พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศปอส.ตร.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบบุคคลที่ทางการกัมพูชาส่งกลับประเทศไทยผ่านทางท่าอากาศยาน เป็นคนไทยจำนวน 6 คน อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซนเตอร์ ได้แก่ นายภูวนัยฯ นางสาวสุวิมลฯ ส่งตัวมายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ส่วนนางสาวปรียาฯนางสาววัลลภาฯ นายจักรกฤษณ์ฯ และนายพรชัยฯ ส่งตัวมายังท่าอากาศยานดอนเมือง
ได้มอบหมายให้สถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สถานีตำรวจนครบาลลุมพินี สถานีตำรวจนครบาลดอนเมือง สถานีตำรวจนครบาลหัวหมาก กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ควบคุมตัวทั้ง 6 คน สอบปากคำ และตรวจสอบข้อเท็จจริง หากมีการกระทำความผิด จะเข้าสู่การดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายและขยายผลไปยังเครือข่ายที่เกี่ยวข้องต่อไป
นอกจากนี้ พล.ต.อ.ธัชชัย ยังเตือนว่า “อย่าเป็นคนไทยขายชาติ” ที่ไปร่วมขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติแก๊งคอลเซนเตอร์ เพราะการดำเนินคดีคนไทยที่ไปเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซนเตอร์ มีความเด็ดขาดและได้รับโทษสูง เช่น กรณีแก๊งธุระจัดหาฯ และบัญชีม้า คนไทย 6 ราย ศาลพิพากษาจำคุกสูงสุดถึง 119 ปี 234 เดือน ข้อหา “อั้งยี่ ซ่องโจร ฉ้อโกง ,ความผิดต่อพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ,ความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ,ความผิดต่อพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และความผิดต่อพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
โดยรายที่ 1 (บัญชีม้า) จำคุก 41 ปี 258 เดือน, รายที่ 2 (บัญชีม้า) จำคุก 41 ปี 243 เดือน, รายที่ 3 (บัญชีม้า) จำคุก 41 ปี 252 เดือน, รายที่ 4 (บัญชีม้า) จำคุก 41 ปี 249 เดือน, รายที่ 5 และ 6 (ธุระจัดหาฯ) จำคุกคนละ 119 ปี 234 เดือน (คงจำคุกคนละ 50 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา91(3)) พร้อมยึดทรัพย์สินรถยนต์ 4 คัน และของกลางอื่นๆ คืนทรัพย์ให้แก่ผู้เสียหาย 39 ราย รวมมูลค่าเกือบ 6 ล้านบาท