นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้ออกมาตรการช่วยเหลือเร่งด่วนแก่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา รวมถึงอิทธิพลของพายุ “วิภา” เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและฟื้นฟูคุณภาพชีวิต
สำหรับมาตรการด้านสินเชื่อเร่งด่วนจากกรณีชายแดน มี 2 โครงการหลัก ได้แก่
1. โครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน ปี 2568
สนับสนุนค่าใช้จ่ายจำเป็นในครัวเรือน อัตราดอกเบี้ย 0% ในช่วง 6 เดือนแรก และหลังจากนั้นคิดดอกเบี้ยตามอัตรา MRR (6.725%) วงเงินกู้รายละไม่เกิน 50,000 บาท ผ่อนชำระไม่เกิน 3 ปี
2. โครงการสินเชื่อฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิต
ครอบคลุมค่าซ่อมบ้านเรือน เครื่องมือการเกษตร และการลงทุนทำการเกษตรรอบใหม่ วงเงินรายละไม่เกิน 500,000 บาท อัตราดอกเบี้ย MRR-2 และผ่อนชำระได้นานสูงสุด 15 ปี
ขณะเดียวกัน ธ.ก.ส. ยังออกมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากพายุ “วิภา” ด้วยการเลื่อนชำระหนี้สูงสุดไม่เกิน 1 ปี โดย ไม่คิดดอกเบี้ยปรับ สามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่ ธ.ก.ส. สาขาในพื้นที่ ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568
นอกจากนี้ รัฐบาลยังเตรียมวงเงินรวม 20,000 ล้านบาท สำหรับมาตรการเสริมสภาพคล่องและการฟื้นฟูครอบคลุมทุกประเภทความเสียหาย ทั้งที่อยู่อาศัย โรงเรือน เครื่องจักร และการผลิตด้านการเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติในภาพรวม
ขอให้เกษตรกรมั่นใจว่า รัฐบาลไม่ทอดทิ้ง พร้อมดูแลเต็มที่ โดยมอบหมายให้ ธ.ก.ส. ลงพื้นที่ช่วยเหลือในเบื้องต้น และเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย จะเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อกำหนดแนวทางช่วยเหลือระยะยาวต่อไป
