นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน บอกถึงการประชุมวิปพรรคร่วมฝ่ายค้านว่า ประเด็นที่มีการพูดคุยกันในวิปฝ่ายค้าน คงเป็นเรื่องของวาระการประชุมสภา ซึ่งจะเปิดสมัยประชุมในวันพรุ่งนี้ (3 ก.ค. ) ซึ่งเป็นวันพฤหัสบดี โดยเป็นเรื่องของกระทู้และญัตติ ที่จะได้เห็นกระทู้ถามสดจากนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ที่ถามถึงประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นในช่วงปิดสมัยประชุมและต้องการคำตอบจากรัฐบาล
ส่วนการประชุมสภาสัปดาห์หน้า ที่จะประชุมเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งสังคมกำลังจับตามอง ภายใต้ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ( 1 ก.ค. ) ทางคณะรัฐมนตรีไม่ได้มีมติถอนร่างดังกล่าว ออกจากระเบียบวาระการประชุม มองว่าหากรัฐบาลยังจะเดินหน้าโดยไม่ถอน ก็จะทำให้ในวันพุธหน้า ร่างกฎหมายสถานบันเทิงจะเป็นร่างฉบับแรกที่สภาจะพิจารณา
ทั้งนี้ การที่เป็นคิวแรกไม่ใช่เรื่องปกติธรรมดา เพราะรัฐบาลชุดนี้ ลงมติเลื่อนกฎหมายฉบับนี้เมื่อเดือนเมษายน ส่งผลให้กฎหมายฉบับนี้ แซงคิวกฎหมายฉบับอื่นมาอยู่ฉบับแรก จุดยืนของพรรคประชาชนก็ยังเหมือนเดิมคือ ไม่เห็นด้วยกับนโยบายและร่างกฎหมายในเรื่องนี้ ทั้งเรื่องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่ยังไม่ชัดเจน ตัวเลขทางเศรษฐกิจก็ไม่สอดคล้องกับกฎหมายไม่มีรายงานการศึกษาที่รอบคอบ ยิ่งไปกว่านั้น ยังเห็นผลกระทบทางสังคม เช่น การติดการพนัน ความเสี่ยงเรื่องการฟอกเงินที่ไม่ได้มีมาตรการป้องกันที่รัดกุมในตัวกฎหมายและในการดำเนินนโยบายของรัฐบาลที่ไม่ตรงไปตรงมา
ย้ำว่า หากรัฐบาลรับฟังข้อทักท้วงของพรรคและประชาชนบางส่วนอย่างจริงใจ ก็ควรจะถอนร่างนี้ออก พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า หากไม่ถอน จนสภาเดินหน้าพิจารณา ในมุมหนึ่งก็เปรียบเสมือนบททดสอบความไว้วางใจของสภาและประชาชนต่อรัฐบาลเช่นกัน เพราะร่างกฎหมายนี้เป็นของ ครม.เป็นนโยบายเรือธงของรัฐบาล ที่ดูเหมือนรัฐบาลจะเร่งมากกว่านโยบายอื่น ดังนั้นจึงเป็นการทดสอบมิติที่รัฐบาลคุมเสียง สส. ที่ปริ่มน้ำอยู่แล้วในซีกรัฐบาลได้หรือไม่ รวมไปถึงการทดสอบความเห็นของประชาชนต่อแนวทางและทิศทางนโยบายของรัฐบาลด้วย
ส่วนหากยังดึงดันต่อกฎหมายฉบับนี้ จะส่งผลเสียแน่นอนใช่หรือไม่นั้น นายพริษฐ์ มองว่า ในเชิงความรับผิดรับชอบทางการเมือง เมื่อเป็นร่างกฎหมายของ ครม. โดยธรรมเนียมหากร่างกฎหมายไม่ผ่าน หรือถูกคว่ำในที่ประชุมสภา ก็สะท้อนว่ารัฐบาลไม่สามารถคุมเสียงของซีกรัฐบาลได้แล้ว แม้จะเป็นนโยบายที่รัฐบาลอ้างว่าเป็นเรือธงของตัวเอง คาดหวังว่าจะเห็นความรับผิดรับชอบทางการเมืองของรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวถามว่า ต้องจับตาดูว่าตกลง ครม.จะเดินหน้าต่อใช่หรือไม่ เรื่องนี้นายพริษฐ์ บอกว่า ได้จับตาดูว่าเมื่อวานว่า ครม.จะมีมติให้ถอนหรือไม่ แต่ก็ไม่มีและหากประชุม ครม. สัปดาห์หน้า ยังไม่มีอีกและเข้าสู่การพิจารณาของสภา ก็ต้องหารือกันในพรรคร่วมฝ่ายค้านว่า มีมุมมองต่อกฎหมายนี้อย่างไร จากการให้สัมภาษณ์ในที่สาธารณะของพรรคร่วมฝ่ายค้านแต่ละพรรค คิดว่าทุกฝ่ายน่าจะเห็นตรงกันว่าไม่เห็นด้วย
