ป.ป.ส. ขยายผลปฏิบัติการตัดไฟแต่ต้นลม ครั้งที่ 2 เร่งกวาดล้างขบวนการยาเสพติดข้ามชาติ

พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) พร้อมด้วย นายปฤณ เมฆานันท ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. พ.อ.พิรุฬห์สิระ เอี่ยมมาลา ผู้บังคับหน่วยข่าวกรองทางทหาร สนับสนุนหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ น.อ.บรรพต นิธิณัฐอาภาศิริ รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ น.อ.วิสูตร งิ้วแหลม รองผู้บังคับทหารอากาศดอนเมือง และ พ.อ.วิชัย ก้องเดชตรีวุธ ผู้แทนหัวหน้าฝ่ายข่าวศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหา 5 คน เคตามีน 150 กิโลกรัม ไอซ์ 5 กิโลกรัม เหตุเกิดที่โกดังเก็บพักยาเสพติดในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ขยายผลตรวจค้นบ้านพักผู้ต้องหารวม 5 จุด ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ และ จ.พะเยา ตรวจยึดอายัดทรัพย์สิน อาทิ รถยนต์ 5 คัน รถจักรยานยนต์ 2 คัน สร้อยคอทองคำ เงินในบัญชีธนาคาร และเงินสด รวมมูลค่าประมาณ 3,350,000 บาท

พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ กล่าวว่า ที่มาของการจับกุมคดีนี้สืบเนื่องจาก สำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ดำเนินการสืบสวนเครือข่ายนักค้ายาเสพติดข้ามชาติ นายไอ ยี่ ซอ ชาวเมียนมา มีพฤติการณ์ในระดับผู้สั่งการ และจัดหายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านให้บุคคลในเครือข่ายลักลอบลำเลียงเข้าสู่พื้นที่ตอนใน โดยเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2567 สำนักงาน ป.ป.ส. จับกุมผู้ต้องหา 2 คน พร้อมเฮโรอีน 91.7 กิโลกรัม ซุกซ่อนในช่องลับรถยนต์ เหตุเกิดที่โกดังในพื้นที่ จ.นนทบุรี ยึดทรัพย์สินมูลค่า 5.5 ล้านบาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ขยายผลรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับ นายไอ ยี่ ซอ กับพวกรวม 6 คน ในฐานะผู้สั่งการและผู้ร่วมขบวนการ ต่อมาวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 เจ้าหน้าที่สืบสวนกลุ่มผู้ลำเลียงยาเสพติดเครือข่ายนายไอ ยี่ ซอ พบรถยนต์ต้องสงสัยเดินทางมุ่งหน้าเข้าพื้นที่ภาคกลาง จึงประสานด่านตรวจยาเสพติดห้วยไร่ จ.แพร่ ตรวจสอบและสามารถจับกุมผู้ต้องหา 3 คน พร้อมยาบ้า 600,000 เม็ด ซุกซ่อนในช่องลับรถยนต์ กระทั่งต่อมาในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับหน่วยงานภาคี เปิดปฏิบัติการตัดไฟแต่ต้นลม ครั้งที่ 2 เพื่อดำเนินการต่อ โดยออกหมายจับนายไอ ยี่ ซอ และบุคคลในเครือข่ายรวม 6 คน ปิดล้อมตรวจค้น 11 จุด 5 จังหวัด ประกอบด้วย จ.เชียงราย พิษณุโลก กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และชลบุรี สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 3 คน ตรวจยึดทรัพย์สินรวมมูลค่ากว่า 101 ล้านบาท จากนั้นวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 สามารถจับกุมบุคคลตามหมายจับได้เพิ่มเติมอีก 1 คน ในพื้นที่ จ.นครปฐม

หลังจากถูกออกหมายจับ นายไอ ยี่ ซอ ได้หลบหนีไปอาศัยอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน แต่ยังคงมีพฤติการณ์สั่งการบุคคลในเครือข่ายให้ดำเนินการเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังคงสืบสวนติดตามพฤติการณ์เครือข่ายดังกล่าวอย่างใกล้ชิด กระทั่งวันที่ 19 กรกฎาคม 2568 ชุดปฏิบัติการพื้นที่ภาคเหนือ พบพฤติการณ์ต้องสงสัยของผู้ลำเลียงยาเสพติด ที่ใช้รถยนต์กระบะทำช่องลับลำเลียงยาเสพติดข้ามจาก จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา มาเปลี่ยนป้ายทะเบียนไทย ในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย นายปฤณ เมฆานันท ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. จึงสั่งการให้ สำนักปราบปรามยาเสพติด บูรณาการความร่วมมือกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 5 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามรถยนต์ต้องสงสัยคันดังกล่าวจากพื้นที่ จ.เชียงราย กระทั่งวันที่ 20 กรกฎาคม 2568 พบว่ารถยนต์คันดังกล่าวถูกนำไปจอดทิ้งไว้ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ โดยผู้ขับขี่ได้มานั่งรออยู่บริเวณใกล้เคียง จากนั้นมีบุคคลมาขับรถคันดังกล่าวออกไปและนำเข้าไปจอดที่โกดังลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์ ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าตรวจค้นพร้อมจับกุม ผู้ต้องหารวม 5 คน เคตามีน 150 กิโลกรัม ไอซ์ 5 กิโลกรัม ซุกซ่อนในช่องลับรถยนต์ โดยขยายผลตรวจค้นรวม 5 จุด ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ 4 จุด และ  จ.พะเยา 1 จุด ตรวจยึดอายัดทรัพย์สิน อาทิ รถยนต์ 5 คัน รถจักรยานยนต์ 2 คัน สร้อยคอทองคำ เงินในบัญชีธนาคารและเงินสด รวมมูลค่าประมาณ 3,350,000 บาท

