นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชนจากภัยกลโกงของกลุ่มมิจฉาชีพที่มักแฝงตัวมาหลอกลวงในช่วงวันสำคัญทางศาสนา โดยเฉพาะในยุคที่การทำบุญผ่านช่องทางออนไลน์ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
กลุ่มมิจฉาชีพมักใช้กลวิธีแอบอ้างทำบุญเพื่อขอรับเงินโอน เช่น การไถ่ชีวิตโคกระบือ ช่วยสัตว์บาดเจ็บ เช่าวัตถุมงคล สะเดาะเคราะห์ หรือหลอกให้ทำใบอนุโมทนาบัตรออนไลน์โดยอ้างว่าสามารถลดหย่อนภาษีได้ ทั้งหมดนี้เป็นช่องโหว่ที่ประชาชนควรระวังอย่างยิ่ง
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดการณ์ว่า ในช่วงวันหยุดยาวระหว่างวันที่ 10–13 กรกฎาคม ซึ่งตรงกับวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา จะมีเงินสะพัดจากการทำบุญและท่องเที่ยวรวมราว 6,000–8,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วประมาณ 2–3% ขณะที่ผลสำรวจระบุว่ากว่า 80% ของประชาชนยังคงให้ความสำคัญกับการทำบุญในเทศกาลทางศาสนา
อ้างอิงข้อมูลจากศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาสังคมและธุรกิจ (SAB) ที่พบว่าในปี 2566 มีผู้ถูกหลอกลวงจากการขอรับบริจาคหรือระดมเงินทำบุญออนไลน์มากถึง 2.65 ล้านคน มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 2,300 ล้านบาท โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z และ Gen Y ซึ่งตกเป็นเหยื่อมากที่สุดในสัดส่วน 13% และ 10% ตามลำดับ
รัฐบาลจึงขอเน้นย้ำให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังก่อนการโอนเงินหรือทำบุญออนไลน์ โดยไม่ควรคลิกลิงก์หรือโอนเงินผ่านช่องทางที่ไม่ระบุแหล่งที่ชัดเจน หากไม่แน่ใจควรตรวจสอบข้อมูลบัญชี เว็บไซต์ หรือหมายเลขโทรศัพท์ได้ที่ www.checkgon.go.th ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสามารถแจ้งเบาะแสมิจฉาชีพเพิ่มเติมได้ที่ https://www.thaipoliceonline.go.th