นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรสามารถจับกุมชายสัญชาติแคนาดา ขณะพยายามลักลอบนำยาเสพติดออกนอกราชอาณาจักร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยตรวจพบเฮโรอีนซุกซ่อนในกระเป๋าเดินทางและกระเป๋าถือสตรี รวมหนักกว่า 3,200 กรัม มูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท ปลายทางคือ สนามบินนานาชาติไต้หวันเถาหยวน สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน)
การจับกุมเกิดขึ้นจากการวิเคราะห์ความเสี่ยงรายชื่อผู้โดยสารของสายการบินไชน่าแอร์ไลน์ เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวผู้ต้องสงสัยเพื่อตรวจสอบสัมภาระ ณ จุดส่งกระเป๋าเกินขนาด พบกระเป๋าเดินทางล้อลากสีดำมีลักษณะหนาผิดปกติ ภายในกระเป๋าบรรจุเสื้อผ้า รองเท้าและกระเป๋าถือสตรี เมื่อเปิดตรวจพบห่อผ้าสีเทาพันเทปดำซุกซ่อนในผนังกระเป๋า ภายในบรรจุผงสีขาว
เจ้าหน้าที่ได้ใช้สารเคมี ONCB051 MARQUIS REAGENT ทดสอบ พบว่าสารดังกล่าวทำปฏิกิริยาเปลี่ยนจากใสเป็นสีม่วง ยืนยันว่าเป็น ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน)
นอกจากนี้ ยังพบกระเป๋าถือสตรีอีก 2 ใบ มีร่องรอยเย็บใหม่ผิดปกติ เมื่อตรวจสอบภายในพบห่อวัสดุลักษณะเดียวกันซุกซ่อนอยู่ เมื่อนำผงสีขาวภายในมาทดสอบซ้ำ พบเป็นเฮโรอีนเช่นกัน รวมของกลางเฮโรอีน (รวมสิ่งห่อหุ้ม) น้ำหนักรวม 3,235 กรัม มูลค่าประมาณ 1,100,000 บาท
การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิด ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด และ พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ได้แก่ มาตรา 242 และ 252 ประกอบมาตรา 166 และ 167 ฐานพยายามลักลอบนำยาเสพติดออกนอกราชอาณาจักรและมียาเสพติดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า สำหรับผลการปราบปรามยาเสพติดในปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม 2567 – 30 มิถุนายน 2568) กรมศุลกากรสามารถตรวจยึดเฮโรอีนได้รวม 28 คดี น้ำหนักรวมกว่า 97.87 กิโลกรัม ยืนยันเดินหน้าปราบปรามอย่างต่อเนื่อง เพื่อปกป้องสังคมและความมั่นคงของประเทศ