ผู้ต้องหาให้การว่า ในคดีนี้มีผู้ว่าจ้างให้ไปรับยาเสพติดในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อนำไปส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง จ.สมุทรปราการ และ จ.นนทบุรี ตั้งแต่ห้วงกลางปี 2568 ระยะเวลารวม 3 เดือน
เคยลำเลียงยาเสพติดมาแล้ว 4 ครั้ง ได้ค่าจ้างลำเลียงยาเสพติดครั้งละ 400,000 บาท ยาเสพติดที่เคยลำเลียงได้แก่ เคตามีน ไอซ์ ครั้งละประมาณ 50 – 100 กิโลกรัม และยาบ้าหลักแสนเม็ด

สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ให้ความสำคัญกับการปราบปรามยาเสพติดในทุกระดับการค้า ซึ่งสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นให้จับกุมกวาดล้างยาเสพติดตัดวงจรการค้ายาเสพติดรายสำคัญ รวมถึงกวาดล้างผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่แพร่ระบาดและเพิ่มประสิทธิภาพมาตรการ ยึดอายัดทรัพย์สินคดียาเสพติด โดยบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภาคี มุ่งเน้นการทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดให้ครบทั้งวงจร โดยภาพรวมสามารถจับกุมบุคคลในเครือข่าย นายไอ ยี่ ซอ รวม 14 คน ผู้ต้องหาในคดีหลัก 10 คน ออกหมายจับ 6 คน จับกุมตามหมายได้แล้ว 4 คน ของกลางยาเสพติด คือ เฮโรอีน 91.7 กิโลกรัม ยาบ้า 600,000 เม็ด เคตามีน 150 กิโลกรัม และไอซ์ 5 กิโลกรัม ตรวจยึดทรัพย์สินรวมมูลค่ากว่า 114 ล้านบาท

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. และหน่วยงานความมั่นคง สนธิกำลังกว่า 150 นาย ปฏิบัติการ “ตัดไฟแต่ต้นลม” ครั้งที่ 1 เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 13 จุด ในจังหวัดเชียงราย และเชียงใหม่ เพื่อสกัดกั้นและทลายเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ชายแดนภาคเหนือตอนบน

โดยปฏิบัติการครั้งนั้นสืบเนื่องจากคณะรัฐมนตรีได้กำหนดให้ 25 จังหวัด เป็นพื้นที่เร่งด่วนแก้ไขปัญหายาเสพติดให้เห็นผลเป็นรูปธรรมภายใน 90 วัน ภายใต้แผน “ปฏิบัติการเร่งรัดการดำเนินงานป้องกันปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ระยะเร่งด่วน 3 เดือน” โดยมุ่งเน้นลดบทบาทเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญที่เชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ลักลอบนำเข้ายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือตอนบน เป้าหมายสำคัญของปฏิบัติการครั้งนี้คือการทลายเครือข่ายค้ายาเสพติดของ พ.อ.จะลอโบ อดีตรองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมทางทหาร 171 กองกำลังว้าใต้ (UWSA) และนายวีระ หมื่นจะดา ซึ่งเชื่อมโยงกับคดียาเสพติดรายใหญ่เมื่อเดือนมีนาคม 2567 ที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางไอซ์ 309 กิโลกรัม และเฮโรอีน 230 กิโลกรัม ในพื้นที่ สภ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และจากการสืบสวนขยายผลพบว่า เครือข่ายของ พ.อ.จะลอโบ มีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่รัฐฉาน ประเทศเมียนมา เข้าสู่ประเทศไทยผ่านทางพื้นที่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ โดยมีการว่าจ้างกลุ่มผู้ลำเลียงชาวไทย และกลุ่มผู้ประสานงานจากพื้นที่เมืองต่วน ประเทศเมียนมา ผลปฏิบัติการสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในเครือข่ายของ พ.อ.จะลอโบ ได้ 4 ราย และยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด จำนวนทั้งสิ้น 66,102,000 บาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง