นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยถึงสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ได้รับรายงานจาก ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ว่า ขณะนี้มีโรงเรียนในพื้นที่ชายแดนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบต้องประกาศปิดการเรียนการสอนแล้วจำนวนทั้งสิ้น 582 แห่ง ครอบคลุม 4 จังหวัด ได้แก่ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี และบุรีรัมย์ โดยในช่วงเช้า ได้เกิดเหตุการณ์ทหารกัมพูชาใช้อาวุธปะทะกับทหารไทย ส่งผลกระทบต่อเด็กนักเรียนในพื้นที่ มีนักเรียนได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 ราย และเสียชีวิตอีก 2 ราย แต่ขณะเกิดเหตุการณ์ ได้มีการอพยพนักเรียนเข้าสู่หลุมหลบภัยเพื่อความปลอดภัย และเมื่อสถานการณ์เริ่มสงบลงจึงอนุญาตให้เดินทางกลับบ้านได้ ซึ่งจากรายงานระบุว่า นักเรียนที่เสียชีวิตกำลังเดินทางกลับบ้าน ขณะเดียวกัน ได้มีคำสั่งให้โรงเรียนที่ตั้งอยู่นอกแนวตะเข็บชายแดนแต่ยังอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง จัดตั้งเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวสำหรับรองรับประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้สามารถดูแลความปลอดภัยของนักเรียน ครู และประชาชนได้อย่างทั่วถึง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการให้ความช่วยเหลือและการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้เตรียมจัดสรรกองทุนเพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างเหมาะสม ในส่วนของระยะเวลาการปิดโรงเรียนในพื้นที่นั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจน โดยจะต้องรอประกาศหรือข้อสั่งการจากหน่วยงานด้านความมั่นคงเป็นหลัก สำหรับแนวทางการจัดการเรียนการสอนในช่วงที่โรงเรียนปิดการเรียนการสอน ทางกระทรวงศึกษาธิการจะดำเนินการในรูปแบบเดียวกับช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อให้การเรียนรู้ของนักเรียนยังคงดำเนินต่อไปได้อย่างต่อเนื่องและปลอดภัย