นายสุรชาติ เทียนทอง ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ภายใต้นโยบายของกระทรวงการคลัง ได้กำชับให้กรมศุลกากรดำเนินการปราบปรามสิ่งผิดกฎหมายทุกรูปแบบ โดยมุ่งเน้นการปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายที่ส่งผลต่อสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชน และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจในด้านการนำเข้าและส่งออกสินค้า ทำให้ในช่วง 3 เดือน ของไตรมาสที่ 3 ในปีงบประมาณ 2568 สามารถจับกุมบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์รวมกว่า 120,000 ชิ้น บุหรี่ต่างประเทศ และบุหรี่ไทย 2,300,000 มวน ตู้คีบตุ๊กตา 200 ตู้ เครื่องสำอางไม่มีใบอนุญาต 17,000 ชิ้น สินค้ากระเป๋า รองเท้า หมึกเครื่องพิมพ์ ละเมิดสิทธิ์เครื่องหมายการค้าต่างๆ 9,000 ชิ้น
รวมถึงสกัดกั้นสินค้าที่เข้าข่ายเป็นความผิด ภายใต้อนุสัญญาบาเซล 1,300 ตัน โดยคิดเป็นมูลค่าการจับกุมและความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 88 ล้านบาท นอกจากนี้เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรร่วมกับตัวแทนสิทธิ์เครื่องหมายการค้าในไทย ทำการจับกุมสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าจำนวนมากที่มีการปลอมแปลงอย่างแนบเนียน จึงขอให้ประชาชนตรวจสอบสินค้าและบริการต่างๆ ให้ละเอียดและเลือกซื้อสินค้าจากแหล่งจำหน่ายที่มีความน่าเชื่อถือ หากพบข้อสงสัยที่เกี่ยวกับกรมศุลกากร สามารถติดต่อมาได้ที่สายด่วน 1164
ด้านนายดิเรก คชารักษ์ รองอธิบดีกรมศุลกากร กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมศุลกากรได้ดำเนินการทำลายตู้คีบตุ๊กตาและส่วนประกอบที่ลักลอบนำเข้าโดยฝ่าฝืนกฎหมายศุลกากรและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นของกลางที่คดีถึงที่สุดแล้วโดยวิธีบดทำลาย เพื่อป้องกันไม่ให้หมุนเวียนเข้าสู่ตลาดหรือถูกนำไปใช้ในลักษณะผิดกฎหมายอีกครั้ง