ขณะที่การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 จะต้องมีการพูดคุยกันอีกครั้งใช่หรือไม่ นายพริษฐ์ บอกว่า เป้าหมายของพรรคประชาชนที่มองว่าสิ่งที่เป็นประโยชน์กับประชาชนมากที่สุดคือ รัฐบาลที่มีเสถียรภาพ รัฐบาลที่มีความชอบธรรมทางการเมืองได้รับความไว้วางใจจากประชาชน และรัฐบาลที่อยู่ในสภาวะที่จัดทีมบริหารแก้ไขปัญหาให้กับประเทศได้ ไม่ใช่การจัดทีมบริหารตามโควตาการต่อรองและหากจะมีรัฐบาลที่มีคุณสมบัติแบบนี้ได้ ทางออกเดียวคือ เลือกตั้งใหม่ เพื่อให้ได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
นายพริษฐ์ มองว่า การจะไปถึงการเลือกตั้งได้ ก็ต้องให้รักษาการนายกรัฐมนตรีฟังเสียงพรรคประชาชนและตัดสินใจยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชน หรือหากรักษาการนายกรัฐมนตรี ยังไม่ตัดสินใจยุบสภา พรรคประชาชนก็จะหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อใช้กลไกสภานำไปสู่การเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว เช่น การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ ( 3 ก.ค. ) หัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้านจะหารือกันว่า จะใช้กลไกดังกล่าวหรือไม่ แต่เมื่อมีคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญออกมา ก็อาจจะเกิดความซับซ้อนเพราะหากยื่นตามมาตรา 151 ทางประธานสภาจะบรรจุวาระหรือไม่ เพราะสุดท้ายต้องขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของประธานสภา
ผู้สื่อข่าวจึงถามว่าพรรคประชาชน เรียกร้องยุบสภา เพียงอย่างเดียว แต่เกมการเมืองหลังจากนี้ อาจจะพลิกเกมเปลี่ยนขั้วจับกับพรรคฝ่ายค้านตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ นายพริษฐ์ ยืนยันว่า พรรคประชาชนจะไม่ร่วมรัฐบาลกับใครในสภาชุดนี้ และคิดว่ารัฐบาลที่จะสามารถแก้ไขปัญหาของประเทศได้ ท่ามกลางสถานการณ์นี้จะต้องเป็นรัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งและยืนยันว่าไม่มีสถานการณ์ไหนที่พรรคประชาชนจะร่วมรัฐบาล
ส่วนที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรี แต่ยังมีตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมอยู่ จะมีความชอบธรรมในการทำงานหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ในเชิงกฎหมายมีการถกเถียงกันอยู่และต้องรอความชัดเจนอีกครั้ง หากทางกฎหมายบอกว่า นางสาวแพทองธาร สามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมได้ ก็มีความสนใจว่า เวลาตั้งกระทู้ถามเกี่ยวกับเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ ที่ผ่านมา 2 ปี ไม่เห็นผลงานเป็นรูปธรรม แสดงว่า นางสาวแพทองธาร จะเข้ามาตอบกระทู้สดในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมใช่หรือไม่ เพราะไม่สามารถมอบหมายใครได้แล้ว เนื่องจากไม่มีรัฐมนตรีช่วย ย้ำว่า พรรคประชาชนจะทำงานเต็มที่ในการตรวจสอบ ฝ่ายบริหารทุกคนทุกกระทรวง ดังนั้นต้องรอความชัดเจนว่านางสาวแพทองธาร จะสามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมได้หรือไม่ หากทำได้ก็จะเดินหน้าตรวจสอบ มองว่าเรื่องซอฟต์พาวเวอร์เป็นสิ่งที่นางสาวแพทองธารพูดเอง และมีคนบอกว่า ค้านไม่จริง ออมมือเกรงใจใครบ้าง จึงยืนยันอีกรอบหนึ่งว่า พรรคประชาชนทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ตรวจสอบฝ่ายรัฐบาลทุกคน ทุกกระทรวง ทุกพรรค