นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จากกรณีข่าวพระสงฆ์บางรูป ที่อาจสร้างความรู้สึกสั่นคลอนต่อความศรัทธาของประชาชน อย่างไรก็ตาม กรมสุขภาพจิตขอเน้นย้ำว่าศาสนา ไม่ว่าจะเป็นศาสนาใด ยังคงเป็นรากฐานสำคัญของจริยธรรมและคุณค่าทางจิตใจในสังคม มีบทบาทสำคัญในการกล่อมเกลาจิตใจมนุษย์ให้เข้มแข็งและมีความเมตตากรุณา สำหรับศาสนาพุทธ หลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า โดยเฉพาะเรื่องศีล สมาธิและปัญญา มุ่งให้ผู้คนพัฒนาตนเองด้วยสติ การมีจิตใจที่เป็นกลาง มีเมตตาต่อผู้อื่น ความผิดพลาดของพระสงฆ์บางรูปเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล จึงไม่ควรถูกนำมาเหมารวมจนกระทบต่อคุณค่าของหลักธรรมที่ยังคงเป็นแสงสว่างนำทางใจและแนวทางในการดำเนินชีวิตอย่างถูกต้องและมีความสุขอย่างยั่งยืน
ในสถานการณ์เช่นนี้ กรมสุขภาพจิต ขอเชิญชวนประชาชนใช้สติในการรับข้อมูลข่าวสารและแยกแยะอย่างมีวิจารณญาณ เพื่อรักษาศรัทธาในสิ่งดีงามที่ยังคงเป็นหลักยึดเหนี่ยวจิตใจ
ด้านนายแพทย์จุมภฏ พรมสีดา รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ความศรัทธาในศาสนาและหลักธรรมคำสอนถือเป็นพลังทางใจที่สำคัญในการส่งเสริมสุขภาพจิต มีงานวิจัยทั้งในและต่างประเทศยืนยันว่า การมีศรัทธาทางศาสนาช่วยลดระดับความเครียด ป้องกันภาวะซึมเศร้าและสนับสนุนกระบวนการฟื้นฟูอารมณ์อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะพุทธศาสนา หลักธรรมอย่างอริยสัจ 4 ซึ่งประกอบด้วย ความเข้าใจในทุกข์ เหตุแห่งทุกข์ การดับทุกข์และทางปฏิบัติสู่ความดับทุกข์ เป็นพื้นฐานสำคัญของการเยียวยาจิตใจจากความเจ็บปวดทางอารมณ์และความเครียด
นอกจากนี้ หลักธรรมดังกล่าวยังถูกนำไปประยุกต์ใช้ในกระบวนการบำบัดทางจิตวิทยาสมัยใหม่ เช่น การฝึกสติและการทำสมาธิ ซึ่งช่วยให้ผู้คนเรียนรู้การอยู่กับปัจจุบัน เข้าใจตนเองและปล่อยวางจากความยึดติด กรมสุขภาพจิตจึงขอเป็นกำลังใจแก่ประชาชนที่อาจรู้สึกผิดหวังหรือเครียดจากข่าวที่เกิดขึ้นและขอให้ยังคงยึดมั่นในคุณค่าของศาสนาในฐานะเครื่องนำทางชีวิต เพราะศาสนายังคงมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมพัฒนาจิตใจบุคคลและสุขภาวะของสังคมโดยรวม หากประชาชนมีความเครียด หรือรู้สึกไม่สบายใจ สามารถติดต่อขอคำปรึกษาที่ สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง