงานโดยไม่สามารถชี้แจงแหล่งที่มาของวัตถุดิบได้อย่างชัดเจน จากการตรวจสอบระบบอนุญาตกากอุตสาหกรรม (กอ.1) และระบบการแจ้งรายละเอียดการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว (กอ.2) ไม่พบการแจ้งรับวัตถุดิบเข้ามาจัดการ ซึ่งอาจเป็นการกระทำที่ผิดเงื่อนไขการอนุญาตให้ประกอบกิจการโรงงานที่กำหนดให้ใช้วัตถุดิบภายในประเทศและจากโรงงานเท่านั้น
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยและเตือนภัยมลพิษโรงงานภาคตะวันออก จึงเก็บตัวอย่างของเหลวบริเวณบ่อดินด้านท้ายโรงงานและภายในบ่อซีเมนต์ที่รองรับจากเครื่องร่อนแยกโดยใช้น้ำ รวมจำนวน 2 ตัวอย่าง เพื่อนำไปตรวจวิเคราะห์ ขณะที่ สอจ.ชลบุรี ดำเนินการยึดอายัดวัสดุ สิ่งของและสิ่งอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อรวบรวมใช้เป็นพยานหลักฐานในการตรวจพิสูจน์ข้อเท็จจริงและดำเนินคดีตามความผิดต่อไป
