พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เห็นความสำคัญในการส่งเสริมอาชีพให้ชาวบ้าน ได้มอบให้นายธีรวิทย์ เธียรฆโรจน์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาเพื่อความมั่นคง ศอ.บต. นายอิบรอเหม เบ็ญนา นักจัดการงานทั่วไป ชำนาญการพิเศษ ศอ.บต. ลงพื้นที่บริเวณกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเลี้ยงผึ้งชันโรง บ้านเกาะแลหนัง ตำบลปากบาง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา มอบแม่พันธุ์ชันโรงขนเงิน จำนวน 3 ลัง พร้อมอุปกรณ์ส่งเสริมอาชีพให้กับกลุ่มผู้ฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดและกลุ่มดาหลากว่า 100 คน โดย หลังจากนี้พวกเขาจะกลับไปต่อยอดแม่พันธุ์ 1 ปี จะได้ 30-40 ลัง จะมีรายได้เพิ่มขึ้นครอบครัวละไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท กิจกรรมครั้งนี้ ทางศอ.บต. ได้ ดึง Solf Power จากผู้บำบัดยาเสพติดและกลุ่มเสี่ยง สู่รายได้ที่ยั่งยืน
นอกจากนี้ นายธีรวิทย์ เธียรฆโรจน์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาเพื่อความมั่นคง ศอ.บต. ยังได้ให้ความรู้เรื่องยาเสพติดและการขับเคลื่อนงานปราบปราม วาระพืชกระท่อมอย่างน่าสนใจด้วยว่า วันนี้รัฐบาล ศอ.บต.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหายาเสพติด ซึ่งปัจจุบันได้เปิดแผนปฏิบัติการขับเคลื่อน ออกเป็น 2 ส่วนคือ เรื่องของการแก้ไขปัญหายาเสพติด ในพื้นที่ 150 ชุมชน อีกส่วนที่ ศอ.บต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันทำในเรื่องของพืชกระท่อม ภายใน 120 วัน ถนนสายหลักทุกสาย ภายใน 120 วัน ต้องไม่มีการค้าขายพืชกระท่อม ซึ่งวันนี้เริ่มแล้ว ที่ปัตตานี ยะลา ถนนบางสายชุมชนลุกขึ้นมาเอง ไม่เอากระท่อม เพราะเขารู้แล้วว่าวันนี้เรามีศัตรูคนเดียวกันก็คือ ยาเสพติด
ทาง ศอ.บต.ยังให้ความสำคัญในเรื่องของการส่งเสริมอาชีพ ให้กับผู้ผ่านการบำบัดและกลุ่มเสี่ยง ทั้งในเรื่องของการ ก่อสร้าง ส่งเสริมการเกษตร ที่โรงพยาบาลธัญญารักษ์ปัตตานีและอีกส่วนหนึ่งที่เป็นการส่งเสริมในเรื่องของการเกษตรและเรื่องของผึ้งชันโรง กิจกรรมอย่างนี้จะเกิดขึ้นเรื่อยๆ ใน 120 วัน
ทางด้านนายสมศักดิ์ หนิหลง ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเลี้ยงผึ้งชันโรง บ้านเกาะแลหนัง ตำบลปากบาง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา กล่าวว่า วันนี้ ศอ.บต.ได้มาส่งเสริมอาชีพให้กับกลุ่มผู้บำบัดยาเสพติดและกลุ่มสมาชิกเมืองดาหลา 1 คนต่อ 1 ตำบล รวม 100 ตำบล 4 จังหวัดภาคใต้ เพื่อเพิ่มรายได้ให้พวกเราและผู้ที่มาฝึกที่นี้ เราจะถือว่าเขาเป็นเครือข่ายของเราๆ จะรับซื้อของเขาตลอดไป ในราคา กก.ละ 700 บาท เพราะตลาดต้องการจำนวนมากและที่ผลิตได้อยู่ก็ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศ ซึ่งตอนนี้สามารถผลิตได้แค่ 500 กก.ต่อเดือน แต่ที่ตลาดต้องการ ประมาณ 1 ตันต่อเดือน ถือว่า สามารถสร้างรายได้อีกจำนวนมาก