นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ติดตามสถานการณ์แม่น้ำโขง พบว่า อิทธิพลจากพายุโซนร้อน”วิภา” ปกคลุมบริเวณสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว) คาดว่าพายุจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงต่อไป ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 23-24 กรกฎาคม 2568 บริเวณแขวงหลวงพระบาง สปป.ลาว รวมทั้งภาคเหนือและภาคตะวันออเฉียงเหนือของประเทศไทย มีปริมาณฝนตกหนักมาก ประกอบกับเขื่อนไซยะบุรีมีปริมาณน้ำไหลผ่านประมาณ 17,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำในพื้นที่แม่น้ำโขงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สทนช.ได้คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์แม่น้ำโขง ในช่วงวันที่ 25-29 กรกฎาคม 2568 จังหวัดเลย อำเภอเชียงคาน ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นประมาณ 2.00-4.00 เมตร ยังคงต่ำกว่าตลิ่ง 0.85 เมตร จังหวัดหนองคาย อำเภอเมืองหนองคาย ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นประมาณ 3.00-4.00 เมตร และคาดว่าระดับน้ำจะมีแนวโน้มสูงกว่าตลิ่ง 0.30-0.50 เมตร จังหวัดบึงกาฬ อำเภอเมืองกาฬ ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นประมาณ 0.50-3.00 เมตร และคาดว่าระดับน้ำจะมีแนวโน้มสูงกว่าตลิ่ง 0.50-1.00 เมตร จังหวัดนครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญและอุบลราชธานี ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นประมาณ 1.00-3.00 เมตร ยังคงต่ำกว่าตลิ่ง 0.50-1.50 เมตร
ทั้งนี้ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดริมแม่น้ำโขง เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งและท่วมขังบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำโขงและริมลำน้ำบางสาขาของประเทศไทยที่ไม่สามารถระบายน้ำลงสู่แม่น้ำโขงได้โดยสะดวก และโปรดประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขงและแจ้งเตือนให้ประชาชนที่สัญจรและประกอบกิจกรรมในบริเวณแม่น้ำโขง รวมทั้งผู้ที่อาศัยในพื้นที่บริเวณดังกล่าว ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเตรียมการเฝ้าระวังผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำในแม่น้ำโขง