ไทยชี้กัมพูชาบิดเบือนข้อมูลกรณีปราสาทพระวิหาร ยืนยันไม่มีการรุกราน-หลักฐานไม่ตรงข้อเท็จจริง

นายนิกรเดช พลางกูล อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า การเผยแพร่ข้อมูลเท็จและบิดเบือนข้อเท็จจริงจากฝ่ายกัมพูชายังคงเป็นไปอย่างเป็นระบบ แม้กัมพูชาจะแสดงตนว่าเป็นสมาชิกที่มีความรับผิดชอบต่อประชาคมโลก แต่กลับดำเนินการเผยแพร่ข่าวสารที่ผิดจากข้อเท็จจริงอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายเพื่อปกปิดต้นตอของความรุนแรงและบ่อนทำลายเสถียรภาพ ความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ของประเทศไทยในเวทีระหว่างประเทศ ซึ่งตัวอย่างหนึ่งของการบิดเบือนคือข้อกล่าวหาที่ว่า กองทัพไทยรุกรานและทำลายปราสาทพระวิหาร ซึ่งเป็นการกล่าวอ้างโดยปราศจากหลักฐานและไม่เป็นความจริงอย่างสิ้นเชิง โดยเหตุปะทะเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา ฝ่ายกัมพูชาเป็นผู้เปิดฉากใช้อาวุธก่อน บริเวณห้วยตามะเรียและภูมะเขือ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวปราสาทพระวิหารถึง 2 กิโลเมตร จึงเป็นไปไม่ได้ที่กระสุนหรือสะเก็ดระเบิดใดๆ จะสร้างความเสียหายแก่โบราณสถานดังกล่าว ทั้งนี้ ฝ่ายไทยได้จัดส่งหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงไปยังองค์การยูเนสโกแล้ว นอกจากนี้ กัมพูชายังเผยแพร่ภาพถ่ายประกอบข่าวที่ไม่สามารถระบุวันและเวลาของเหตุการณ์ได้อย่างชัดเจน โดยผู้เชี่ยวชาญได้แสดงความเห็นว่า ภาพที่ถูกนำมาใช้นั้นเป็นภาพเก่าที่มีร่องรอยความเสียหายเดิมอยู่แล้ว และถูกนำเสนออย่างจงใจเพื่อสร้างความเข้าใจผิดในหมู่ประชาคมระหว่างประเทศ

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวย้ำว่า ความไม่สุจริตของกัมพูชายังปรากฏอย่างต่อเนื่องผ่านการเผยแพร่ข้อมูลเท็จและปลอมแปลงข้อเท็จจริง รวมถึงการใช้ยุทธวิธีที่ละเมิดต่อหลักมนุษยธรรม โดยเฉพาะการใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์และการตั้งใจใช้โบราณสถานเป็นฉากกำบังในการโจมตีฝ่ายไทย และขอย้ำว่าการดำเนินการของฝ่ายไทยในการรับมือสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ยังคงยึดมั่นอยู่บนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ หลักมนุษยธรรมและความรับผิดชอบในฐานะสมาชิกที่มีความรับผิดชอบในเวทีโลก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง