นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีการโฆษณาและจำหน่าย เครื่องขูดหินปูน Ultrasonic สำหรับใช้เองตามบ้าน ผ่านสื่อโซเชียล ซึ่งแม้จะดูสะดวกและประหยัด แต่ในความเป็นจริงแล้ว การขูดหินปูนต้องดำเนินการโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
เครื่องขูดหินปูน Ultrasonic ทำงานด้วยคลื่นความถี่สูงร่วมกับน้ำ เพื่อลดคราบหินปูนที่สะสมบริเวณผิวฟันและใต้ขอบเหงือก หากใช้โดยบุคคลทั่วไปโดยไม่มีความรู้หรืออุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน อาจก่อให้เกิด อันตรายต่อช่องปาก ดังนี้:
1. ทำลายเคลือบฟัน: การวางหัวขูดผิดมุมหรือใช้แรงกดมากเกินไป เสี่ยงทำให้เคลือบฟันสึก เกิดอาการเสียวฟัน และเพิ่มความเสี่ยงฟันผุ
2. บาดเจ็บเหงือก: การสอดหัวขูดเข้าใต้เหงือกอย่างไม่ถูกต้อง อาจทำให้เหงือกฉีกขาดและเกิดการอักเสบ
3. โรคปริทันต์ลุกลาม: เครื่องมือที่ใช้เองไม่สามารถเข้าถึงใต้เหงือกได้หมด ส่งผลให้หินปูนยังคงสะสมและทำลายกระดูกรองรับฟัน
4. เสี่ยงติดเชื้อ: เครื่องมือที่ไม่ได้ฆ่าเชื้อตามมาตรฐาน อาจเป็นแหล่งสะสมเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือเชื้อรา ซึ่งอาจนำไปสู่การติดเชื้อรุนแรงในช่องปาก
รัฐบาลแนะนำให้ประชาชนตรวจสุขภาพช่องปากและขูดหินปูนกับทันตแพทย์อย่างน้อยปีละ 1–2 ครั้ง เพื่อป้องกันโรคในช่องปาก พร้อมทั้งสามารถใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) เข้ารับบริการ ขูดหินปูนฟรีปีละ 3 ครั้ง ได้ที่คลินิกทันตกรรมที่เข้าร่วมโครงการ “30 บาทรักษาทุกที่และหน่วยบริการประจำตามสิทธิ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายและไม่ควรถูกเรียกเก็บเงินเพิ่มเติม
เพื่อความปลอดภัยและสุขภาพช่องปากที่ดี อย่าเสี่ยงใช้เครื่องมือที่ไม่ได้มาตรฐานด้วยตนเอง ควรพบทันตแพทย์เท่านั้น ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากได้ที่ Facebook: สถาบันทันตกรรม กรมการแพทย์ Line OA: @iodforfun