นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋นบุรีรัมย์ ยื่นหนังสือต่อคณะอนุสืบสวนและสอบสวน ชุดที่ 26 สำนักงาน กกต. ขอให้เร่งรีบสรุปสำนวนในคดีฮั้วเลือก สว.เข้าสู่ที่ประชุม กกต.ให้พิจารณาเพื่อส่งศาลฎีกา แผนกคดีเลือกตั้ง โดยนายภัทรพงศ์ กล่าวว่า ทราบว่าวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านเป็นวันสุดท้าย ที่คณะอนุสอบสวนฯเรียกผู้เกี่ยวข้องมารับทราบข้อกล่าวหาและชี้แจง โดยให้เวลาถึง 20:00 น.แต่ก็ทราบว่าผู้ที่ได้รับหนังสือเรียกไม่มาชี้แจง เมื่อไม่มากระบวนการก็จะเหลือแค่สรุปสำนวน ส่ง กกต. จึงเชื่อว่า กกต.ก็จะใช้เวลาไม่นานในการพิจารณา
นายภัทรพงศ์ ยังข้องใจกรณีศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของ สว.ในการถอดถอนนายกรัฐมนตรี และมีการพิจารณาสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่โดยเร็ว แต่ทำไมกรณีที่มีการยื่นร้องขอให้ศาลสั่งให้ สว.ที่ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการฮั้วเลือก สว.หยุดปฏิบัติหน้าที่ จนถึงขณะนี้ศาลก็ยังไม่มีคำวินิจฉัย และยังมีการยกคำร้องของนายณฐพร โตประยูร นักเคลื่อนไหว ที่ร้องในลักษณะเดียวกัน ซึ่งประชาชนก็ตั้งคำถามว่าเมื่อไหร่คดีฮั้ว สว.จะเสร็จสิ้น ตนเห็นถึงพฤติการณ์ในลักษณะรับลูกระหว่างศาลรัฐธรรมนูญกับ สว. ตีไปกลับเกี่ยวกับเรื่องฮั้ว สว.อย่างกับเตะตะกร้อ คนหนึ่งเสริมคนหนึ่งฟาด ซึ่งวันนี้เรื่องเกี่ยวกับฮั้วเลือก สว.มีการยื่นคำร้องไปยังหลายหน่วยงาน แต่ถูกตีตกหมด เหลือเพียง กกต.ซึ่งจะเป็นผู้ที่นำเรื่องไปสู่ศาลแผนกคดีเลือกตั้งเท่านั้น ซึ่งตนเชื่อว่าวันนี้พยานหลักฐานต่างๆ คณะอนุสอบสวนฯดำเนินการหมดแล้วจึงอยากให้รีบส่งไปยัง กกต.
ส่วนมีกระแสข่าวว่านายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.จะลาออกนั้น ตนอยากให้ลาออกจริง เพื่อให้กระบวนการได้เดินต่อไป และวันนี้อยากทวงความคืบหน้าคดีเกี่ยวกับคุณสมบัติของนางสาวเกศกมล เปลี่ยนสมัย ในคดีใช้วุฒิการศึกษาหลอกลวงให้ได้รับเลือกเป็น สว. เพราะ กกต.มีคำวินิจฉัยตั้งแต่สิ้นเดือนเมษายน แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการยื่นคำร้องไปยังศาลฎีกา ซึ่งความล่าช้าจะกลายเป็นบรรทัดฐานว่าในคดีฮั้วเลือก สว. กกต.แม้มีมติแล้วก็จะใช้เวลา 2-3 เดือนในการยื่นคำร้องไปยังศาลฎีกา ทำให้กระบวนการมีความล่าช้า
ทนายอั๋น ยังกล่าวอีกว่าไม่ว่าสถานการณ์การเมืองจะเป็นอย่างไร จะมีการใช้อำนาจนอกรัฐธรรมนูญ อำนาจนอกรัฐสภามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบการบริหารประเทศ ตนไม่เห็นด้วย แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คดีฮั้ว สว.ต้องไปต่อ DSI หรือ กกต.ต้องมีความกล้าหาญ และไม่เห็นด้วยที่หากจะมีการยุบสภาในขณะนี้ ถ้ายังไม่มีการนำเขากระโดง ขึ้นมาหรือจัดการคดีฮั้วเลือก สว.ให้เสร็จสิ้นก่อน เพราะวันนี้หลังศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หยุดปฏิบัติหน้าที่ สื่อมวลชนก็นำเสนอรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนต่อไปซึ่งหนึ่งในนั้นคือ นายอนุทิน ชาญวีรกูลหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ซึ่งตนเจ็บปวดใจมาก เพราะนายอนุทินคือคนที่อยู่ในรายชื่อคนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการฮั้วเลือก สว.และถูกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาและยังไม่มั่นใจว่าคดีอั้งยี่ซ่องโจรที่อยู่ในการดำเนินการของ DSI จะมีชื่อนายอนุทินหรือไม่ ซึ่งคนแบบนี้สมควรจะมาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหรือ เมื่อถามว่าการเรียกร้องให้นายอิทธิพรลาออกจะยิ่งไม่ทำให้กระบวนการสอบฮั้ว สว. ล่าช้าหรือไม่ นายภัทรพงษ์กล่าวว่าก็ให้คนอื่นมาทำหน้าที่แทน ในเมื่อไม่มีใจ จะให้มาทำงานต่อไปทำไม เหตุใดต้องมาลาออกตอนนี้ คนหมดใจรั้งให้ตายก็ไปอยู่ดี ดังนั้นดีที่สุดให้ลาออกไปเลย กระบวนการก็จะได้เดินหน้าต่อไป