นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ผ่อนผันแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชาที่ทำงานในจังหวัดชายแดนของไทย ให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ต่ออีก 6 เดือนเป็นกรณีพิเศษ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นมาตรการควบคุมการผ่านแดนบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบและการปรับเวลาเปิด-ปิดจุดผ่านแดนในพื้นที่ชายแดน 7 จังหวัด ทำให้แรงงานที่ใช้บัตรผ่านแดน (Border Pass) และได้รับอนุญาตให้ทำงานตามมาตรา 64 แห่งพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวฯ ไม่สามารถเดินทางเข้า-ออกได้ทันเวลา ส่งผลให้เกิดสถานะการพำนักเกินกำหนด (Overstay) และเป็นบุคคลที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
ข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน 2568 ระบุว่า มีแรงงานชาวกัมพูชากลุ่มนี้ที่สิ้นสุดระยะเวลาการพำนักแล้วจำนวน 47,348 คน โดยใบอนุญาตบางส่วนจะทยอยหมดอายุไปจนถึงสิ้นเดือนกันยายน 2568
นอกจากการผ่อนผันให้อยู่ต่อแล้ว ครม.ยังเห็นชอบให้ยกเว้นโทษเปรียบเทียบปรับในกรณีที่แรงงานอยู่เกินระยะเวลาที่ได้รับอนุญาต โดยแรงงานสามารถยื่นคำขออนุญาตทำงานได้ด้วยตนเอง หรือผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกระทรวงแรงงาน พร้อมเอกสารหลักฐานที่กำหนด และชำระค่าธรรมเนียมยื่นคำขอ 100 บาท และค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงาน 225 บาท ภายใน 30 วัน
แรงงานต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพ ณ สถานพยาบาลของรัฐ และขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตน หากอยู่ในกิจการที่ไม่อยู่ภายใต้กฎหมายประกันสังคม เช่น คนรับใช้ในบ้าน แรงงานเกษตร ประมง หรือแรงงานตามฤดูกาล จะต้องทำประกันสุขภาพตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งไม่สามารถใช้ประกันสุขภาพจากบริษัทเอกชนแทนได้ เมื่อดำเนินการครบถ้วน นายทะเบียนจะอนุญาตให้ทำงานได้ครั้งละ 3 เดือน และหากประสงค์จะทำงานต่อ ต้องยื่นคำขอใหม่ตามขั้นตอนและอัตราค่าธรรมเนียมเดิม