กระทรวงการท่องเที่ยว เผย 6 เดือนแรกปี 68 ยอดจดทะเบียนธุรกิจทัวร์พุ่งกว่า 14% เตือนไม่ใช้บริการทริปเถื่อน

นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย กรมการท่องเที่ยว รายงานสถิติการยื่นจดทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวช่วงครึ่งปีแรก (มกราคม – มิถุนายน 2568) มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 3,436 ราย เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมี 3,013 ราย คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.04 สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวไทยอย่างชัดเจน โดยผู้ประกอบการส่วนใหญ่กระจายอยู่ทั้งในพื้นที่เมืองหลักและเมืองน่าเที่ยวทั่วประเทศ

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางสัญญาณบวกของภาคธุรกิจทัวร์ กลับพบว่ามีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลบางส่วนจัดกิจกรรมท่องเที่ยวในลักษณะเชิงพาณิชย์ผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น การรวมกลุ่มเดินทาง รับจัดแพ็กเกจท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหารให้บุคคลทั่วไปหรือผู้ที่ไม่รู้จักกันมาก่อน โดยมีจุดประสงค์เพื่อแสวงหากำไร ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเข้าข่าย “การประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับใบอนุญาตตามพระราชบัญญัติธุรกิจ นำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 มาตรา 15 ซึ่งมีโทษปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ ดังนี้ 

  • ผู้ใดประกอบธุรกิจนำเที่ยว โดยไม่มีใบอนุญาตฯ “ทัวร์เถื่อน” มีโทษปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือจำคุกไม่เกินสองปี หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยในการโฆษณาขายทัวร์ไม่ว่าช่องทางใด ต้องแสดงเลขที่ใบอนุญาตฯ ชื่อ ที่ตั้ง ให้นักท่องเที่ยวทราบ และต้องใช้ไกด์ที่มีใบอนุญาตฯ ถูกต้องเท่านั้น
  • ผู้ใดปฏิบัติหน้าที่มัคคุเทศก์ โดยไม่มีใบอนุญาตฯ “ไกด์เถื่อน” มีโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือทั้งจำทั้งปรับ

ขั้นตอนการตรวจสอบสถานะบริษัททัวร์ หรือไกด์ ก่อนใช้บริการ

– เข้าเว็บไซต์ www.dot.go.th

– กรอกเลขที่ใบอนุญาต หรือชื่อทัวร์/ไกด์

– กดที่ค้นหา แล้วระบบจะแสดงข้อมูลและสถานะ

ดังนั้น จึงขอย้ำเตือนผู้ที่ดำเนินกิจกรรมท่องเที่ยวในลักษณะดังกล่าวให้เร่งดำเนินการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวอย่างถูกต้อง โดยสามารถยื่นคำขอได้ที่สำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ทั้ง 8 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ 1) สาขาภาคกลาง (กรุงเทพมหานคร) 2) สาขาภาคเหนือ (เชียงใหม่) 3) สาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 1 (นครราชสีมา) 4) สาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 2 (หนองคาย) 5) สาขาภาคตะวันออก (ชลบุรี) 6) สาขาภาคใต้ เขต 1 (สุราษฎร์ธานี) 7) สาขาภาคใต้ เขต 2 (ภูเก็ต) และ 8) สาขาภาคใต้ เขต 3 (สงขลา) สามารถตรวจสอบรายละเอียดพื้นที่รับผิดชอบ ที่ตั้ง และช่องทางติดต่อของแต่ละสำนักงานฯ ได้ที่ www.dot.go.th/pages/77 และขอความร่วมมือจากประชาชนให้ใช้บริการกับผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตถูกต้องเท่านั้น เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย และความมั่นใจด้านความปลอดภัยตลอดการเดินทาง โดยเฉพาะในกรณีเกิดอุบัติเหตุหรือความเสียหายขึ้น ซึ่งจะมีประกันภัยคุ้มครองความเสียหายอย่างเหมาะสม

รัฐบาลเน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนร่วมกันส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย โปร่งใส และเป็นธรรม เพื่อให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยเดินหน้าอย่างยั่งยืน และสร้างประโยชน์ต่อเศรษฐกิจในวงกว้างอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ หากพบเห็นพฤติกรรมต้องสงสัย หรือเบาะแสเกี่ยวกับการจัดทริปที่อาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ กรมการท่องเที่ยว โทร. 0-2401-1111 หรือทางอีเมล: tgtcenter@tourism.go.th

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ปรับปรุงระบบการลงทะเบียนสำหรับประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” เรียบร้อยแล้ว สามารถลงทะเบียนผ่านทาง Application Amazing Thailand หรือ www.เที่ยวไทยคนละครึ่ง.com ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประชาชนสามารถลงทะเบียนได้โดยไม่จำกัดจำนวนคน โดยแต่ละท่านจะได้รับสิทธิ์สูงสุดไม่เกินท่านละ 5 สิทธิ์ แบ่งเป็นที่พักในเมืองหลัก 3 สิทธิ์ ที่พักในเมืองน่าเที่ยว 2 สิทธิ์ โดยสามารถใช้สิทธิ์วันละ 1 ห้อง/คืน เท่านั้น

สำหรับการรับสิทธิ์จะสมบูรณ์ต่อเมื่อชำระค่าที่พักกับโรงแรมโดยตรง และได้รับการยืนยันจากโรงแรมเรียบร้อยแล้ว มีจำนวนสิทธิ์ทั้งสิ้น 500,000 สิทธิ์ และเป็นระบบ First Come First Served เมื่อชำระเงิน

เงื่อนไขการลงทะเบียนสำหรับประชาชน

  • มีบัตรประจำตัวประชาชนและเป็นบุคคลสัญชาติไทย
  • อายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน และลงทะเบียนผ่าน Thai ID Application

     เพื่อยืนยันตัวตน

* ประชาชนจะได้รับสิทธิ์เมื่อลงทะเบียนสำเร็จ และใช้จ่ายในโรงแรม ร้านอาหาร หรือสถานที่ท่องเที่ยวได้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ยกเว้นจังหวัดตามทะเบียนบ้านของผู้ใช้สิทธิ์

เงื่อนไขการใช้สิทธิ์

  • จำนวน 500,000 สิทธิ์ทั่วประเทศ แบ่งเป็น เมืองหลัก 22 จังหวัด จำนวน 300,000 สิทธิ์ และ เมืองน่าเที่ยว 55 จังหวัด จำนวน 200,000 สิทธิ์
  • เริ่มใช้สิทธิ์เดินทางได้ตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม – 31 ตุลาคม 2568
  • 1 คนใช้ได้สูงสุด 5 สิทธิ์ (เมืองหลัก 3 สิทธิ์ / เมืองน่าเที่ยว 2 สิทธิ์) วงเงินค่าที่พัก ไม่เกิน 3,000 บาท/คืน/ห้อง
  • สนับสนุนค่าที่พัก สูงสุด 50% ไม่เกิน 3,000 บาท/คืน/ห้อง (ใช้ได้ 5 สิทธิ์ หรือ 5 คืน/คน)

     เมืองหลัก: วันธรรมดา (จันทร์–ศุกร์) : รัฐช่วยจ่าย 50% (ไม่เกิน 3,000 บาท/คืน)

                  วันหยุด (เสาร์–อาทิตย์/นักขัตฤกษ์) : รัฐช่วยจ่าย 40%

     เมืองน่าเที่ยว: รัฐช่วยจ่าย 50% ทุกวัน ตลอดระยะเวลาโครงการ

  • คูปองส่วนลด สำหรับร้านอาหาร และบริการทางการท่องเที่ยวอื่น ๆ สูงสุดไม่เกิน 500 บาท/สิทธิ์
  • ต้องทำการจองและชำระเงินค่าที่พัก ภายใน 23.00 น. ของวันที่ทำการจอง (หากไม่ชำระ สิทธิ์จะคืนสู่ระบบ) หรือชำระค่าห้องพักอย่างน้อย 3 วันล่วงหน้า ก่อนวันเดินทางจริง วันสุดท้ายของการเช็กเอาท์ ของโครงการคือภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2568

สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทุกวัน เวลา 08.00-20.00 น. ที่ Call Center โทร. 02-4830963 แอปพลิเคชัน

Line Official Account: @ThaiTravelCopay และ www.เที่ยวไทยคนละครึ่ง.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง